จดหมายเปิดผนึกถึงนายกแพทยสมาคมแห่งประเทศไทย
๙๙๙/๓๘ วิภาวดีรังสิตซอย ๖๐หลักสี่ กทม. ๑๐๒๑๐
๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๕
เรื่อง ขอให้พิจารณาดำเนินการให้มีการยกเลิกมาตรการที่ละเมิดสิทธิผู้ป่วยและละเมิดสิทธิผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม
เรียน นายกแพทยสมาคมแห่งประเทสไทย (นพ.วันชาติ ศุภจัตุรัส)
อ้างถึง ๑.หนังสือที่ กค.๐๔๒๒.๒/ว.๑๑๐ ลงวันที่ ๒ ตุลาคม ๒๕๕๕ เรื่อง การระบุเหตุผลการใช้ยา นอกบัญชียาหลักแห่งชาติเพื่อใช้ประกอบการเบิกจ่าย
๒. หนังสือที่ กค.๐๔๒๒.๒/ว.๑๔๖ ลงวันที่ ๒ ตุลาคม ๒๕๕๕ เรื่อง การห้ามเบิกค่ายากลูโคซามีนซัลเฟต
๓.
http://www.mat.or.th/eng/introduction.php Inception of the Orgation.
ด้วยปรากฏว่ากระทรวงการคลังโดยนางสาวสุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง หัวหน้ากลุ่มภารกิจ ด้านรายจ่ายและหนี้สิน ได้ออกหนังสือ(อ้างถึง๑ และ ๒) ถึงหัวหน้าส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ ในกำกับดูแลของรัฐบาล และสถานพยาบาลที่กระทรวงการคลังกำหนด ดังรายละเอียดแจ้งอยู่แล้ว นั้น
เนื่องจากการกระทำและหรือมาตรการตามหนังสือ(ที่อ้างถึง ๑ และ ๒) มีผลโดยตรงเป็นการบังคับให้แพทย์ผู้ทำหน้าที่ในการตรวจรักษาผู้ป่วยในระบบสวัสดิการข้าราชการไม่สามารถใช้อัตวินิจฉัยในการรักษาผู้ป่วย ถึงขนาดกระทบต่อมาตรฐานวิชาชีพและจริยธรรมของแพทย์ อันเป็นการกระทำที่ขัดต่อแนวนโยบายแห่งรัฐ ด้านสาธารณสุข ที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๘๐(๒) แห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ ที่มุ่งส่งเสริมให้ประชาชน ได้รับบริการสาธารณสุข ที่มีมาตรฐานและมีประสิทธิภาพ โดยแพทย์ซึ่งได้ปฏิบัติหน้าที่ ตามมาตรฐานวิชาชีพและจริยธรรม ย่อมได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย
ในขณะเดียวกันก็กระทบต่อสิทธิของผู้ป่วย ตามมาตรา ๕๑ แห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ ที่บัญญัติไว้ว่าบุคคลย่อมมีสิทธิเสมอกันในการรับบริการสาธารณสุขที่เหมาะสมและได้มาตรฐาน
มิพักต้องกล่าวถึงว่า เป็นการละเมิดผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ที่ไม่สามารถจะสั่งการรักษาผู้ป่วยตามข้อบังคับแพทยสภาหมวด 4 ข้อ 15 ที่ว่า ผู้ประกอบวิชาชีพต้องรักษามาตรฐานของการประกอบวิชาชีพเวชกรรมในระดับดีที่สุด
ในฐานะที่ท่านดำรงตำแหน่งนายกแพทยสมาคมแห่งประเทศไทย ที่มีวัตถุประสงค์ตั้งแต่ต้นตามสิ่งที่อ้างถึง๓ ที่จะแสวงหาความร่วมมือจากสมาชิกและองค์กรภาครัฐและองค์กรวิชาชีพ ในการที่จะส่งเสริมให้แพทย์ทุกคนสามารถประกอบวิชาชีพได้ตามจริยธรรมและมาตรฐานทางการแพทย์ในระดับนานาชาติทั้งในปัจจุบันและอนาคต
แต่คำสั่งของกระทรวงการคลังตามที่อ้างถึงนี้ เป็นการละเมิดแพทย์ซึ่งเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ที่ไม่สามารถเลือกสั่งยาที่ดีและเหมาะสมที่สุด ในการรักษาผู้ป่วยของตน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหนังสือที่อ้างถึง ๒ นั้น เป็นการบังคับให้แพทย์ต้องเลือกยาที่เลวที่สุดก่อน รอจนผู้ป่วยมีผลข้างเคียง อาการแทรกซ้อน อาการไม่พึงประสงค์จากยา หรือไม่ตอบสนองต่อการรักษาแล้ว แพทย์จึงจะสามารถเปลี่ยนมาใช้ยาที่เหมาะสมที่สุดได้ ถ้าแพทย์ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามนี้แล้ว กรมบัญชีกลางจะไปเรียกเงินค่ายาคืนจากโรงพยาบาลและแพทย์ผู้สั่งใช้ยาอีกด้วย
นับเป็นการละเมิดและบีบบังคับแพทย์ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมอย่างรุนแรงที่สุดไม่ให้สามารถรักษาจริยธรรมแห่งการประกอบวิชาชีพเวชกรรมได้ มิพักต้องกล่าวถึงว่าเป็นการละเมิดสิทธิผู้ป่วยอย่างหนักหนาสาหัสเช่นเดียวกัน
จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาดำเนินการในฐานะนายกแพทยสมาคมแห่งประเทศไทย ทำการแทนมวลสมาชิกของพทยสมาคม ในการดำเนินการให้มีการยกเลิกเพิกถอนหนังสือของกระทรวงการคลังที่อ้างถึงทั้ง 2 ฉบับเป็นกรณีเร่งด่วนที่สุด ก่อนที่จะเกิดความเสียหายต่อผู้ป่วยและแพทย์ อันยากต่อการเยียวยาในภายหลัง
ขอแสดงความนับถือ
(พญ.เชิดชู อริยศรีวัฒนา)
สมาชิกแพทยสมาคมแห่งประเทศไทย
ประธานกลุ่มพิทักษ์สิทธิพลเมือง
ประธานสหพันธ์ผู้ปฏิบัติงานด้านการแพทย์และสาธารณสุขแห่งประเทศไทย (สผพท.)