46
ห้องพักผ่อนรวม (Common Room) / "เฮลซิงกิ" เมืองปลอดรถยนต์ส่วนตัว
« เมื่อ: 27 กรกฎาคม 2014, 00:59:49 »
เฮลซิงกิ เมืองหลวงของประเทศฟินแลนด์ เพิ่งประกาศแผนเปลี่ยนแปลงเครือข่ายระบบขนส่งสาธารณะขนานใหญ่
โดยจะให้เป็นการขนส่งมวลชนที่ครอบคลุมทุกเครือข่ายและตรงกับความต้องการของคนเดินทาง โดยตั้งเป้าจะให้แล้วเสร็จภายในปี 2025 ซึ่งถ้าแผนนี้สำเร็จจะทำให้ความจำเป็นที่ต้องมีรถยนต์ส่วนตัวนั้นหมดไป
ระบบขนส่งสาธารณะแบบใหม่จะช่วยให้คนที่ต้องการเดินทางสามารถเลือกซื้อวิธีการเดินทางตามเวลาที่ต้องการเดินทางจริงผ่านทางสมาร์ทโฟน ระบบนี้จะทำให้ค่าเดินทางถูกลง วิธีเดินทางมีความยืดหยุ่นมากขึ้น สะดวกสบายมากขึ้นและมีการจัดการที่ดีจนคนไม่อยากเป็นเจ้าของรถส่วนตัวอีกเลย
การทำงานของระบบใหม่นี้จะเริ่มจากการให้ผู้โดยสารระบุต้นทางและปลายทาง จากนั้นแอพลิเคชั่นที่ออกแบบมาเพื่อรองรับระบบใหม่นี้ก็จะออกแบบแผนการเดินทางและรูปแบบการชำระเงินที่เป็นสากล ผู้โดยสารสามารถเลือกที่จะเดินทางโดยวิธีใดก็ได้ตั้งแต่รถยนต์ไร้คนขับ รถเมล์เล็ก การปั่นจักรยานและการนั่งเรือข้ามฟาก เรียกว่าเป็นการรวมเอาระบบขนส่งมวลชนทุกประเภทเข้าเป็นเครือข่ายเดียวกัน
ลองนึกภาพการนำ Citymapper แอพลิเคชั่นวางแผนการเดินทางยอดนิยมรวมเข้ากับบริการเช่าจักรยานและแอพลิเคชั่นให้บริการรถแท็กซี่เช่น Hailo หรือ Uber โดยบริการทุกอย่างสามารถสั่งได้โดยผ่านการชำระเงินเพียงครั้งเดียว แล้วจะเข้าใจว่าทำไมเฮลซิงกิถึงอยากได้บริการการขนส่งสาธารณะแบบนี้เพราะมันสะดวกสบายมาก
การขนส่งระดับภูมิภาคแห่งเฮลซิงกิได้ไอเดียนี้หลังจากเห็นความสำเร็จของแอพลิเคชั่น Kutsuplus ที่ให้บริการรถมินิแวน โดยผู้ใช้บริการสามารถส่งคำสั่งระบุจุดที่ต้องการให้รถไปรับและส่งผ่านทางสมาร์ทโฟน Kutsuplus จะคำนวณเส้นทางที่เหมาะสมและใกล้ที่สุดเพื่อให้ผู้ใช้บริการมีความพึงพอใจมากที่สุด
คงต้องรอดูว่าไอเดียนี้จะประสบความสำเร็จและตอบโจทย์ของเฮลซิงกิได้หรือไม่ เพราะนอกจากจะต้องทำให้ค่าบริการถูกแล้ว ผู้ให้บริการขนส่งสาธารณะยังต้องทำให้ประชาชนโดยทั่วไปเข้าถึงบริการได้ด้วย ไม่ใช่เสนอบริการให้เฉพาะคนที่มีสมาร์ทโฟนกลุ่มเดียว แต่ปัญหานี้อาจจะหมดไป เพราะในอีก 10 ปีข้างหน้าทุกคนคงมีสมาร์ทโฟนใช้หมดแล้ว
แน่นอนว่า เฮลซิงกิไม่ได้กำลังเสนอให้ตัวเองเป็นเมืองปลอดรถยนต์ เพราะชาวฟินแลนด์หลายคนมักมีกระท่อมฤดูร้อนในชนบทที่ยังต้องพึ่งพารถยนต์ในการเดินทางไป กระนั้นก็ตาม ความคิดริเริ่มนี้ของเฮลซิงกิก็แสดงให้เห็นว่าอย่างน้อยก็มีเมืองๆ หนึ่งที่เข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องมีระบบขนส่งสาธารณะที่รวมทุกโครงข่ายเข้าด้วยกัน
....................................
ที่มา เว็บไซต์การ์เดี้ยน
โดย : อะตอม
กรุงเทพธุรกิจ 26 กรกฎาคม 2557
โดยจะให้เป็นการขนส่งมวลชนที่ครอบคลุมทุกเครือข่ายและตรงกับความต้องการของคนเดินทาง โดยตั้งเป้าจะให้แล้วเสร็จภายในปี 2025 ซึ่งถ้าแผนนี้สำเร็จจะทำให้ความจำเป็นที่ต้องมีรถยนต์ส่วนตัวนั้นหมดไป
ระบบขนส่งสาธารณะแบบใหม่จะช่วยให้คนที่ต้องการเดินทางสามารถเลือกซื้อวิธีการเดินทางตามเวลาที่ต้องการเดินทางจริงผ่านทางสมาร์ทโฟน ระบบนี้จะทำให้ค่าเดินทางถูกลง วิธีเดินทางมีความยืดหยุ่นมากขึ้น สะดวกสบายมากขึ้นและมีการจัดการที่ดีจนคนไม่อยากเป็นเจ้าของรถส่วนตัวอีกเลย
การทำงานของระบบใหม่นี้จะเริ่มจากการให้ผู้โดยสารระบุต้นทางและปลายทาง จากนั้นแอพลิเคชั่นที่ออกแบบมาเพื่อรองรับระบบใหม่นี้ก็จะออกแบบแผนการเดินทางและรูปแบบการชำระเงินที่เป็นสากล ผู้โดยสารสามารถเลือกที่จะเดินทางโดยวิธีใดก็ได้ตั้งแต่รถยนต์ไร้คนขับ รถเมล์เล็ก การปั่นจักรยานและการนั่งเรือข้ามฟาก เรียกว่าเป็นการรวมเอาระบบขนส่งมวลชนทุกประเภทเข้าเป็นเครือข่ายเดียวกัน
ลองนึกภาพการนำ Citymapper แอพลิเคชั่นวางแผนการเดินทางยอดนิยมรวมเข้ากับบริการเช่าจักรยานและแอพลิเคชั่นให้บริการรถแท็กซี่เช่น Hailo หรือ Uber โดยบริการทุกอย่างสามารถสั่งได้โดยผ่านการชำระเงินเพียงครั้งเดียว แล้วจะเข้าใจว่าทำไมเฮลซิงกิถึงอยากได้บริการการขนส่งสาธารณะแบบนี้เพราะมันสะดวกสบายมาก
การขนส่งระดับภูมิภาคแห่งเฮลซิงกิได้ไอเดียนี้หลังจากเห็นความสำเร็จของแอพลิเคชั่น Kutsuplus ที่ให้บริการรถมินิแวน โดยผู้ใช้บริการสามารถส่งคำสั่งระบุจุดที่ต้องการให้รถไปรับและส่งผ่านทางสมาร์ทโฟน Kutsuplus จะคำนวณเส้นทางที่เหมาะสมและใกล้ที่สุดเพื่อให้ผู้ใช้บริการมีความพึงพอใจมากที่สุด
คงต้องรอดูว่าไอเดียนี้จะประสบความสำเร็จและตอบโจทย์ของเฮลซิงกิได้หรือไม่ เพราะนอกจากจะต้องทำให้ค่าบริการถูกแล้ว ผู้ให้บริการขนส่งสาธารณะยังต้องทำให้ประชาชนโดยทั่วไปเข้าถึงบริการได้ด้วย ไม่ใช่เสนอบริการให้เฉพาะคนที่มีสมาร์ทโฟนกลุ่มเดียว แต่ปัญหานี้อาจจะหมดไป เพราะในอีก 10 ปีข้างหน้าทุกคนคงมีสมาร์ทโฟนใช้หมดแล้ว
แน่นอนว่า เฮลซิงกิไม่ได้กำลังเสนอให้ตัวเองเป็นเมืองปลอดรถยนต์ เพราะชาวฟินแลนด์หลายคนมักมีกระท่อมฤดูร้อนในชนบทที่ยังต้องพึ่งพารถยนต์ในการเดินทางไป กระนั้นก็ตาม ความคิดริเริ่มนี้ของเฮลซิงกิก็แสดงให้เห็นว่าอย่างน้อยก็มีเมืองๆ หนึ่งที่เข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องมีระบบขนส่งสาธารณะที่รวมทุกโครงข่ายเข้าด้วยกัน
....................................
ที่มา เว็บไซต์การ์เดี้ยน
โดย : อะตอม
กรุงเทพธุรกิจ 26 กรกฎาคม 2557