จวกยับ! "หมอใหญ่" ขับรถชน รปภ. ในกระทรวง สธ. ซ้ำยังเหยียบร่างลากไปไกลอีกกว่า 20 เมตร อาการสาหัส ผ่าตัดสมอง 2 รอบยังไม่ฟื้น ญาติเข้าทำพิธีเรียกขวัญ คาดผู้ขับมีอาการเมา สธ.และผู้เกี่ยวข้องเตรียมแถลงข้อเท็จจริง 16.00 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในสื่อสังคมออนไลน์มีการแชร์กรณีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) ในกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ถูกนายแพทย์ซึ่งเป็นระดับผู้บริหารของ สธ.ขับรถชนบริเวณประตูกระทรวงสาธารณสุขฝั่งสถาบันบำราศนราดูร เมื่อคืนวันที่ 10 พ.ย. 2560 เวลา 20.10 น. จนมีอาการสาหัส โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่ รปภ.กำลังปิดประตู แต่แพทย์คนดังกล่าวได้ขับรถเข้าชนเข้ากับ รปภ.และประตู ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมากถึงกรณีเมาแล้วขับหรือไม่
วันนี้ (13 พ.ย.) พญ.พรรณพิมล วิปุลากร รองปลัด สธ. กล่าวว่า เรื่องนี้ สธ.ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้มีการประสานกับนายแพทย์ท่านนี้ ซึ่งปฏิบัติราชการประจำทางภาคใต้ โดยได้ประสานให้รีบขึ้นมาที่ กทม. เพื่อร่วมแถลงข้อเท็จจริงในช่วงบ่ายหรืออย่างช้าช่วงเย็นวันนี้ อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นจากการสอบถามเมื่อเกิดเหตุได้นำส่ง รปภ.ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า ส่วนครอบครัวของทาง รปภ. ขณะนี้สธ.มีมาตรการและกำชับผู้ที่เกี่ยวข้องให้ดูแลอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เรื่องคดีขอให้รอการแถลงของแพทย์ท่านนี้ต่อไป
แหล่งข่าวที่เห็นเหตุการณ์ เปิดเผยว่า รปภ.ที่ถูกรถชนคือ นายสมชาย ยามดี หรือนายนัท เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยใน สธ. โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 10 พ.ย. 2560 เวลาประมาณ 20.30 น. โดยมีรถยนต์ฮอนด้าสีขาว จำทะเบียนรถไม่ได้ ขับมาด้วยความเร็วจากทางสถาบันบำราศนราดูร มุ่งหน้าเข้า สธ. โดยขณะนั้นนายสมชายกำลังนำกุญแจมาคล้องประตู เนื่องจากปกติจะปิดประตูดังกล่าวในช่วงเวลา 20.00 น. รถคันดังกล่าวจึงพุ่งเข้ามาอัดร่างของนายสมชายและประตูอย่างจัง จนร่างนายสมชายมุดเข้าไปใต้ท้องรถ และผู้ขับรถคันดังกล่าวยังเหยียบคันเร่งลากร่างของนายสมชายออกไปไกลประมาณ 20 กว่าเมตร ทำให้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของผู้พบเห็นเหตุการณ์
"จากสภาพของผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าว สวมเสื้อสีฟ้า เปิดประตูลงจากรถด้วยสภาพเดินเซ ใบหน้าแดงก่ำ ขณะที่ รปภ.ที่ถูกชนไม่รู้สึกตัวแล้ว จึงถูกนำส่ง รพ.พระนั่งเกล้า ได้รับการผ่าตัดสมอง 2 ครั้ง และจนถึงขณะนี้ยังไม่รู้สึกตัว โดยอยู่ในห้องผู้ป่วยวิกฤต โดยเมื่อวันที่ 12 พ.ย. ทางญาติได้มาทำพิธีเรียกขวัญ" แหล่งข่าวผู้เห็นเหตุการณ์ ระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุพบว่า สภาพเสาของประตูมีการแตกร้าวของปูน ซึ่งคาดว่าน่าจะเกิดจากการถูกชนอย่างแรง โดยต้องนำหินไปทับไว้ที่ประตูรั้ว เนื่องจากรั้วหลุดไม่ได้สามารถล็อกได้ ขณะที่ผิวถนนยังพบร่องรอยของล้อรถยนต์ แม้จะมีการเข้ามาทำความสะอาดสถานที่เกิดเหตุแล้ว โดยเวลา 16.00 น. ผู้ที่เกี่ยวข้อง และ สธ.จะแถลงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่สำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุข
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มาตรา 43 (2) พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 ห้ามมิให้ผู้ขับขี่ขับรถในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่น ต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกิน 1 ปีหรือ ปรับตั้งแต่ 5,000 บาทถึง 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของผู้นั้นมีกําหนดไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ โทษในเรื่องของการเมาแล้วขับแล้วทำให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจ ต้องระวางโทษ จำคุกตั้งแต่ 1 - 5 ปี ปรับ 20,000 - 100,000 บาท พักใช้ใบอนุญาตฯ ไม่น้อยกว่า 1 ปี หรือเพิกถอนใบอนุญาตฯ กรณีเมาแล้วขับแล้วเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส ต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่ 2 - 6 ปี และปรับตั้งแต่ 40,000 - 120,000 บาท พักใช้ใบอนุญาตไม่น้อยกว่า 2 ปี หรือเพิกถอนใบอนุญาต และหากเมาแล้วขับเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษ จำคุกตั้งแต่ 3 - 10 ปี ปรับ 60,000 - 200,000 บาทรวมทั้งเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่
13 พ.ย. 2560
โดย: MGR Online