ผู้เขียน หัวข้อ: ปีมังกร และ 9 มังกรฟ้า  (อ่าน 1637 ครั้ง)

seeat

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 470
    • ดูรายละเอียด
ปีมังกร และ 9 มังกรฟ้า
« เมื่อ: 02 กุมภาพันธ์ 2012, 22:05:06 »
อ.ทศพร ศรีตุลา เตือนสติรับตรุษจีน แนะวิธีปรับตัวรับปีนักษัตร 'มังกรธาตุน้ำ' ปีแห่งการเลื่อนไหล ทำความรู้จักปีมังกรและตำนาน '9 มังกรฟ้า'

ตามตำราโหราศาสตร์ไทย ปี พ.ศ. 2555 ตรงกับปีนักษัตร มะโรง หรือปีงูใหญ่สำหรับชาวล้านนา ซึ่งยังหมายถึง พญานาค ได้ด้วย ในขณะที่ปีนักษัตรตำราจีนถือว่าเป็น มังกร ดังนั้นเทศกาลตรุษจีนปีนี้ หรือเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ 2555 ชาวจีนจึงให้ความสำคัญกับ 'มังกร' เพราะถือเป็นสัตว์เทพเจ้าแห่งสรวงสวรรค์ เทพแห่งการปกป้องและคุ้มครอง ปัดเป่าวิญญาณชั่วร้าย ปกป้องผู้บริสุทธิ์ ผู้ถือสัญลักษณ์มังกรเชื่อว่าทำให้รอดพ้นจากภัยอันตรายต่างๆ นานาได้ เป็นสัญลักษณ์ที่นำมาซึ่งความสุข ความอุดมสมบูรณ์ของบ้านเมือง และความโชคดีสูงสุด
         นอกจากนี้ 'มังกร' ยังแสดงถึงพลังอำนาจและคุณงามความดี ความองอาจกล้าหาญ ความเป็นวีรบุรุษ ความมีคุณธรรมอันสูงส่ง ความยิ่งใหญ่ดุจเทพเจ้า และเสริมสร้างความมั่นใจ เนื่องจากมังกรจีนนั้นไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคขวากหนามใดๆ จนกว่าจะทำในสิ่งที่ต้องการได้สำเร็จ
         นี่คือมังกรที่คนส่วนใหญ่รู้จัก แต่จริงๆ แล้ว 'มังกรจีน' ยังแบ่งออกเป็นอีก 9 ลักษณะ แต่ละลักษณะมีรูปลักษณ์พิเศษแตกต่างกัน มีชื่อเรียกต่างกันไปครบทั้งเก้าลักษณะ ซึ่งมังกรทั้งเก้านี้คือ ลูกมังกร ของเทพมังกรแห่งฟ้านั่นเอง
         เล่ากันว่าตำนาน 9 มังกรฟ้า หรือ 'ลูกมังกรทั้งเก้า' เกิดขึ้นในช่วงปลายราชวงศ์หยวน แผ่นดินจีนลุกเป็นไฟ เกิดศึกสงครามไม่สิ้น ราษฎรอดอยากแสนเข็ญ เง็กเซียนฮ่องเต้จึงส่งเทพข้างกายลงมาเกิดเป็นมนุษย์ชื่อ หลิวป๋อเวิน เพื่อช่วยกอบกู้ภัยพิบัติ พร้อมมอบกระบี่ประกาศิตที่สามารถสั่งการ 'พญามังกร' แต่เนื่องจากเวลานั้น พญามังกรชรามากแล้ว จึงส่งบุตรทั้งเก้าลงไปรับภารกิจนี้แทน
         ลูกมังกรฟ้าทั้งเก้าต่างมีอิทธิฤทธิ์แกร่งกล้า ติดตามหลิวป๋อเวินออกศึกนับครั้งไม่ถ้วน  จนสามารถสถาปนาแผ่นดินต้าหมิงสำเร็จ  เมื่อภารกิจเสร็จสิ้นสมบูรณ์ จึงคิดกลับคืนสู่สรวงสวรรค์ แต่ 'ฮ่องเต้หมิงเฉิงจู่' ในขณะนั้นกลับต้องการให้ลูกมังกรทั้งเก้าอยู่ข้างกาย เพื่อช่วยให้ตนเองเป็นใหญ่ในแผ่นดินตลอดไป อ้างเหตุก่อสร้างพระราชวังต้องห้ามที่ปักกิ่ง และยืมดาบประกาศิตหลิวป๋อเวินเพื่อสั่งการ แต่ลูกมังกรทั้งเก้าไม่ยอมสยบ จึงออกอุบายกับลูกมังกรที่เป็นพี่ใหญ่ซึ่งมีพลังมากมายมหาศาล หากแบกศิลาจารึก 'เสินกงเซิ่งเต๋อเปย' ของบรรพบุรุษพระองค์ไปด้วยได้ ก็จะปล่อยให้กลับไป
         ลูกมังกรซึ่งเป็นพี่ใหญ่เห็นว่าเป็นศิลาเล็กก้อนหนึ่ง จึงเข้าไปแบกรับไว้โดยไม่ลังเล แต่ทำอย่างไรก็ไม่อาจยกเคลื่อนไปได้
         ที่แท้ป้ายศิลานั้นจารึกคุณความดีของโอรสสวรรค์ไว้ คติจีนมีคำกล่าวไว้ว่า "คุณความดีนั้นไม่อาจชั่งตวงวัดได้" ทั้งยังมีตราลัญจกรของฮ่องเต้สองสมัย สามารถสยบเทพมารทั้งปวง
         ลูกมังกรที่เหลือเห็นว่าพี่ใหญ่ถูกกดทับอยู่ใต้ศิลาจารึก ต่างไม่อาจหักใจจากไปได้ จึงได้แต่รั้งอยู่บนโลกมนุษย์ต่อไป แต่ให้สัตย์สาบานว่า จะไม่ปรากฏร่างจริงอีก
         ดังนั้น แม้ฮ่องเต้หมิงเฉิงจู่รั้งลูกมังกรทั้งเก้าไว้ได้ แต่ก็เป็นเพียงรูปสลัก หลิวป๋อเวินเมื่อทราบเรื่อง จึงผละจากฮ่องเต้กลับคืนสู่สวรรค์
         ฮ่องเต้หมิงเฉิงจู่รู้สึกเสียใจและสำนึกผิด จึงจัดวางหน้าที่ให้กับลูกมังกรทั้งเก้าที่กลายเป็นรูปสลัก สืบทอดเรื่องราวให้คนรุ่นหลังอย่าเดินตามรอยความผิดพลาดของพระองค์
         ทุกวันนี้หากมีโอกาสเดินชมสถาปัตยกรรมโบราณของจีน เราจะพบรูปสลัก-รูปปั้นที่มีความงามแปลกพิสดาร บ้างปรากฏอย่างเด่นชัด บ้างซุกซ่อนอยู่ตามมุมต่างๆ เช่น ขอบมุมอาคาร บานประตู สะพาน  กำแพง เหนือหลังคา ระฆัง กระถางธูป ฯลฯ รูปปั้นและลวดลายเหล่านี้ส่วนหนึ่งคือรูปลักษณ์ของ ลูกมังกรทั้งเก้า จากตำนานเทพยุคโบราณของจีนนั่นเอง
         ลูกมังกรทั้งเก้า หรือ 9 มังกรฟ้า มีชื่อเรียกต่างๆ ดังนี้
         1. ปี้ซี่  เป็นลูกมังกรตัวแรก หรือเป็นองค์ชายใหญ่ มีลักษณะห้าวหาญ ทรงพลัง รูปลักษณ์ภายนอกคล้ายเต่า มีความสามารถแบกรับน้ำหนักได้ดี ปี้ซี่มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า 'สือกุยหลง' ลักษณะลำตัวเป็นเต่า หัวเป็นมังกร ตามความเชื่อของจีน เต่าเป็นสัญลักษณ์แห่งการมีอายุยืน มังกรปี้ซี่จึงถือเป็นสัญลักษณ์แห่งการมีอายุยืนและเป็นสัญลักษณ์แห่งสิริมงคล ในทางสถาปัตยกรรม นิยมนำรูปแบบของปี้ซี่มาเป็นฐานรองป้ายหินจารึก ป้ายหินสดุดีที่เขียนโดยกษัตริย์ ซึ่งเป็นศิลปะตั้งแต่สมัยราชวงศ์หมิงเป็นต้นมา
         2. ชือเหวิ่น ลูกมังกรตัวที่สอง หัวเป็นมังกร ปากกว้าง ลำตัวสั้น มีลักษณะนิสัยชอบมองทิวทัศน์ ชอบกลืนกินสิ่งของต่างๆ กล่าวกันว่ามีความสามารถในการดับไฟ ชอบกลืนกินไฟ ดังนั้นในทางสถาปัตยกรรมในอดีต จึงนิยมนำมาประดับที่จั่วหลังคาทั้งสองด้านของพระราชวัง หรือพระอารามหลวง เพื่อเป็นเคล็ดในการป้องกันไฟไหม้
         3. ผู๋เหลา ลูกมังกรตัวที่สาม ชอบร้องเสียงดังกังวาน กล่าวกันว่า ผู๋เหล๋ากลัวปลาวาฬ ทุกครั้งที่เห็นวาฬ จะคำรามเสียงดังกังวานเพื่อขับไล่ ดังนั้นจึงนิยมนำรูปแบบของผู๋เหล๋ามาเป็นหูระฆัง เพื่อให้เสียงของระฆังดังกังวานไปไกล ว่ากันว่าในสมัยราชวงศ์หมิง มีพิธีทางศาสนาครั้งใหญ่ โดยได้เคาะระฆังของวัด 'เป้ากั๋ว' เวลาตีหนึ่งสิบห้านาที สามารถส่งเสียงดังกังวานได้ไกลถึง 30 ลี้ หรือราว 5 กิโลเมตร
         4. ปี้อั้น ลูกมังกรตัวที่สี่ รูปลักษณ์ภายนอกคล้ายเสือ มีนิสัยชอบออกมาพูดเพื่อความเป็นธรรม ชี้ขาดด้วยความเป็นธรรม โบราณใช้เป็นสัญลักษณ์ติดอยู่ที่ประตูคุก หรือที่คานด้านนอกประตูของห้องโถงพิจารณาคดีของศาล เพื่อให้คนที่มองเห็นเกิดความเกรงขาม
         5. เทาเที่ย ลูกของมังกรตัวที่ห้า รูปลักษณะภายนอกดูดุร้าย ตาโต ปากกว้าง มีความโลภในทรัพย์สิน โบราณนิยมทำลวดลายส่วนหัวของเทาเที่ยบนเครื่องสำริด โดยเฉพาะเครื่องสำริดที่เกี่ยวกับภาชนะดื่ม-กิน เพื่อเป็นเคล็ดเตือนใจให้กับผู้ที่ใช้เครื่องสำริดไม่โลภในทรัพย์สิน ไม่คดโกง เนื่องจากในสมัยโบราณ บุคคลที่นิยมใช้เครื่องทองสำริด ส่วนมากเป็นขุนนางและผู้ที่มีฐานะทางสังคม
         6. กงฟู่ ลูกของมังกรตัวที่หก นิสัยชอบน้ำ ในทางสถาปัตยกรรมนิยมนำมาทำเป็นปลายท่อระบายน้ำ เช่น ที่พระราชวังกู้กงปักกิ่ง บริเวณฐานยกระดับของตำหนักว่าราชการมีท่อระบายน้ำโดยรอบ ปลายท่อเป็นหัวมังกร จึงเป็นที่มาของคำว่า 'สุ่ยหลงโถว' ถ้าแปลตามตัวอักษรจีนก็แปลว่า 'หัวมังกรน้ำ' หรือแปลเป็นภาษาไทยว่า 'ก๊อกน้ำ' นั่นเอง
         7. หยาจือ ลูกของมังกรตัวที่เจ็ด นิสัยดุร้าย โกรธง่าย มีรัศมีแห่งการสังหาร โบราณนิยมนำมาทำเป็นด้ามอาวุธ หรือลวดลายเป็นอาวุธ เพื่อให้ผู้ใช้อาวุธมีความฮึกเหิม เป็นการเพิ่มพลังใจ และสร้างความกล้าหาญให้กับผู้ใช้อาวุธ
         8. ซวนหนี ลูกของมังกรตัวที่แปด รูปลักษณะภายนอกคล้ายสิงโต นิสัยชอบอยู่นิ่ง ไม่เคลื่อนไหว ชอบนั่งมองดูควันไฟและเปลวไฟ จึงนิยมนำรูปซวนหนีมาประดับที่กระถางธูป หรือกระถางเผาไม้หอม
         9. เจียวถู ลูกของมังกรตัวที่เก้า นิสัยปิดตัวเอง ไม่ชอบให้ใครเข้ามาในถ้ำที่อยู่อาศัยของตน นิยมนำเจียวถูมาติดไว้ที่ประตูบ้าน ประตูซอย (สมัยก่อนตามซอกซอยมีซุ้มประตู) เพื่อป้องกันภัยอันตราย หรือสิ่งที่ไม่เป็นมงคลต่างๆ ไม่ให้เข้ามาภายในบ้าน
         หากมีโอกาสไปเที่ยวชมสถานที่ประวัติศาสตร์ ณ ประเทศจีน หรือสถานที่ที่มีสถาปัตยกรรมจีนโบราณ ลองสังเกตตามจุดต่างๆ ที่กล่าวมา ก็จะพบกับลูกมังกรฟ้าทั้งเก้า
         แม้ตรุษจีนปีพ.ศ.2555 เป็นปีมังกร แต่ปีนักษัตรตามตำราจีนนี้ไม่ใช่ปี 'มังกรทอง' อย่างที่หลายคนอาจเข้าใจ แต่เป็น มังกรน้ำ หรือ 'มังกรธาตุน้ำ' ต่างหาก
         นักโหราศาสตร์ ทศพร ศรีตุลา ให้สัมภาษณ์ว่า ตำราปีนักษัตรจีนซึ่งยึดระบบการโคจรของดาวพฤหัสบดี แบ่งนักษัตรต่างๆ ด้วยระบบ 5 ธาตุ คือ น้ำ ไม้ ไฟ ดิน ทอง แต่ละนักษัตรต่างมีห้าธาตุ เช่น 'มังกร' ก็มีมังกรน้ำ มังกรไม้ มังกรไฟ มังกรดิน มังกรทอง เมื่อรวมกับปีนักษัตรที่เหลือ ปีนักษัตรจีนจึงมีทั้งหมด 60 ลักษณะ
         “คนจีนจึงให้ความสำคัญกับวันแซยิด (อายุครบ 60 ปี) เพราะถือว่าบุคคลนั้นได้ผ่าน 12 นักษัตรทุกธาตุครบหมดแล้ว จึงเป็นรอบปีที่สำคัญ”
         แต่ในบรรดานักษัตรทั้งหมด ชาวจีนให้ความสำคัญกับ มังกร มากที่สุด ถือว่ามีพลังและมีความยิ่งใหญ่ที่สุด โดยธรรมชาติของคนเกิดปีมังกร มักทำอะไรต้องทำให้สุดๆ ทำงานใหญ่ เป็นงานยิ่งใหญ่ ชอบเจอคนเยอะๆ แน่นอนที่สุด ย่อมมีทั้งแง่ดีและไม่ดี
         'มังกรน้ำ'ปีนี้ ยังมีโอกาสมีข่าวดี มีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นหลายอย่าง
         “นักษัตรมะโรงหรือมังกร เป็นสัญลักษณ์ของนวัตกรรม” อ.ทศพร กล่าวและว่า ปีมังกรปีนี้เป็นปีแห่ง นวัตกรรม ความคิด และ การเปลี่ยนแปลงสิ่งใหม่ที่ดี หมายถึงจะมีสิ่งที่ทำให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ บนโลก โดยเฉพาะเรื่องยารักษาโรค เชื่อว่าปีนี้จะมีการทดลองมียาบางอย่างที่รักษาโรคร้ายสำเร็จ
         แต่โลกนี้มีหยินและหยาง มีของคู่กัน เมื่อคิดค้นยารักษาโรคสำเร็จ ก็จะปรากฏตัวเชื้อโรคใหม่ที่ต้องระวังเช่นกัน
 ปีนักษัตรมะโรง ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของประวัติศาสตร์ ทั้งประวัติศาสตร์โลกและเมืองไทย มักมีสาเหตุมาจากปีมะโรงหรือมังกร ยิ่งเมื่อครบวงรอบ 12 ปีของการโคจรดวงดาว ยิ่งทำให้ปีนั้นมีพลังรุนแรงยิ่งขึ้น
         อ.ทศพร ยกตัวอย่างให้ฟังว่า ปีมังกรเมื่อ 12 ปีก่อน ตลาดหุ้นอเมริกา (NASDAQ) ก้าวกระโดดขึ้นไปสี่ถึงห้าพันจุด เพราะธุรกิจนวัตกรรมใหม่ประเภท ดอทคอม เริ่มเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ นำมาซึ่งเหตุการณ์ 'ฟองสบู่ดอทคอม' เมื่อธุรกิจเหล่านั้นไม่เป็นไปตามที่คิด แนสแด็คร่วงลงเหลือสอง-สามพันจุดอย่างรวดเร็ว บัดนี้ดวงดาวได้กลับมาใหม่ ปลายปีที่แล้วต่อเนื่องปีนี้เป็นปีที่หลายเว็บไซต์ชื่อดังทั้ง เว็บไซต์โซเชียลเน็ตเวิร์ค และ เว็บไซต์ไอที วางแผนเข้าตลาดหลักทรัพย์ และยิ่งปีนี้เป็นธาตุน้ำ ขณะที่เทคโนโลยีเป็นธาตุไฟ คู่ธาตุที่ไม่ค่อยถูกกัน ดังนั้นวิกฤติเศรษฐกิจอาจเกิดขึ้นจากเรื่องเล็กๆ เหล่านี้ก่อน
         เช่นเดียวกับเมื่อ 12 ปีก่อนก็เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ประเทศ กรีซ เริ่มใช้สกุลเงินยูโรเป็นครั้งแรก กลับมารอบนี้กรีซกำลังลังเลว่าจะถอนประเทศออกจากการใช้สกุลเงินนี้หรือไม่ หากเกิดการถอนตัวจริง จะเกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ไม่จบสิ้น รวมทั้งเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงโลกมาจนทุกวันนี้ 911 ก็เกิดขึ้นในช่วงปีมังกรเมื่อ 12 ปีก่อน
         เรื่องของ ทองคำ ตามดวงดาว ตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่านเป็นช่วงดาวเสาร์ย้าย มีผลต่อทองคำเป็นอันมาก อ.ทศพร กล่าวว่า ความผันผวนของตลาดทองคำจะเกิดขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงเดือนมีนาคม แต่จะเริ่มดีขึ้นหลังหมดสัปดาห์แรกของเดือนกุมภาพันธ์ ยิ่งถ้าเกิดความผันผวนในแวดวงอื่น การเปลี่ยนวิธีการลงทุนสำหรับทองคำในปีนี้น่าจะเป็นสินทรัพย์ที่คนสนใจมากขึ้น และตามหลักโหราศาสตร์จีน 'ทอง' และ 'น้ำ' เป็นธาตุที่ส่งเสริมกัน เนื่องจากทองคำเมื่อหลอมตัวก็กลายเป็นน้ำ เห็นได้จากปีที่แล้วเป็นธาตุทอง (กระต่ายทอง) ต่อเนื่องกับปีนี้ที่เป็นธาตุน้ำ หรือมังกรน้ำ
         แม้กระทั่ง ค่าเงินบาท ปีนี้ดวงดาวกลับมารอบเดิม โอกาสที่ค่าเงินบาทจะแข็งตัวมากๆ ก็จะกลับมา ปีที่ผ่านมาเราเห็นค่าเงินบาท 30 บาทต่อดอลลาร์ จะเริ่มเห็นอีกครั้ง รวมทั้งค่าเงินอื่นๆ ในเอเชียที่จะแข็งค่าแบบยกแผง ซึ่งแน่นอนว่ามีทั้งข้อดีและข้อไม่ดี
         ขณะที่วงการ อสังหาริมทรัพย์ ก็อาจเป็นธุรกิจที่ควรระวังบ้าง เนื่องจากโดยธรรมชาติน้ำเป็นธาตุที่เซาะดินได้ ปีนี้อาจเกิดความไม่แน่นอนขึ้นได้ง่าย หากมีวิกฤติเศรษฐกิจเกิดขึ้นจริง ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มักเป็นธุรกิจแรกที่เกิดผลกระทบก่อน แต่ด้วยผู้ประกอบการทุกคนมีความรู้มากขึ้น ผลกระทบอาจไม่หนักเท่าที่เคยเกิดขึ้น
         อย่างไรก็ตาม อ.ทศพร กล่าวด้วยว่า ปี พ.ศ. 2555 เป็นช่วงเวลาที่ดาวดวงใหญ่ๆ เคลื่อนย้ายราศี ปกติการเคลื่อนย้ายของดาวดวงใหญ่จะเกิด ผลกระทบใหญ่ และเกิดขึ้นปีละ 1 ครั้ง เช่นปีที่แล้วที่เกิดขึ้นในเดือนตุลาคมสำหรับเมืองไทย แต่ปีนี้จะเกิด ผลกระทบครั้งใหญ่ ถึง 3 ครั้ง จึงเป็นปีที่นักพยากรณ์หลายคนกลัว
         ผลกระทบใหญ่ 3 ครั้ง จะเกิดขึ้นครั้งแรกในเดือนเมษายน ครั้งที่สองเกิดช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน และครั้งที่สามเกิดในเดือนธันวาคมตามการเปลี่ยนแปลงของดาวราหูซึ่งจะเกิดขึ้นในวันที่ 10 ธันวาคม
         ประโยคที่บอกว่า “เกิดมาไม่เคยเจออะไรแบบนี้” จะเป็นประโยคที่ถูกใช้ในปีพ.ศ. 2555 มากที่สุดในแง่เรื่องของการลงทุน ภัยธรรมชาติ หรือเรื่องอะไรก็ตาม อ.ทศพร กล่าวพร้อมกับแนะนำว่า ปีนี้จงอย่าอยู่ด้วยความเคยชินหรืออยู่ด้วยความประมาท คิดว่าน้ำไม่มีทางท่วม แผ่นดินไม่มีทางไหว คิดไม่ได้สำหรับปีนี้ หลายประเทศอยู่ด้วยความระมัดระวัง เวลามีเรื่องก็ไม่ได้ตื่นเต้นหรือสร้างความตื่นตระหนกให้สังคม แต่สร้างสติให้กับประชาชน "คนในประเทศญี่ปุ่นกำลังออมเงินกันเยอะมาก เพราะเขารู้ว่าต้องพร้อมที่จะหยุดงาน ภัยธรรมชาติเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ทำให้ทำงานไม่ได้ ไม่มีรายได้ สิ่งสำคัญที่เราทำได้ในวันนี้ คือวางแผนออมเงิน ใครที่เจอเหตุการณ์น้ำท่วมปีที่ผ่านมา ขายของไม่ได้นานนับเดือน เงินผ่อนบ้านผ่อนรถไม่มี รอนโยบายใครมาช่วย เห็นชัดว่ารอไม่ได้ ต้องเริ่มจัดระเบียบชีวิตด้วยตัวเองใหม่"
         ประโยชน์ของคำพยากรณ์อย่างหนึ่ง คือ ทำให้รู้จักการเตรียมตัว อ.ทศพรกล่าวและว่า มังกรธาตุน้ำปีนี้เป็นปีแห่งการเลื่อนไหลเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติของธาตุน้ำ ใครทำตัวเป็นดินคืออยู่นิ่งๆ เฉยๆ ยึดตัวยึดตน ไม่ยอมปรับตัวเอง จะอยู่ยากในปีธาตุน้ำ การพร้อมปรับตัว พร้อมเปลี่ยนแผน เปลี่ยนกลยุทธ์ เป็นสิ่งที่ให้รอดในปีมังกร ก็จะเป็นกลุ่มคนที่ยิ่งใหญ่ในปีที่ยิ่งใหญ่แบบนี้ได้
         เช่นเดียวกับผู้เกิด ปีชง อ.ทศพรย้ำว่า คำว่าปีชงไม่ได้หมายความว่าเป็น 'ปีไม่ดี' เสมอไป แต่เป็นปีที่ชีวิตจะแรงขึ้น โอกาสสำเร็จสมหวังก็มีมากขึ้น แต่หากประมาทไม่มีสติก็เป็นสิ่งหนึ่งทำให้เราเกิดข้อผิดพลาดและปัญหาในปีนี้ คนจีนจึงนิยมให้กำลังตัวเองด้วยการขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์จากองค์เทพที่มีบารมีในด้านต่างๆ
          พระโพธิสัตว์กวนอิม : เลื่องลือในด้านความมีเมตตากรุณาเป็นเลิศ นิยมกราบไหว้ขอพรให้มีผู้รักและเมตตา
          ตั่วเหล่าเอี้ย : มหาเทพแห่งทรัพย์ นิยมกราบขอพรเกี่ยวกับโชคลาภ ประสบความสำเร็จในเงินลงทุนก้อนใหญ่
          ไท้ส่วยเอี้ย : เทพคุ้มครองดวงชะตาราศีประจำปี ขอพรเพื่อเสริมสิริมงคลแก่ดวงชะตา ป้องกันอันตราย
         นอกจากไปยังศาสนสถานชื่อดัง สำหรับผู้ต้องการกราบขอพรเทพเจ้าในเทศกาลตรุษจีนปีนี้ ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์จัดให้มีการสักการะ พระโพธิสัตว์กวนอิม และ 3 องค์มหาเทพ อันได้แก่ องค์มหาเทพตั่วเหล่าเอี้ย, องค์เทพไท้ส่วยเอี้ย, องค์เทพไฉ่สิ่งเอี้ย ที่ได้เคยอัญเชิญและทำพิธีจากสาธารณรัฐประชาชนจีน มาให้ประชาชนสักการะขอพร รวมทั้งจัดทำ น้ำพระพุทธมนต์ ผ่านการทำพิธีจากวัดมังกรกมลาวาส จำนวน 5,500 ขวดแจกให้กับประชาชนที่ไปร่วมกิจกรรม ณ ห้องเอ็มซีซี ฮอลล์ ชั้น 4 เดอะมอลล์ สาขาบางแค ระหว่างวันที่ 21-29 มกราคม 2555 ระหว่างเวลา 11.00-20.00 น. พร้อมซุ้มแก้ชงเสริมดวงชะตา ซึ่งปีที่ชงในปีนี้ ได้แก่ ปีจอ, ปีมะโรง, ปีฉลู และ ปีมะแม แก้ชงได้ด้วยการฝากดวงชะตาต่อองค์เทพไท้ส่วยเอี้ย รายชื่อละ 20 บาท ใบรายชื่อจะนำไปสวดทำพิธีในวันที่ 29 ม.ค. พร้อมจัดให้มีการแสดง 9 มังกรมหามงคล เวลา 18.30-20.00 น. หน้าเดอะมอลล์ บางกะปิ (22 ม.ค.) และหน้าเดอะมอลล์ บางแค (23 ม.ค.)
         อย่างไรก็ตาม ปีมังกร เป็นปีที่ทุกคนรอคอย อ.ทศพร ศรีตุลา กล่าว เนื่องจากเป็นปีที่ยิ่งใหญ่ระดับสากล ตะวันตกถือว่ามีพลัง เอเชียถือว่ามงคล ปีที่ยิ่งใหญ่อาจเป็นปีที่เอื้อให้เรามีโอกาสทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตมากขึ้น ดวงชะตาเป็นสิ่งที่ให้แนวทางและเตือนสติ อย่าให้เรื่องดวงเป็นสิ่งที่ทำให้ชีวิตเกิดความทุกข์หรือหมดกำลังใจ ไม่มีใครดวงดีหรือดวงร้ายไปตลอด ดวงดาวเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา หากคิดและทำแบบเดิมๆ ตลอดทั้งปี โอกาสรอดยาก เราควรศึกษาหาความรู้ในอาชีพในสิ่งที่เราทำ หาช่องทางใหม่ๆ ลื่นไหลให้เหมือนมังกรธาตุน้ำ
         โอกาสที่เราจะเป็นมังกรในปีนี้ก็จะมีเข้ามา

โดย : วลัญช์ สุภากร
กรุงเทพธุรกิจ 22 มกราคม 2555