ผู้เขียน หัวข้อ: สธ.-สปสช.จับมือ 9 คณะทันตแพทย์ ใส่ฟันปลอมทั้งปากคนแก่สิทธิบัตรทอง  (อ่าน 465 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9796
    • ดูรายละเอียด
สธ.- สปสช.- 9 คณะทันตแพทย์ ลงนามความร่วมมือเพิ่มใส่ฟันปลอมทั้งปากให้ผู้สูงอายุสิทธิบัตรทอง 2,200 ราย ใช้งบหนุน 12.9 ล้านบาท คาดเสร็จ ธ.ค. นี้
       
       วันนี้ (8 เม.ย.) ที่คณะทันตแพทยศาสตร์ ม.มหิดล ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ร่วมกับ นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และคณบดีคณะทันตแพทยศาสตร์ 9 สถาบัน ได้แก่ ม.มหิดล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ม.ธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) ม.รังสิต ม.เชียงใหม่ ม.นเรศวร ม.ขอนแก่น และ ม.สงขลานครินทร์ ลงนามความร่วมมือเพื่อเพิ่มการเข้าถึงบริการใส่ฟันเทียมพระราชทานฯ แก่ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ที่สูญเสียฟันทั้งปากสำหรับการบดเคี้ยวอาหาร ในสิทธิบัตรทองให้ได้รับการใส่ฟันเทียมทั้งปาก เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคเรื้อรังและส่งเสริมให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น
       
       ศ.นพ.รัชตะ กล่าวว่า ผู้สูงอายุไทยมีจำนวนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ในปี 2557 มี 9 ล้านกว่าคน หรือร้อยละ 14 ของประชากร โดยองค์การอนามัยโลกเสนอว่า หากลดปัจจัยเสี่ยงและป้องกันโรคเรื้อรังได้ ผู้สูงอายุจะมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น ซึ่งปัญหาสุขภาพช่องปากนับเป็นปัจจัยเสี่ยงหนึ่งที่ส่งผลต่อสุขภาพและการเกิดโรคเรื้อรังในผู้สูงอายุ จากการสำรวจสุขภาวะช่องปากแห่งชาติปี 2555 พบผู้สูงอายุที่มีฟันน้อยกว่า 20 ซี่ ร้อยละ 42 แนวโน้มการสูญเสียฟันทั้งปากดีขึ้น มีความต้องการใส่ฟันเทียมลดลงจากร้อยละ 5 เหลือร้อยละ 3 มีผู้สูงอายุที่จำเป็นต้องใส่ฟันเทียมทั้งปากจำนวน 236,000 ราย สธ.จึงดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลในโครงการใส่ฟันเทียมพระราชทานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยจัดเป็นของขวัญปีใหม่ 2558 ให้ผู้สูงอายุ 35,000 ราย เร่งดำเนินการมาแล้ว 6 เดือน มีความคืบหน้าไปกว่าครึ่ง มีผู้สูงอายุได้รับการใส่ฟันเทียมแล้ว 19,760 ราย คาดว่าจะครบตามเป้าหมายที่กำหนด แต่ละรายใช้ระยะเวลาประมาณ 2 เดือน
       
       “ขณะนี้ยังเหลือผู้สูงอายุที่รอใส่ฟันเทียมอีกจำนวนหนึ่ง จึงได้เพิ่มเป้าหมายอีก 2,200 ราย โดย สธ. ได้ร่วมมือกับคณะทันตแพทยศาสตร์ทั้ง 9 มหาวิทยาลัยที่มีความเชี่ยวชาญด้านการใส่ฟันเทียม และ สปสช. เร่งขยายบริการผู้สูงอายุมากขึ้นและเร็วขึ้น โดยเฉพาะรายที่มีปัญหา เช่น สันเหงือกแบนราบ ต้องการความเชี่ยวชาญระดับสูงการลงนามความร่วมมือครั้งนี้จะทำให้ผู้สูงอายุได้ใส่ฟันเทียมทั้งปากคุณภาพสูงได้เร็วขึ้น ตั้งเป้าให้แล้วเสร็จทั้งหมดภายในต้นเดือนธันวาคม 2558 แน่นอน” รมว.สธ. กล่าว
       
       ด้าน นพ.พรเทพ กล่าวว่า กรมอนามัยจะประสานงานและส่งต่อกลุ่มเป้าหมายที่รอคิวทำฟันเทียมนานเกิน 6 เดือน หรือกรณีที่มีความยากและซับซ้อนให้เข้ารับบริการที่คณะทันตแพทยศาสตร์ทั้ง 9 สถาบัน เพื่อให้ทั้ง 9 สถาบันจัดบริการใส่ฟันเทียมทั้งปากแก่ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ที่มีสิทธิบัตรทอง รวมทั้งให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพช่องปากแก่กลุ่มเป้าหมายด้วย สำหรับผู้ใช้สิทธิ์อื่นๆ สามารถติดต่อขอรับบริการได้ที่โรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขหรืออื่นๆ ตามสิทธิ์นั้น
       
       นพ.วินัย กล่าวว่า สปสช. จะสนับสนุนงบประมาณตั้งแต่คัดกรอง การเตรียมช่องปาก การให้คำแนะนำ และการประชาสัมพันธ์ รวมถึงค่าชดเชยอุปกรณ์ฟันเทียมตามราคาที่กำหนดในสิทธิบัตรทองจำนวน 12,980,000 บาท แก่ผู้สูงอายุจำนวน 2,200 ราย ที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย ทั้งกรณีใส่ฟันปลอมทั้งปากและผู้ไม่มีฟันตั้งแต่ 16 ซี่ขึ้นไป


ASTVผู้จัดการออนไลน์    8 เมษายน 2558