ประธานาธิบดีฟรองซัวส์ ออลลองด์ แห่งฝรั่งเศส มีแผนสั่งห้ามครูอาจารย์ตามโรงเรียนต่างๆ ทั่วแดนน้ำหอมสั่งการบ้านแก่เด็กนักเรียนโดยเด็ดขาด ชี้งานที่ครูสั่งให้เด็กทำนั้นสมควรต้อง “ทำในโรงเรียนเท่านั้น” ไม่สมควรที่เด็กๆ ต้องมานั่งเคร่งเครียดกับสิ่งที่เรียกว่า “การบ้าน” อีกในยามที่พวกเขากลับถึงบ้าน
รายงานข่าวระบุว่า ออลลองด์ วัย 58 ปี จากพรรคสังคมนิยม ซึ่งเพิ่งชนะการเลือกตั้งและเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 24 ของฝรั่งเศสเมื่อกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ได้ประกาศโครงการปฏิรูปการศึกษาของชาติครั้งใหญ่ โดยหนึ่งในมาตรการสำคัญที่เตรียมนำมาบังคับใช้ คือ การห้ามครูอาจารย์มอบหมายการบ้านแก่เด็กนักเรียนอย่างเด็ดขาด จนก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ตามมามากมาย โดยเฉพาะจากกลุ่มครูและผู้ปกครองหัวอนุรักษนิยมที่มองว่าเด็กจะเก่งได้ก็ต่อเมื่อทำ “การบ้านเยอะๆ”
“งานที่พวกครูสั่งนั้นสมควรมีแต่เฉพาะในโรงเรียนเท่านั้น เด็กๆ ไม่สมควรหอบเอางานจากโรงเรียนกลับไปทำที่บ้านของพวกเขาอีกเพราะบ้านไม่ใช่โรงเรียน และโรงเรียนก็ไม่ใช่บ้าน นอกจากนั้นผมยังเชื่อมั่นว่าการสั่งการบ้านเด็กเยอะๆ ไม่ได้ช่วยให้เด็กของเราฉลาดขึ้นแต่อย่างใด” ประธานาธิบดีออลลองด์กล่าว
อย่างไรก็ดี ผู้นำฝรั่งเศสยืนยันว่า เมื่อมีการยกเลิก “การบ้าน” ในอนาคต สถาบันการศึกษาต่างๆ ก็ต้องหันมาปรับปรุงการเรียนการสอนในเวลาของตนให้มีความเข้มข้นยิ่งขึ้นกว่าเดิม หรืออาจมีการเพิ่มชั่วโมงเรียนในแต่ละสัปดาห์อีกเล็กน้อยเพื่อชดเชยกับการที่เด็กๆ ไม่ต้องทำการบ้าน
ด้านแวงซองต์ เปอิญอง รัฐมนตรีศึกษาธิการฝรั่งเศส เผยกับ “เลอ มงด์” หนังสือพิมพ์รายวันชื่อดังว่า การตัดสินใจของผู้นำฝรั่งเศสถือเป็นเรื่องที่มีความเหมาะสมแล้ว เพราะการทำงานต่างๆ ของเด็กควรได้รับการเอาใจใส่อย่างทั่วถึงจากครูอาจารย์ที่โรงเรียน มากกว่าที่จะปล่อยให้เด็กๆ นำงานกลับไปทำเองที่บ้าน
“ถ้าเด็กไม่เข้าใจการบ้าน และพ่อแม่ก็ไม่สามารถให้คำตอบที่ถูกต้องแก่พวกเขาได้ แล้วพวกหนูๆ ทั้งหลายจะไปถามใครได้ ในเมื่อคนที่สั่งงานให้พวกเขาอยู่ที่โรงเรียน มิใช่ที่บ้าน” รัฐมนตรีศึกษาธิการฝรั่งเศสกล่าวสำทับ
อย่างไรก็ดี ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดในฝรั่งเศสที่จัดทำโดยสถาบันวิจัย “IFOP” ระบุว่า กว่า 2 ใน 3 ของกลุ่มตัวอย่างที่ส่วนใหญ่เป็นพ่อแม่และครูทั่วฝรั่งเศส “ไม่เห็นด้วย” กับการสั่งห้ามให้การบ้านเด็กที่ริเริ่มโดยประธานาธิบดีออลลองด์ โดยส่วนใหญ่ให้เหตุผลว่า การเรียนของเด็กจะตกต่ำลง และเด็กๆ อาจออกนอกลู่นอกทางได้ง่ายขึ้นหากไม่ต้องทำ “การบ้าน”
ASTVผู้จัดการออนไลน์ 18 ตุลาคม 2555
