เมื่อวันที่ 8 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ร่วมกับแพทยสภา และกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) แถลงประเด็นการนำเสนอเนื้อหารายการ Face2Face Thailand ที่เกี่ยวกับการทำศัลยกรรมในสถานพยาบาล โดยเชื่อมโยงกับความเชื่อนอกระบบ
พลโท พีระพงษ์ มานะกิจ กรรมการ กสทช. ในฐานะประธานอนุกรรมการด้านผังรายการและเนื้อหารายการ เปิดเผยว่า มีความห่วงใยผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ ในการนำเสนอเนื้อหารายการที่เกี่ยวกับการผ่าตัดศัลยกรรมในลักษณะที่เข้าข่ายละเมิดต่อกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น การโฆษณาคลินิกหรือสถานพยาบาลไม่ว่าผ่านช่องทางใดก็ตามต้องมีการขออนุมัติการโฆษณาจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพก่อน หรือการนำเสนอที่เกี่ยวข้องกับแพทย์ และการประกอบวิชาชีพเวชกรรมต้องเป็นไปตามข้อบังคับแพทยสภาว่าด้วยการรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม เป็นต้น
นอกจากนี้ รายการยังได้เชื่อมโยงกับความเชื่อนอกระบบ เช่น ใช้ศาสตร์ของการทำนายคุณสมบัติคนจากรูปลักษณ์ภายนอก (โหงวเฮ้ง) เพื่อชักจูงให้ประชาชนเชื่อว่าการทำศัลยกรรมแล้วจะทำให้ร่ำรวยหรือมีชีวิตที่ดีขึ้นได้เพื่อประสงค์จะให้ผู้ชมเชื่อและนำไปสู่การใช้บริการในคลินิกหรือสถานพยาบาลตามที่ได้มีการโฆษณาเพื่อมุ่งหวังประโยชน์ทางธุรกิจ จนกลายเป็นธุรกิจความงาม
นางจันทนา จินดาถาวรจิต ผู้อำนวยการกองกฎหมาย สบส. เปิดเผยว่า การโฆษณาในสถานพยาบาล ไม่ว่าช่องทางโทรทัศน์ หรือโซเชียลมีเดียต่างๆ ต้องมีการขออนุญาตจากทาง สบส.ก่อนเสมอ ซึ่งโฆษณาที่เผยแพร่ได้ ต้องไม่โอ้อวด เข้าใจผิดในสาระสำคัญ เนื้อหาโฆษณาออกไปอย่างไรต้องตรงกับข้อเท็จจริง นอกจากนี้ ทางสบส. จะไม่อนุญาตให้มีเนื้อหารายการที่เชื่อมโยงกับความเชื่อขัดต่อความเป็นจริง และขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน อาจจะทำให้ประชาชนเข้าใจผิดและเกิดความหลงเชื่อได้ โดยบทลงโทษเบื้องต้น ถ้าโฆษณาโดยไม่ขออนุมัติมีโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือถ้ามีการโอ้อวดเกินจริงจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ทางรายการมาขออนุญาตแล้ว 1 ตอน ซึ่งทางคณะอนุกรรมการ สบส. ก็อนุมัติให้เผยแพร่ได้
นพ.วิสูตร ฟองศิริไพบูลย์ รองเลขาธิการแพทยสภา เปิดเผยว่า แพทยสภาไม่สนับสนุนนำเรื่องของความเชื่อ มาเสริมแต่งความสวยงาม การโน้มน้าวโฆษณาทำให้ประชาชนเกิดความสำคัญผิดไปว่า ถ้ามีการปรับแต่งรูปร่างอวัยวะต่างๆแล้วชีวิตจะร่ำรวย ซึ่งผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม เบื้องต้นโทษที่แพทย์ไปออกรายการดังกล่าว จะมีตั้งแต่การว่ากล่าวตักเตือน ภาคทัณฑ์ พักใช้ใบอนุญาต ไปจนถึงการยกเลิกใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม
8มีค2565
มติชน
