ผู้เขียน หัวข้อ: 111 ปีสตรีวิทย์...รำลึกถึงสมเด็จย่า  (อ่าน 1384 ครั้ง)

pani

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 756
    • ดูรายละเอียด
111 ปีสตรีวิทย์...รำลึกถึงสมเด็จย่า
« เมื่อ: 26 มกราคม 2012, 23:12:37 »
สตรีวิทยาเป็นโรงเรียนที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีเคยทรงศึกษาเมื่อครั้งยังทรงพระเยาว์ และเป็นโรงเรียนในพระอุปถัมภ์ของพระองค์

เนื่องจากวันที่ 21 ตุลาคม 2554 ตรงกับวันคล้ายวันพระราชสมภพครบ 111 พรรษา ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และครบรอบปีที่ 111 ของโรงเรียนสตรีวิทยา ซึ่งเป็นโรงเรียนที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีเคยทรงศึกษาเมื่อครั้งยังทรงพระเยาว์ และเป็นโรงเรียนในพระอุปถัมภ์ของพระองค์

 ล่าสุดโรงเรียนสตรีวิทยาจึงได้ร่วมกับสมาคมผู้ปกครองและครูฯและสตรีวิทยาสมาคม จัดงาน 111 ปีสตรีวิทยา เลือดแดงขาว เราทะนง เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี โดยจะมีศิษย์เก่าและปัจจุบันร่วมพิธีสักการะและน้อมรำลึกถึงพระองค์ และจัดกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี รวมทั้งการจัดแสดงสื่อผสม เพื่อให้เห็นถึงวิวัฒนาการของสตรีวิทยา ตลอดจนกิจกรรมบันเทิงมากมาย จึงขอเชิญชวนศิษย์เก่าทุกรุ่นร่วมงานในวันเสาร์ที่ 28 มกราคมนี้ ณ  โรงเรียนสตรีวิทยา ตั้งแต่เวลา 16.30-22.00 น.

 เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ในช่วงเยาวว์วัยทรงย้ายมาศึกษาที่โรงเรียนสตรีวิทยา ซึ่งเป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในยุคนั้นระหว่างพ.ศ. 2451 - 2456 ซึ่งขณะนั้นพระองค์ได้รับการถวายตัวเป็นข้าหลวงของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ กรมหลวงเพ็ชรบุรีราชสิรินธร ณ พระตำหนักสวนสี่ฤดู เนื่องจากยังทรงพระเยาว์และการเดินทางไปโรงเรียนยังไม่สะดวก ผู้ใหญ่ที่พระตำหนักสวนสี่ฤดูจึงนำพระองค์ไปฝากไว้ที่บ้านของคุณหวน หงสกุล ข้าหลวงของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ กรมหลวงเพ็ชรบุรีราชสิรินธร ซึ่งอยู่หน้าวัดมหรรณพาราม เพื่อจะได้ทรงอยู่ใกล้โรงเรียน

 ในช่วงนั้นสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงพระดำเนินไปโรงเรียนพร้อมกับญาติและคุณหวน เมื่อถึงเวลารับประทานอาหารเที่ยง เพื่อนผู้นี้จะแบ่งอาหารปิ่นโตให้เสวยด้วย เพราะที่โรงเรียนไม่มีอาหารขาย วันหนึ่งสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงได้รับบาดเจ็บจากเข็มตำพระหัตถ์จนมิดด้าม จึงต้องเข้ารับการรักษาและพักรักษาที่บ้านพระยาดำรงแพทยาคุณ ซึ่งต่อมาเป็นผู้ที่ชักชวนให้สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ซึ่งขณะนั้นทรงกำลังศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ให้เข้าเรียนวิชาพยาบาลที่โรงเรียนแพทย์ผดุงครรภ์และหญิงพยาบาลแห่งศิริราช ซึ่งต่อมาพระองค์ได้รับคัดเลือกเป็นนักเรียนทุนพยาบาลไปศึกษาต่อที่ประเทศสหรัฐอเมริกา จึงได้ทรงรู้จักกับสมเด็จพระบรมราชชนก ได้ทรงหมั้นและอภิเษกสมรสในเวลาต่อมา

 ในฐานะศิษย์เก่า พระองค์มีพระมหากรุณาธิคุณต่อโรงเรียนสตรีวิทยาตลอดมา ทรงเป็นองค์พระราชูปถัมภ์ของโรงเรียนในกิจการด้านการศึกษา เช่น เมื่อครั้งอภิเษกสมรสกับสมเด็จพระบรมราชชนกใน พ.ศ. 2463 ได้พระราชทานเงินเพื่อเกื้อกูลโรงเรียนสตรีวิทยาเป็นจำนวน 5,000 บาท โรงเรียนได้นำเงินนี้มาก่อสร้างอาคารเรียนเป็นเรือนไม้ 2 ชั้น 6 ห้องเรียน และใน พ.ศ. 2534 ได้พระราชทานเงินส่วนพระองค์จำนวน 100,000 บาท สมทบในการสร้างอาคารเรียนเพิ่มเติมอีกด้วย

 นอกจากนี้สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนียังได้พระราชทานทุนการศึกษาแก่นักเรียนที่มีฐานะยากจน โดยใน พ.ศ. 2481 ได้พระราชทานเงินให้แก่โรงเรียนจำนวน 5,000 บาท โดยมอบให้กระทรวงศึกษาธิการนำเงินนี้ฝากไว้ในธนาคาร เพื่อเก็บดอกออกผลเป็นทุนการศึกษาแก่นักเรียนยากจน ในนาม "ทุนสมเด็จพระราชชนนีศรีสังวาลย์" ต่อมาใน พ.ศ. 2535 ได้พระราชทานเงินจำนวน 250,000 บาท เพื่อนำดอกผลมาเป็นทุนการศึกษาแก่นักเรียนโรงเรียนสตรีวิทยาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ และทรงรับโรงเรียนสตรีวิทยา สตรีวิทยาสมาคม สมาคมผู้ปกครองและครูสตรีวิทยา ตลอดจนมูลนิธิสตรีวิทยาเข้าไว้ในพระอุปถัมภ์ เมื่อโรงเรียนหรือสมาคมมีกิจกรรมและกราบบังคมทูลเชิญ ก็เสด็จมาร่วมงานเสมอ คณะครูและนักเรียนโรงเรียนสตรีวิทยาต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงมีต่อโรงเรียนอย่างหาที่สุดมิได้  จึงได้สร้างพระราชานุสาวรีย์ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีไว้ที่โรงเรียน เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ

 ใน พ.ศ. 2554 โรงเรียนสตรีวิทยาได้จัดทำเอกสารการสอนตามหลักสูตรท้องถิ่นชุด "รัตนสังวาลย์" และจัดทำ "โครงการพัฒนานวัตกรรมและแหล่งเรียนรู้สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี" ขึ้น ซึ่งจัดทำเป็นนิทรรศการถาวร เพื่อเป็นศูนย์กลางการศึกษาค้นคว้าพระราชประวัติ พระกำเนิดและชาติสกุล ชีวิตเมื่อทรงพระเยาว์ พระราชอัธยาศัยและพระราชจริยวัตร การศึกษา ชีวิตครอบครัว และการดำรงสถานะ สมเด็จพระบรมราชชนนี พระราชกรณียกิจต่อแผ่นดิน พระราชกรณียกิจต่อราษฎร คติธรรมจากการศึกษาพระราชกรณียกิจสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาการเรียนรู้ของนักเรียน ชุมชน รวมถึงองค์กรต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้เทิดพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือ สมเด็จย่า ของปวงชนชาวไทยสืบไป โดยเปิดให้ผู้สนใจเข้าชมทุกวันในเวลาราชการ เวลา 7.00-17.00 น. และวันเสาร์ เวลา 9.00-12.00 น.

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์  26 มกราคม 2555