ผู้เขียน หัวข้อ: วัคซีนไฟเซอร์เอา “เดลตา” ไม่อยู่ ยอดติดเชื้อโควิดอิสราเอลดีดตัว ส่อหวนคืนมาตรการ  (อ่าน 321 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9814
    • ดูรายละเอียด
อิสราเอลยืนยันพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่มากกว่า 300 คนเมื่อวันพุธ (30 มิ.ย.) ถือเป็นตัวเลขรายวันสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน ท่ามกลางการระบาดของตัวกลายพันธุ์เดลตา ในประเทศที่มีประชาชนฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้วเป็นจำนวนมาก

กระทรวงสาธารณสุขอิสราเอลรายงานพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 307 คนในวันพุธ (30 มิ.ย.) ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อที่ยังรักษาตัวอยู่เพิ่มเป็น 1,990 ราย ส่วนผู้ติดเชื้ออาการหนักเพิ่มจาก 22 รายในวันอังคาร (29 มิ.ย.) เป็น 29 ราย ในนั้น 17 คนต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ จากข้อมูลที่เปิดเผยในวันพฤหัสบดี (1 ก.ค.)

ยอดผู้ติดเชื้อสะสมของประเทศแห่งนี้อยู่ที่กว่า 840,000 ราย เสียชีวิตราว 6,400 ราย ในชาติที่มีประชากรประมาณ 9 ล้านคน

ข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขระบุว่า จากการตรวจเชื้อทั้งหมดกว่า 59,000 รายในวันพุธ (30 มิ.ย.) อัตราผลตรวจออกมาเป็นบวกอยู่ที่ 0.6%

เคสผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น ซึ่งกล่าวโทษไปตัวกลายพันธุ์เดลตาที่แพร่กระจายเชื้อได้ง่ายมาก มีขึ้นในขณะที่อิสราเอลเร่งดำเนินการฉีดวัคซีนแก่วัยแรกรุ่นและวัยรุ่นอายุระหว่าง 12-15 ปี ซึ่งในประชากรกลุ่มนี้เข้ารับวัคซีนไปแล้วกว่า 16,000 เข็มจนถึงวันพุธ (30 มิ.ย.)

กระทรวงสาธารณสุขอิสราเอลคาดหมายว่าจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันอาจพุ่งขึ้นแตะระดับ 500-600 คนในสัปดาห์หน้า

Haaretz สื่อมวลชนท้องถิ่นรายงานว่า เจ้าหน้าที่กำลังพิจารณานำระบบ “กรีนพาสส์” กลับมาใช้ใหม่ โดยระบบดังกล่าวจะแยกพลเมืองที่ฉีดวัคซีนแล้วและยังไม่ได้ฉีดวัคซีน จากการเข้าถึงบางสถานที่และกิจกรรมบางอย่าง

ระบบดังกล่าวซึ่งถูกยกเลิกไปเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน อนุญาตให้คนฉีดวัคซีนแล้วหรือหายป่วยจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ รับประทานอาหารค่ำในร่มตามร้านอาหารต่างๆ หรือเข้าร่วมกิจกรรมทางวัฒนธรรมต่างๆ นานา

สื่อมวลชนแห่งนี้รายงานด้วยว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขกำลังพิจารณาด้วยว่ากำลังนำระบบ “เพอร์เพิล แบดจ์ (purple badge)” กลับมาใช้ใหม่เช่นกัน โดยระบบนี้กำหนดให้มีการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายบริเวณทางเข้า การรักษาระยะห่างระหว่างลูกค้า จัดวางที่กั้นระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย รวมถึงข้อบังคับอื่นๆ

รัฐมนตรีมหาดไทยอิสราเอลระบุในวันพุธ (30 มิ.ย.) ว่าเที่ยวบินขาเข้าและออกจากอิสราเอลอาจถูกระงับอีกครั้ง หากอัตราการติดเชื้อใหม่ยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ “สถานการณ์ที่สนามบินเบนกูเรียนน่ากังวล” เขาบอกกับผู้สื่อข่าว “ทางออกง่ายมากคือการปิดสนามบิน แต่สถานการณ์ในวันนี้มันต่างออกไป เรากำลังพยายามทำให้สนามบินสามารถเปิดทำการได้ต่อไป แต่หากผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นคงต้องหยุดเที่ยวบิน”

ความเห็นของเขามีขึ้นหลังจากสถานีโทรทัศน์แชนเนล 12 รายงานว่า แผนของกระทรวงสาธารณสุขในการคัดแยกบุคคลที่เดินทางมาจากประเทศต้องห้ามออกจากนักเดินทางคนอื่นๆ ณ สนามบินเบนกูเรียนกำลังเผชิญกับปัญหาอยู่ก่อนแล้ว

ด้วยเคสผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อิสราเอลได้กลับมาบังคับสวมหน้ากากยามอยู่ในร่ม และสกัดนักเดินทางที่มาจากประเทศต่างๆ ที่มีอัตราการติดเชื้อระดับสูงหรือละเมิดมาตรการกักกันโรค อย่างไรก็ตามพวกเขาพยายามหลีกเลี่ยงการหวนคืนสู่ข้อจำกัดอันเข้มข้นทั้งหลาย หลังยกเลิกมันเป็นส่วนใหญ่ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา


X


นายกรัฐมนตรี นาฟตาลี เบนเนตต์ เรียกร้องเยาวชนและคนหนุ่มสาวให้เข้ารับวัคซีนเพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดต่างๆ พร้อมประกาศว่า “เราไม่ต้องการกำหนดข้อจำกัดใดๆ ทั้งกับงานปาร์ตี้ ด้านการเดินทางหรืออื่นๆ”

นับตั้งแต่เจ้าหน้าที่เริ่มดำเนินการฉีดวัคซีนแก่เด็กอายุ 12-15 ปีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จำนวนการฉีดวัคซีนรายวันได้ไต่ระดับกลับสู่ 10,000 คนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเมษายน

ด้วยมีข่าวว่าวัคซีนของอิสราเอลจำนวน 1.4 ล้านโดสจะหมดอายุลงในเดือนกรกฎาคม ทางเบนเนตต์จึงหวังใช้วัคซีนเหล่านั้นให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยการดึงเด็กเข้าฉีดวัคซีนให้ได้ 300,000 คนภายในวันที่ 9 กรกฎาคม เพื่อให้เหลือเวลาเพียงพอสำหรับฉีดโดสที่ 2 ก่อนหมดอายุ

อิสราเอลจัดซื้อวัคซีนโควิด-19 ของไฟเซอร์จำนวนหลายล้านโดส และเป็นประเทศแรกๆ ที่ได้รับวัคซีน ในจำนวนที่ไม่มีการเปิดเผย และแม้หลายล้านโดสยังไม่ถูกใช้ แต่พวกเขามีข้อตกลงหนึ่งที่ลงนามโดยอดีตนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ในเดือนเมษายน สำหรับซื้อวัคซีนเพิ่มเติมอีก 18 ล้านโดสในกรณีที่จำเป็นต้องใช้วัคซีนเข็มกระตุ้น

(ที่มา : ไทมส์ออฟอิสราเอล)

2 ก.ค. 2564  ผู้จัดการออนไลน์