ผู้เขียน หัวข้อ: ไม่พร้อมป่อง! 7 วิธีคุมกำเนิด ลดการเสกเด็กเข้าท้อง  (อ่าน 1304 ครั้ง)

seeat

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 470
    • ดูรายละเอียด
โอ้ยยย อกอีแป้นจะแตก จริงเหรอ สาวไทยเรานี่นะ!
       
       นักวิชาการมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เผย พบโจ๋ไทยตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรมากที่สุดในโลก! เค้าว่านะ..ทุบสถิติล้มแชมป์ประเภทอื่นจะดีกว่ามั้ย!
       
       แน่นอน..เซ็กซ์เป็นเรื่องเหนือการควบคุม เพราะมีอารมณ์เข้ามาเกี่ยวล้วนๆ วิธีป้องกันไม่ให้ป่องก็มีเพียบ อีกอย่าง....ถุงยางอนามัยเค้าไม่ได้มีไว้ใส่นิ้วนะจ๊ะสาวๆ
       
       อ๊ะ เราลองมาดูกันดีกว่า ว่า วิธีคุมกำเนิด สำหรับผู้หญิงที่ชัวร์ๆ ไม่มั่วนิ่มมีอะไรบ้าง เร็ว เร้ววว ด่วนๆ เดี๋ยวจะไม่ทันการณ์

   
       ชัวร์แรก
       ->กินยาคุม
       
       ฮอตฮิตมาก มีหลากหลายยี่ห้อ ยาคุมกำเนิด เป็นวิธีการคุมกำเนิดที่นิยมกันมากที่สุด และให้ผลดี ซึ่งผลของยาคือ ทำให้ไข่ไม่ตก แต่ก็เป็นหน้าที่ของคุณผู้หญิงที่ต้องไม่ลืมรับประทานยา เพราะถ้าลืมบ่อยๆ ก็อาจจะผิดพลาดเกิดการตกไข่ขึ้นมาได้ และการรับประทานยาคุมกำเนิดนี้ บางคนอาจจะมีอาการแพ้ หรือมีประจำเดือนผิดปกติ จึงต้องสังเกตตัวเองให้ดี
       
       นับเป็นวิธีดั้งเดิมที่ลูกผู้หญิงนิยมและจำเป็นต้องทำ หากผู้ชายเป็นฝ่ายเอาเปรียบไม่คำนึงถึงผลเสียในการไม่สวมถุงยางอนามัย ผู้หญิงเราจะทำอะไรได้ดีไปกว่าการรับประทานยาคุมกำเนิดเล่า วิธีนี้นอกจากจะได้ผลดีแล้ว ยังทำให้ประจำเดือนมาสม่ำเสมอ รักษาสิวได้ ที่สำคัญ บทเซ็กซ์ของคุณจะอิสระเสรีดังใจฝัน ปราศจากสิ่งพันธนาการมากั้นขวาง
       
       ยาเม็ดคุมกำเนิดประกอบด้วยฮอร์โมน 2 ชนิดคือ เอสโตรเจน (Estrogen) และโปรเจสเตอโรน (Progesterone) คุณสมบัติของมันนั้นดีเหลือเชื่อ เพราะจะยับยั้งการตกไข่และป้องกันไม่ให้มีไข่สุข อีกทั้งจะสกัดกั้นไม่ให้อสุจิเข้าสู่มดลูก และขัดขวางการฝังตัวของไข่ที่ผสมเสร็จแล้วด้วย เพราะฉะนั้น หากทำตามวิธีอย่างเคร่งครัดตามประเภท และชนิดของยาที่มีหลากหลาย วิธีนี้ได้ผลค่อนข้างชัวร์เช่นกัน

   
       ชัวร์สอง
       ->ยาคุมฉุกเฉิน
       
       ถ้าคุมแล้วพลาด..หรือไม่ทันได้ป้องกัน อย่าช้า!!! ใช้แผนสองด่วน ไม่ว่าเซ็กซ์ครั้งล่าสุดของคุณจะซาบซ่านถึงใจ จนถุงยางอนามัยเลื่อนหลุด ไม่มั่นใจว่าอาจจะแตก จะรั่ว หรือเพิ่งผ่านสถานการณ์ที่คุณไม่คาดคิดว่าจะเกิด จึงไม่ได้ป้องกัน พอหันกลับไปดูปฎิทินยังเป็นช่วงวันอันตรายอีกด้วย เอาเวลาที่ต้องนั่งกลุ้มไปซื้อยาคุมฉุกเฉินมากินโดยด่วน
       
       ยาคุมฉุกเฉิน ควรใช้เมื่อจำเป็นจริงๆ เท่านั้น เป็นยาที่ใช้หลังจากมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งเซ็กซ์ครั้งนั้นคุณอาจจะไม่ได้ตั้งใจหรือไม่เต็มใจ จึงเรียกว่า Emergency Pills หรือ Morning after pills มีขายที่ร้านขายยาในชื่อ "โพสตินอร์" ป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 85% (ย้ำว่า 85%นะคะ ฉะนั้นถุงยางอนามัยอย่าลืมใช้)
       
       วิธีกิน ยา 1 กล่อง จะมีเม็ดยา 2 เม็ด เม็ดที่ 1 กินภายใน 2 ชั่วโมง หลังจากมีเซ็กซ์ เม็ดที่ 2 กินหลังจากกินเม็ดแรกไปแล้ว 12 ชั่วโมง เมื่อกินแล้วอาจจะเกิดอาการคลื่นไส้ เวียนหัว ถ้ากินยาเม็ดแรกเข้าไปแล้วอาเจียนภายใน 2 ชั่วโมง ต้องกินซ้ำเพราะตัวยายังไม่ได้ถูกดูดซึม และเมื่อถึงกำหนดมีรอบเดือนอาจจะมีเลือดออกมากะปริดกะปรอย หรือล่าช้าออกไปได้ เพราะตัวยาเป็นฮอร์โมนเพศในปริมาณสูงที่ไปรบกวนระบบรอบเดือนปกติได้
       
       ชัวร์สาม
       ->ฉีดยาคุมกำเนิด
       
       เหมาะมากกับคุณผู้หญิงที่ชอบขี้ลืมกินยา เพราะยาคุมมีผลในการคุมกำเนิดเพียงแค่ 1 วัน ส่วนหากใช้วิธีฉีดยาคุมนั้นส่วนใหญ่จะมีฤทธิ์คุมกำเนิดได้ 3 เดือน ซึ่งเป็นยาที่มีประสิทธิภาพสูงเช่นเดียวกับชนิดยากิน แต่มีข้อเสียคือ บางคนอาจจะรอบเดือนไม่มา หรือมากะปริบกะปรอย ซึ่งอาจจะสร้างความอึดอัด หรือรำคาญให้กับคุณสาวๆ บางนางได้ และบางรายอาจจะมีอาการแพ้ยาฉีด น่ากลัวชะมัด!
       
       เป็นวิธีที่ถ้าไม่นับความสะดวกสบายแล้ว ข้อเสียเยอะมาก ทั้งทำให้ความต้องการทางเพศลดลง น้ำหนักเพิ่ม เกิดสิว ขนดกขึ้น เพราะเป็นยาคุมกำเนิดที่มีแต่โปรเจสเตอโรน เท่านั้น
       
       เฮ้อ… เกิดเป็นผู้หญิงแท้จริงแสนลำบาก ส่วนผู้ชายมันก็มีหน้าที่ตั้งหน้าตั้งตาเล่นท่าเสกเด็กใส่ท้องลูกเดียว!

   
       ชัวร์สี่
       ->ใส่ถุงยางอนามัย
       
       ถุงยางอนามัยสำหรับหญิง มีลักษณะเป็นถุงโปร่งแสง ทรงกระบอก ปลายมนทำด้วยโพลียูรีเธน ปลายเปิดของถุงยางมีขอบลักษณะคล้ายห่วงติดอยู่เรียกว่า ขอบนอก มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 7 เซนติเมตร
       ภายในก้นถุงซึ่งเป็นปลายตันจะมีห่วงอีกอันหนึ่งวางอยู่มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 5.5 เซนติเมตร เรียกว่า ขอบใน ซึ่งสามารถถอดออกได้ ขอบในจะใช้สอดถุงยางเข้าไปในช่องคลอด โดยบีบขอบในแล้วสอดเข้าไปจนสุดซึ่งจะเข้าไปครอบบนปากมดลูก และห่วงนี้จะยึดถุงยางไว้ไม่ให้หลุดออกมาในขณะที่ห่วงนอกที่เป็นขอบถุงยางจะช่วยให้ถุงยางแผ่ติดตรงบริเวณปากช่องคลอด
       
       ข้อดี ผู้หญิงสามารถป้องกันตนเองได้ สามารถสอดใส่ไว้ก่อนร่วมเพศได้ ขนาดของถุงมีเส้นผ่าศูนย์กลางกว้างพอไม่ทำให้ฝ่ายชายอึดอัด มีความเหนียวและทนทานดี หลังการร่วมเพศแล้วฝ่ายชายไม่จำเป็นต้องรีบถอนอวัยวะเพศออกเพื่อถอดถุงยางอนามัยทันที ยังคงสามารถสัมผัสใกล้ชิดกันได้นานๆ
       
       ส่วนข้อเสีย การสอดใส่ถุงยางเข้าไปในช่องคลอดหญิงอายุน้อยบางคนยังรับไม่ได้ หรือมีห่วงอยู่ที่ขอบถุงยางซึ่งโผล่อกมานอกปากช่องคลอด ทำให้คู่นอนเสียความรู้สึกทางเพศ มีรูปร่างเทอะทะไม่น่าใช้ ผู้ใช้บางรายอาจมีอาการเจ็บขณะร่วมเพศ นอกจากนี้แล้วราคายังแพงกว่าถุงยางอนามัยชาย ถุงยางอนามัยชายจึงได้รับความนิยมมากกว่า

   
       ชัวร์ห้า
       ->ใส่ห่วงอนามัย
       
       มีรูปร่างหน้าตาเหมือนตัว T ต้องใส่โดยสูตินรีแพทย์ที่ชำนาญเท่านั้น โดยจะป้องกันการฝังตัวของตัวอ่อน แต่สามารถหลุดเองได้ แถมทะลุเข้าช่องท้องได้อีกต่างหาก อ้อ! การคุมกำเนิดชนิดนี้ ก็เป็นการคุมกำเนิดราคาถูกระยะยาวที่ได้ผล
       
       หากเป็นห่วงทองแดงสามารถอยู่ได้ถึง 10 ปี แต่ถ้าเป็นชนิดโปรเจสเตอโรนจะต้องเปลี่ยนทุกปี มีผลข้างเคียงน้อยมากเมื่อเทียบกับวิธีอื่น
       
       ห่วงอนามัย เป็นการใส่เครื่องมือในโพรงมดลูก เหมาะกับผู้หญิงที่เคยมีลูกแล้ว และมีอาการแพ้ยาคุมชนิดกินหรือฉีด ห่วงอนามัยจะมีหลายชนิด ทั้งชนิดที่มีตัวยา และไม่มีตัวยาใดๆ การใส่ห่วงต้องให้คุณหมอเป็นผู้ใส่ให้ อยากมีลูกตอนไหน ก็ให้คุณหมอถอดออกให้ และโดยปกติจะใส่ครั้งละ 3 ปี
       
       ชัวร์หก
       ->นับวัน
       
       เรามักจะได้ยินกันว่า ระยะปลอดภัยจากการตั้งครรภ์คือ “หน้า 7 หลัง 7” จากวันที่มีประจำเดือน ซึ่งหมายถึง การกะประมาณระยะเวลาที่ไข่ไม่ตก ดังนั้นจึงปฏิบัติภารกิจโป้งชึ่งกันได้ แต่ไม่ได้ปลอดภัยเสมอไป
       
       การคุมกำเนิดวิธีนี้ไม่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่มีประจำเดือนคลาดเคลื่อน ฉะนั้นถ้าไม่แน่ใจ และไม่อยากพลาด ไม่ควรใช้วิธีนี้

   
       ชัวร์สุดท้าย
       ->หลั่งข้างนอก
       
       วิธีการหลั่งภายนอกช่องคลอด (Coitus interruptus) คือ การดึงอวัยวะเพศของผู้ชายออกจากช่องคลอดก่อนที่จะมีการหลั่ง จะป้องกันการตั้งครรภ์ได้เพียง 81-96% เท่านั้น และถึงแม้จะยังไม่มีการหลั่งเกิดขึ้น แต่ระหว่างที่แข็งตัว อวัยวะเพศชายจะผลิตของเหลว ซึ่งประกอบไปด้วยเชื้ออสุจิมากมาย และสามารถทำให้ตั้งท้องได้เช่นเดียวกัน
       
       ที่สำคัญคือ มีผู้ชายจำนวนไม่น้อยทีเดียวที่ไม่สามารถบอกได้ว่า เมื่อไหร่ตัวเองจะเกิดการหลั่ง ดังนั้นวิธีนี้อาจจะเสี่ยงเกินไปสำหรับผู้ชายที่วิทยายุทธยังไม่แกร่งกล้า ผ่านศึกไม่โชกโชนมากนัก
       
       วิธีนี้ต้องอาศัยวิทยายุทธ์บู้ลิ้มของฝ่ายชายเท่านั้น ว่าสามารถหลั่งข้างนอกโพรงมดลูกได้ทันหรือไม่ แต่ระวังให้ดี เพราะเจ้าอสุจินับล้านจะวิ่งแข่งกันเข้าไปชนกับรังไข่แบบไม่รู้ตัว วิธีนี้ไม่ชัวร์นัก โอกาสล้มเหลวสูง งั้นไม่ควรให้คุณแฟนลอง มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นะยะ


By Lady Manager @Bitchy
ASTVผู้จัดการออนไลน์ 5 กรกฎาคม 2555