4. ศาลแพ่ง พิพากษาให้ เก่ง การุณ อดีต ส.ส.เพื่อไทย ชดใช้ค่าจัดเลือกตั้งใหม่เขตดอนเมือง 5.3 ล้าน หลังถูก กกต.แจกใบแดง!
เมื่อวันที่ 10 ก.พ. ศาลแพ่ง ได้อ่านคำพิพากษาคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นโจทก์ฟ้องนายการุณ โหสกุล หรือเก่ง อดีต ส.ส. กทม. เขต 12 ดอนเมือง พรรคเพื่อไทย เป็นจำเลย โดยให้ชดใช้ค่าใช้จ่ายสำหรับการจัดเลือกตั้ง ส.ส. ในเขตดังกล่าวใหม่ จำนวน 5,369,108.32 บาท
จากกรณีที่ กกต. โจทก์ ได้จัดให้มีการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 27 ก.ค. 2554 โดยโจทก์ได้ประกาศผลการเลือกตั้งให้นายการุณ จำเลย ซึ่งเป็นผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.กทม. แบบแบ่งเขต พรรคเพื่อไทย ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.กทม. เขตเลือกตั้งที่ 12 ซึ่งต่อมา นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ในเขตเดียวกัน ได้ยื่นคำร้องว่า จำเลยปราศรัยใส่ร้ายนายแทนคุณ ด้วยข้อความเท็จ เพื่อให้ประชาชนงดเว้นการลงคะแนนให้นายแทนคุณและพรรคประชาธิปัตย์ ส่งผลให้การเลือกตั้งไม่เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม โดย กกต. สอบถามแล้วเห็นว่า จำเลยกระทำการดังกล่าวจริง จึงยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งขอให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของจำเลย ต่อมาศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง มีคำสั่งเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้งของจำเลย 5 ปี (ให้ใบแดง) และให้มีการเลือกตั้ง ส.ส. เขตเลือกตั้งที่ 12 ใหม่ โจทก์จึงจัดการเลือกตั้งใหม่และประกาศผลให้นายแทนคุณชนะการเลือกตั้งเป็น ส.ส. กทม. เขตเลือกตั้งที่ 12 โดยโจทก์ใช้งบประมาณแผ่นดินเป็นค่าใช้จ่ายการเลือกตั้งใหม่เป็นเงินทั้งสิ้น 5,201,313 บาท และขอให้จำเลยชดใช้เงินพร้อมดอกเบี้ยรวมเป็นเงิน 5,369,108.32 บาท
ด้านศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ตาม พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และการได้มาซึ่ง ส.ว. พ.ศ. 2550 มาตรา 113 บัญญัติว่า ในกรณีที่ศาลฎีกาฯ มีคำสั่งเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้ง ส.ส. ผู้ใด เป็นเหตุให้ต้องมีการเลือกตั้งใหม่ ให้ผู้ถูกเพิกถอนการเลือกตั้งต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าใช้จ่ายสำหรับการเลือกตั้งใหม่นั้นด้วย จำเลยจึงต้องรับผิดชดใช้ค่าใช้จ่ายสำหรับการเลือกตั้งใหม่ให้แก่โจทก์จำนวน 5,369,108.32 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี จากเงินต้น 5,201,313 บาท จนกว่าจะชำระเสร็จ
ด้าน นายการุณ ไม่ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษาศาลแพ่ง โดยบอกว่า ไม่ทราบว่าศาลมีคำพิพากษาในวันดังกล่าว และจะพิจารณาอีกครั้งว่าจะยื่นอุทธรณ์หรือไม่
อนึ่ง เมื่อวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา ศาลแพ่งได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ที่นายแทนคุณ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายการุณ เรื่องกระทำละเมิดจากกรณีปราศรัยโจมตีใส่ร้ายนายแทนคุณต่อหน้าประชาชนจำนวนมาก ด้วยข้อความอันเป็นเท็จที่เขตเลือกตั้งดอนเมือง ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย โดยศาลอุทธรณ์พิพากษายืนให้นายการุณ ชดใช้เงิน 1 ล้านบาท ให้นายแทนคุณ
5. พล.ต.อ.สมยศ ชนะคู่แข่งถล่มทลายได้นั่งนายกสมาคมบอลฯ คนใหม่ ด้าน ฟีฟ่า ขู่แบนบอลไทย เตือนทุกฝ่ายถอนฟ้อง!
เมื่อวันที่ 11 ก.พ. ที่อินดอร์ สเตเดียม หัวหมาก การกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.) คณะกรรมการกลางสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ซึ่งแต่งตั้งโดยสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ(ฟีฟ่า) ที่มี พล.ร.อ.สุรวุฒิ มหารมณ์ หรือ เสธ.โต เป็นประธาน ได้จัดการประชุมใหญ่พิเศษสมาคมฟุตบอลฯ เพื่อเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลฯ คนใหม่แทนนายวรวีร์ มะกูดี หรือบังยี อดีตนายกสมาคมฟุตบอลฯ 4 สมัย และอดีตคณะกรรมการบริหารฟีฟ่า ที่ถูกฟีฟ่าสั่งพักงานฐานละเมิดข้อบังคับเกี่ยวกับจริยธรรม
สำหรับผู้สมัครชิงนายกสมาคมฟุตบอลฯ ได้แก่ นายธวัชชัย สัจจกุล หรือบิ๊กหอย, พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง หรือบิ๊กอ๊อด อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, นายพินิจ สะสินิน, ดร.ชาญวิทย์ ผลชีวิน หรือโค้ชหรั่ง, นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ หรือบิ๊กตั้น และ พ.ต.ท.ชัยทรัพย์ ธรัช ฤทธิ์เต็ม หรือรองแห้ว ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่า มีเพียง พ.ต.ท.ชัยทรัพย์ เพียงคนเดียวที่ไม่ได้เดินทางมาสังเกตการณ์การเลือกตั้งครั้งนี้แต่อย่างใด
ทั้งนี้ การลงคะแนนเลือกตั้งครั้งนี้ มีทั้งหมด 68 เสียงจาก 72 เสียง เนื่องจาก 4 สโมสรไม่เดินทางมา ประกอบด้วย 1.เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด (ไทยลีก) 2.บีอีซี เทโรศาสน (ไทยลีก) 3.โอสถสภา เอ็ม-150 (ไทยลีก) และวิทยาลัยเทคโนโลยีพิชญเกษม (ถ้วย ค)
โดยผลการลงคะแนนเลือกตั้ง ปรากฏว่า พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ได้รับเลือกเป็นนายกสมาคมฟุตบอลฯ คนใหม่ ด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น 62 เสียง ขณะที่ ดร.ชาญวิทย์ ผลชีวิน ได้ 4 คะแนน ส่วนนายณัฐพล ทีปสุวรรณ ได้ 1 คะแนน มีไม่ประสงค์ลงคะแนน 1 คะแนน ขณะที่ผู้สมัครอีก 3 คน คือ นายธวัชชัย สัจจกุล , นายพินิจ สะสินิน และ พ.ต.ท.ชัยทรัพย์ ธรัช ฤทธิ์เต็ม ไม่มีคะแนน
ส่วนผลการเลือกตั้งอุปนายกสมาคมฯ ปรากฏว่า อุปนายก 5 คนในชุดของ พล.ต.อ.สมยศ ชนะการเลือกตั้งทั้งหมด ประกอบด้วย นายทรงธรรม เพียรพัฒนาวิทย์, นายศุภสิน ลีลาฤทธิ์, นายธนศักดิ์ สุระประเสริฐ, นายวิทยา เลาหกุล และ พล.อ.อดุลย์เดช อินทะพงษ์
สำหรับผลการเลือกตั้งกรรมการกลาง ปรากฏว่า กรรมการกลาง 13 คน ชุด พล.ต.อ.สมยศ ได้รับเลือกตั้งเช่นกัน ประกอบด้วย น.ส.นันทนี วงศ์อำนิษฐกุล, นายธนวัชร์ นิติกาญจนา, พล.ร.อ.นาวิน ธนเนตร, นายสมเกียรติ กิตติธรกุล, นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล, นายชาติชาย เจียมสิริพงศ์, นายทรงเกียรติ ลิ้มอรุณรักษ์, ดร.วิชิต คนึงสุขเกษม, นายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ, นายสุวิทย์ พิพัฒน์วิไลกุล, นายธวัช อุยสุย, นายทรงยศ เทียนทอง และนายณัฐ ชยุติมันต์
ด้าน เสธ.โต พล.ร.อ.สุรวุฒิ ประธานคณะกรรมการกลางการเลือกตั้ง บอกว่า กกต.จะนำผลไปให้เอเอฟซีและฟีฟ่ารับรอง ทั้งนายกสมาคมฯ อุปนายก และสภากรรมการ เมื่อรับรองแล้ว จะส่งให้การกีฬาแห่งประเทศไทยรับรองผลการเลือกตั้งต่อไป
ขณะที่ พล.ต.อ.สมยศ ว่าที่นายกสมาคมฟุตบอลฯ คนใหม่ ได้แถลงข่าวขอบคุณผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย พร้อมยืนยัน ตนและทีมงานจะบริหารสมาคมอย่างเต็มความสามารถด้วยการร่วมกันคิด ร่วมกันตัดสินใจ และร่วมกันรับผิดชอบ เพื่อนำพาวงการฟุตบอลไทยให้ก้าวหน้าตามที่แฟนบอลชาวไทยอยากเห็นการเปลี่ยนแปลง หากมีสิ่งบกพร่องขอให้เตือนและท้วงติงได้ จะเน้นความถูกต้อง โปร่งใส ยุติธรรม และตรวจสอบได้ พร้อมนัดประชุมทีมงานวันที่ 14 ก.พ.นี้
ด้านนายภาคิน จินาภักดิ์ คณะทำงานฝ่ายกฎหมายของสมาคมฟุตบอลฯ ได้ยื่นหนังสือต่อนายสกล วรรณพงษ์ หรือบิ๊กเสือ ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ขอให้ระงับการรับรองผลเลือกตั้งครั้งนี้ โดยอ้างว่าคณะกรรมการกลางฝ่าฝืนข้อบังคับลักษณะการปกครองของสมาคมฯ รวมถึงการเลือกตั้งตัวแทน 30 เสียงใหม่ในลีกภูมิภาคเมื่อวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 11 ก.พ. ฟีฟ่า ได้ส่งหนังสือถึง เสธ.โต พล.ร.อ.สุรวุฒิ ว่า ตามกฎของฟีฟ่า ไม่อนุญาตให้สมาคมฟุตบอลชาติสมาชิก รวมถึงสโมสรสมาชิก คณะกรรมการบริหารลีก ผู้เล่น เจ้าหน้าที่ หรือบุคลากรอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง นำเรื่องเข้าสู่ชั้นศาล เว้นแต่จะได้รับคำสั่งจากฟีฟา อีกทั้งตามระเบียบของฟีฟ่า สมาคมฟุตบอลชาติสมาชิกจะต้องลงโทษสโมสรสมาชิก ผู้เล่น หรือผู้เกี่ยวข้องที่ละเมิดกฎ หากไม่ดำเนินการ จะลงโทษสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยที่ไม่สามารถควบคุมสโมสรสมาชิกได้ และอาจส่งผลให้ทีมสโมสรหรือทีมชาติโดนแบน
ด้าน บิ๊กหอย ธวัชชัย สัจจกุล 1 ใน 6 แคนดิเดตชิงเก้าอี้นายกสมาคมฟุตบอลฯ ได้ทำหนังสือถึงฟีฟ่าเมื่อวันที่ 12 ก.พ. โดยยินดีจะถอนฟ้องคณะกรรมการกลางสมาคมฟุตบอลฯ เนื่องจากไม่อยากให้ทีมฟุตบอลไทยถูกฟีฟ่าลงโทษ อย่างไรก็ตาม นอกจากคดีของ บิ๊กหอย แล้ว ยังมีคดีที่ พ.ต.ท.ชัยทรัพย์ ธรัช ฤทธิ์เต็ม หนึ่งในผู้สมัครนายกสมาคมฟุตบอลฯ รวมถึงคดีนางอนงค์ ล่อใจ อดีตประธานสุราษฎร์ เอฟซี พร้อม 3 ทีมภาคใต้ ปัตตานี เอฟซี , พังงา เอฟซี , ยะลา ยูไนเต็ด และคดีที่ พล.อ.จีระศักดิ์ บุตรเนียร ประธานสโมสรมุกดาหาร ลำโขง ยื่นฟ้องคณะกรรมการกลางอยู่ในชั้นศาลด้วย
MGR Online 13 กุมภาพันธ์ 2559