ผู้เขียน หัวข้อ: ทำงานกันยังไง!?หนุ่มวัย36โดนฟันหัวดับ ญาติโวย แพทย์เวรโรงพยาบาล ไม่ยอมออกมาตรวจ  (อ่าน 594 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9796
    • ดูรายละเอียด
จากกรณีเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2560 เวลา06.45 น.ที่ผ่านมาได้เกิดเหตุ นายพีรเดช ร้อยแก้ว อายุ 36 ปี บ้านเลขที่ 88 หมู่ 4 ต.ลานสัก อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี ถูกฟันหัว จมน้ำข้างทางโดย ร.ต.อ.รังสรรค โอสาร ร้อยเวร สภ.ลานสักจ.อุทัยธานี รุดเข้าตรวจสอบพร้อมมูลนิธิกู้ภัยอุทัยธานีจุดลานสัก พบศพนายพีรเดช นอนคว่ำหน้าจมน้ำเสียอยู่ในนาข้าวข้างถนนลูกทางเข้าหมู่ที่ 2 บ้านพุหล่ม ต.ลานสัก จ.อุทัยธานี บริเวณถนนลูกรังทางเข้าหมู่บ้านสภาพนอนคว่ำหน้าจมน้ำอยู่ โดยสวมเสื้อยืดสีน้ำตาล สวมกางกางยีนขาสั้น จึงตรวจสอบพบบาดแผลที่บริเวณด้านศีรษะเป็นบาดแผลถูกฟันด้วยของมีคมยาวประมาณ 10  เซนติเมตร ลึกประมาณ 5 เซนติเมตร เป็นแผลฉกรรจ์ และพบบาดแผลที่ขาด้านซ้ายหน้าอกจนเสื้อขา เป็นลอยลักษณะคล้ายถูกฟันด้วยของมีคมข้างถนนพบจักรยานยนต์ ทะเบียน กพม. 501 อุทัยธานี ยี่ห้อฮอนด้าเวป100สีน้ำเงินโดยหน้ารถจักรยายยนต์คันดังกล่าวทับผู้ตายอยู่ ตรวจสอบบนถนนมีร่องรอยการเบรกของ จักรยายยนต์เป็นทางยาวประมาณ 5 เมตร กระเป๋าเงินตัวของผู้ตายพบบัตรประชาชนของผู้ตายเงินสดจำนวน 1240 บาท เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบถาม นางผาวัน จันทร์งาม อายุ 38 ปี ซึ่งเป็นภรรยาของผู้ตายให้การว่าผู้ตายมีอาชีพรับจ้างทั่วไป และเลี้ยงไก่ชนเพื่อเอาไว้ตีและจำหน่าย เมื่อวันที่เกิดเหตุ ช่วงบ่าย ผู้ตายได้นำไก่ชน ไปตีในบ่อนที่บ้านทุ่งสาลี อ.ห้วยคต หลังจากนั้นเวลาประมาณ 5 โมงเย็น ผู้ตายได้ไปนั่งกินเหล้าที่ร้านค้าภายในหมู่บ้านพุหล่มหมู่ 2 กับเพื่อน 3 คน และได้มีการซ่อมไก่ขึ้น  หลังจากนั้นเวลา ประมาณ 3 ทุ่ม ผู้ตายได้ขี่จักรยานยนต์กลับบ้าน เพื่อที่จะมาต้อนไก่ไก่เข้าเล้ พอผู้ตายมาถึงบ้านได้โทรศัพท์เข้ามาตนเองก็มาทราบว่าเป็นใครโทรเข้ามา และผู้ตายได้รีบขี่ จักรยานยนต์ออกจากบ้านไป โดยตนเองก็ไม่ทราบว่าไปไหนเช่นกัน จนเช้ามาทราบชาวบ้านว่าสามีนอนเสียชีวิตแล้ว

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจและมูลนิธิกู้ภัยอุทัยธานีนั้น ตรวจที่เกิดเหตุและสาเหตุการตายชองนาย นายพีรเดช ร้อยแก้ว อายุ 36 ปี บ้านเลขที่ 88 หมู่ 4 ต.ลานสัก อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี เป็นที่เรียบร้อยแล้วจึงได้โทรศัพท์ไปยังโรงพยาบาลอำเภอลานสักจังหวัดอุทัยธานี เพราะเป็นคดีอุดฉกรรจ์ แต่แพทย์เวรโรงพยาบาลลานสักก็ยังไม่มาสักทีทางญาติผู้เสียชีวิตและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต่างก็โทรศัพท์เร่งให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบไวๆแต่ก็ยังไม่มารอนานกว่า 2 ชั่วโมง ทางแพทย์เวรโรงพยาบาลลานสัก จึงมาที่เกิดเหตุและตรวจสอบ โดยแพทย์หญิงเกสรา วิเชียรสรรค์ แพทย์เวรโรงพยาบาลลาน ตรวจสอบเบื้องตนพบบาดแผลผู้ตายนั้นถูกของมีคมฟันที่ด้านหลังศีรษะ เป็นบาดแผลฉกรรจ์และมีเส้นผมอยู่ในมือด้านซ้ายของผู้ตายโดยผู้ตายนั้นกำเส้นผมไว้ เบื้องต้นสาเหตุน่าจะมีการถูกทำร้ายกันมาก่อนและผู้ตายนั้นได้เสียหลักโดยการขับขี่จักรยานยนต์พลิกคว่ำตกลงไปในนาข้าวที่มีน้ำหน้าคว่ำจมน้ำและจมขี้โคลนทำให้ขาดอากาศหายทำให้เสียชีวิต     ส่วนด้านนางอุไรวรรณ ร้อยแก้ว อายุ 41 ซึ่งเป็นพี่สาว ของผู้ตายได้ร้องเรียนผู้สื่อข่าว ว่าตนเองนั้นได้รับแจ้งจาภรรยาของผู้ตายก็รีบที่เกิดเหตุทันทีเพื่อมาดูสาเหตุการตายของน้องชาย เพื่อรู้ข้อมูลเบื้องต้นในสาเหตุการตายทีแรกก็คิดว่าเป็นอุบัติเหตุแหกโค้งเสียชีวิตแต่เวลากู้ภัยลงไปดูที่ศพของผู้ตายพบบาดแผลร่องรอยเหมือนการทำร้ายกันหลังจากนั้นตนเองก็พูดกับร้อยเวรเพื่อให้แจ้งแพทย์เวรมาตรวจสอบหาสาเหตุด้วยร้อยเวรก็บอกว่าได้แจ้งไปยังแพทย์เวรแล้วแต่แพทย์ไม่ยอมมาที่เกิดเหตุโดยอ้างว่าให้นำผู้ตายมาที่โรงพยาบาลลานสักเลย ซึ่งตนเองเองและญาตินั้นไม่พอใจและก็ไม่ยอมให้นำผู้ตายออกจากที่เกิดเหตุ เนื่องจากคดีดังมันคดีฆาตกรรมทำไมแพทย์เวรไม่ยอมมาส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ยอมให้นำศพไปที่โรงพยาบาลลานสักเพราะแพทย์ต้องมาตรวจสอบหาสาเหตุการตายที่เกิดเหตุ จนกู้อุทัยธานีจุดลานสักติดต่อและแจ้งไปยังแพทย์เวรจนต้องออกมาชันศูนย์พลิกศพโดยญาติและเจ้าหน้าที่ตำรวจรอแพทย์ เกือบ 2 ชั่วโมงกว่า ทั้งที่ระยะทางจากโรงพยาบาลลานสัก มาที่เกิดเหตุเพียง 5 กิโลเมตร จนชาวบ้านและญาติที่มาดูเหตุการณ์ต่างคนต่างไม่พอใจ การทำงานของโรงพยาบาลลานสักเนื่องจากตนเองได้ติดใจในการตายน้อง โดยเหตุการณ์นี้ได้เกิดตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม 2560 เวลา06.45 น. โดยในขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งติดตามคนก่อเหตุใช้มีดหรือของมีคม ฟันหัวนายพีรเดช จนเสียชีวิตมาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วน ส่วนการทำงานของแพทย์เวรโรงพยาบาลลานสัก ญาติผู้เสียชีวิตก็ยังติดใจและสงสัยอยู่ว่าเพราะเหตุใดไม่ยอมมาที่เกิดเหตุและกว่าจะมาใช้เวลานาน โดยศพของนายพีรเดช ขณะนี้ ได้นำไป ม.นเรศวร จังหวัดพิษณุโลก เพื่อไปทำการชันศูนย์หาสาเหตุการตายอีกครั้งหนึ่ง ส่วนที่สำนักข่าวทีนิวส์จำต้องนำเสนอข่าวนี้ เพราะทางญาติผู้ตายนั้นติดใจในการทำงานของแพทย์เวรโรงพยาบาลลานสักนั่นเอง

http://www.tnews.co.th/contents/bg/342958
Publish 2017-08-01