คุณอุปามัย ได้ส่งเรื่องร้องทุกข์เกี่ยวกับปัญหาบัตรทองที่ทำให้ญาติตนเองเสียชีวิตลง มีข้อความดังต่อไปนี้ “ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 เมษายน ที่ผ่านมา ลูกพี่ลูกน้องผม กลับจากทำงานตอนเย็น นั่งมาในรถแล้วเกิดเหงื่อออกเต็มตัวแล้ววูบไปเลย เพื่อนๆที่ทำงานที่มาด้วยกันเลยรีบนำส่งโรงพยาบาลบ้านนา จ.นครนายก ขณะนั้นพี่เขาไม่ได้สติแล้ว รู้สึกได้เลยว่าแย่มากแล้ว ไปถึงโรงพยาบาลบ้านนา ก็ส่งตัวไปต่อที่โรงบางสระบุรีซึ่งหากออกไปประมาณ 60-70 กิโลได้ เลยถามว่าทำไมไม่ส่งไปโรงพยาบาลนครนายก ที่ห่างออกไปแค่ 10 กม. เจ้าหน้าที่บอกว่า เพราะต้นสังกัดของบัตรทองที่นั้น ทั้งๆที่พี่ชายผมอาการแย่มากแล้ว แทนที่จะส่งใกล้ๆ กลับส่งไปโรงพยาบาลไกล ซึ่งไปถึงก็สายไปแล้วครับ ไปถึงหมอก็บอกว่าไม่ทันแล้ว และพี่เขาก็จากไปนะครับ หากไม่ใช่บัตรทอง ก็คงได้ไปที่โรงพยาบาลใกล้ๆใช่ไหมครับ แล้วแบบนี้หากคนป่วยไปอุบัติเหตุที่เชียงรายมีต้องส่งมารักษาที่สระบุรีหรือครับ”
ปัญหาดงกล่าวจะไม่เกิดขึ้นถ้าทุกโรงพยาบาลทำตามนโยบายของรัฐบาลที่ได้ประกาศไปแล้วว่าให้ทุกโรงพยาบาลไม่ว่าของรัฐหรือเอกชนรับผู้ป่วยที่ใช้สิทธิบัตรทองที่ป่วยอย่างฉุกเฉินอันอาจอันตรายถึงชีวิตได้เข้ารักษาได้ทันทีตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน ที่ผ่านมา เหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นอาจเป็นเพราะเจ้าหน้าที่ไม่ทราบนโยบายของรัฐบาลที่ได้มีการประกาศออกไปแล้ว ก็ต้องให้ทางกระทรวงสาธารณสุขแจ้งย้ำเตือนไปยังทุกโรงพยาบาลเพื่อที่จะได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ของทุกโรงพยาบาลได้รับทราบในนโยบายดังกล่าว ถ้ามีเหตุการณ์ดังเช่นนี้เกิดขึ้นบ่อย ทางกระทรวงสาธารณสุขน่าจะมีมาตรการอะไรสักอย่างหนึ่งออกมา เพื่อให้ทุกโรงพยาบาลเห็นคุณค่าของชีวิตคนมากกว่าคุณค่าใด ๆ
เดลินิวส์ 21 พฤษภาคม 2555