ผู้เขียน หัวข้อ: “รัชตะ”รับหนักใจ“กระทรวงหมอ”ความเห็นต่างเพียบสะสมนาน เชื่อ“ปิยะสกล”บริหารต่อได้  (อ่าน 687 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9796
    • ดูรายละเอียด
“หมอรัชตะ” มอบเกียรติบัตรงานตลาดนัดนวัตกรรมการแพทย์ไทย ภารกิจสุดท้ายฐานะ รมว.สธ. รับหนักใจ “กระทรวงหมอ” ความเห็นต่างเพียบ สะสมเรื้อรังนาน ฟุ้งใช้สันติวิธีเจรจาช่วยสถานการณ์ดีขึ้น เชื่อ “หมอปิยะสกล” บริหารงานต่อเนื่องได้ เผยเป็นที่ปรึกษานายกฯ แต่ยังไม่ได้รับมอบหมายงานเป็นพิเศษ ชี้งานมหกรรมฯ ช่วยเดินหน้าธุรกิจนวัตกรรมการแพทย์มากกว่า 200 ล้านบาท
       
       วันนี้ (20 ส.ค.) ที่ศูนย์ประชุมคอนเวนชันฮอล์ เมืองทองธานี ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้เดินทางมามอบเกียรติบัตรแก่ผู้แสดงผลงานนวัตกรรมการแพทย์ไทย ในงานมหกรรมตลาดนัดนวัตกรรมการแพทย์ไทย MedI Thai: Medical Innovation of Thailand “ผลิตภัณฑ์จากแนวคิด สิ่งประดิษฐ์ด้านการแพทย์” ทั้งภาครัฐและเอกชนกว่า 200 ราย ซึ่งถือเป็นภารกิจสุดท้ายในตำแหน่ง รมว.สาธารณสุข โดยกลุ่มผู้ที่รับมอบเกียรติต่างได้มอบดอกไม้แก่ ศ.นพ.รัชตะ เพื่อเป็นกำลังใจให้ต่อไป
       
       ศ.นพ.รัชตะ ให้สัมภาษณ์ภายหลังงาน ว่า สธ. เป็นกระทรวงที่มีความคิดเห็นที่แตกต่างกันอยู่มาก หลังได้เข้ามาบริหารก็พยายามดึงให้ทุกฝ่ายที่มีความเห็นต่างได้หันหน้าเข้าหากัน โดยใช้วิธีปรึกษาหารือ เจรจาและแก้ไขปัญหาอย่างสันติแบบพี่น้อง ส่วนตัวคิดว่าขณะนี้บรรยากาศเริ่มเป็นไปในทางที่ดีขึ้นแล้ว ความคิดเห็นที่แตกต่างแต่ละฝ่ายก็เริ่มหันหน้ามาทำงานร่วมกันมากขึ้น ถือว่าดีขึ้นมากแล้ว ทั้งนี้ มองว่า เรื่องความเห็นต่างใน สธ. เป็นเรื่องที่หนักที่สุด เพราะเป็นปัญหาที่สะสมมานาน และที่ผ่านมา ไม่ค่อยได้ใช้วิธีปรึกษาหารือ แต่เมื่อได้หารือกันแล้วโดยใช้วิธิสันติและนำเหตุผลมาพิจารณากันก็สามารถตกลงกันและทำงานกันได้
       
       ผู้สื่อข่าวถามว่า อยากฝากอะไรไปยัง ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สธ. คนใหม่หรือไม่ ศ.นพ.รัชตะ กล่าวว่า สธ. เป็นกระทรวงที่มีศักยภาพสูง หากบริหารจัดการได้ก็จะผลักดันพลังบุคลากรภายในกระทรวงให้ทำงานต่อไปได้เป็นอย่างดี ซึ่งคิดว่า รมว.สธ. คนใหม่ ก็คงสามารถบริหารงานได้อย่างต่อเนื่อง สำหรับในส่วนระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง) ยังคงต้องเดินหน้าตามหลักการต่อไป แต่คงต้องมีการปรับเปลี่ยนการบริหารจัดการให้ดียิ่งขึ้น ทำให้เกิดความยั่งยืน รวมถึงในแง่ทรัพยากรที่เพียงพอ
       
       เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายงานอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ ศ.นพ.รัชตะ กล่าวว่า นายกฯ ได้แต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี แต่ขณะนี้ยังไม่ได้มอบหมายงานอะไร ซึ่งคงต้องหารือจากนี้ก่อน
       
       ศ.นพ.รัชตะ กล่าวถึงการจัดงานดังกล่าว ว่า มีผู้เข้าร่วมงานมากว่า 4,000 คน โดยวันแรกมีนักลงทุนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจากประเทศญี่ปุ่น เยอรมนี ออสเตรเลีย มาชมงาน และยังมีการเจรจาตกลงซื้อขายจำนวน 52 รายการ เกิดการแลกเปลี่ยนซื้อขายสินค้าในงานนวัตกรรมกว่า 200 ล้านบาท ทั้งนี้ หากประเมินผลการจัดงานครบทั้ง 3 วัน คาดว่า จะมีการเจรจาจับคู่ทางธุรกิจและซื้อขายกันมากกว่านี้ ซึ่งจากการพูดคุยกับผู้แสดงผลงานนวัตกรรม พบว่า มียอดการซื้อเพิ่มมากขึ้น ที่สำคัญ หลังจากมีการเผยแพร่ผลงานนวัตกรรมการแพทย์ในหลาย ๆ รายการออกไปสู่สาธารณะ ก็ช่วยเพิ่มยอดการซื้อขายเพิ่มมากขึ้น เช่น รถพยาบาลนาโน รถพยาบาลนาโนอัจฉริยะ และยูนิตทำฟัน หรือเก้าอี้ทำฟันฝีมือคนไทย เป็นต้น ทั้งนี้ งานดังกล่าวถือว่าช่วยส่งเสริมให้มีการขยายผลในเชิงพาณิชย์ ส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาระบบและคุณภาพการบริการให้ได้มาตรฐาน ประชาชนเข้าถึงได้ตามความจำเป็นด้านสุขภาพในแต่ละระดับ ขยายความครอบคลุมการบริการอย่างเท่าเทียมกัน และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณด้านสุขภาพของประเทศ ส่งผลให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์และสุขภาพของภูมิภาคอาเซียนได้ในอนาคต
       
       “คาดว่า อาจมีการจัดงานในลักษณะนี้อีก เพื่อให้มีการต่อยอดนวัตกรรมและการวิจัยในงานต่าง ๆ ต่อไป ผมขอถือโอกาสนี้แสดงความขอบคุณต่อคณะผู้ดำเนินงาน และผู้มาจัดแสดงในงาน ขอบคุณวิทยากรที่กรุณาสละเวลาให้เกียรติมามอบความรู้ ขอขอบคุณผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่ช่วยให้งานสำเร็จลุล่วงไปด้วยดีบัดนี้” ศ.นพ.รัชตะ กล่าว

ASTVผู้จัดการออนไลน์    20 สิงหาคม 2558