ผู้เขียน หัวข้อ: สภาแพทย์แผนไทยจี้ทบทวนข้อกำหนดใช้ฟ้าทะลายโจรรักษาโควิด ตัดข้อความ “ใช้โดยผู้  (อ่าน 450 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9787
    • ดูรายละเอียด
สภาการแพทย์แผนไทย ทำหนังสือถึงประธานคณะอนุกรรมการบัญชียาหลักแห่งชาติ ด้านสมุนไพร และ สํานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ขอให้ทบทวนการกำหนดปริมาณการใช้ฟ้าทะลายโจรรักษาโควิด โดยให้มีสารแอนโดรกราโฟไลด์ 180 มก./วัน แก้เป็น “ไม่เกิน 180 มก./วัน” และให้ตัดข้อความ “ให้ใช้ได้โดยผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม” ที่ทำให้เกิดการเข้าใจผิดว่าวิชาชีพแพทย์แผนไทยและแพทย์แผนไทยประยุกต์ไม่สามารถใช้ได้

เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2564 พลเรือเอก ชาญชัย เจริญสุวรรณ นายกสภาการแพทย์แผนไทย ได้ลงนามใน ประกาศสภาการแพทย์แผนไทย เรื่อง แจ้งผลการคัดเลือกรายการยาในบัญชียาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพร มีรายละเอียดดังนี้

ตามที่มีข่าวเรื่อง คณะอนุกรรมการบัญชียาหลักแห่งชาติ ด้านสมุนไพร มีมติคัดเลือกรายการยาจากสมุนไพรจํานวน 2 รายการ เข้าบัญชียาหลักแห่งชาติได้แก่ ยาสกัดจากฟ้าทะลายโจร และยาจากผงฟ้าทะลายโจร โดยมีรายละเอียดแสดงรูปแบบ ข้อบ่งชี้ ขนาดวิธีใช้ และหมายเหตุว่า “ให้ใช้โดยผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม” ความตามรายละเอียดที่ได้ทราบแล้วนั้น

สภาการแพทย์แผนไทย ขอเรียนให้ทราบว่า เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2564ได้ดําเนินการส่ง หนังสือถึง ประธานคณะอนุกรรมการบัญชียาหลักแห่งชาติ ด้านสมุนไพร และ วันที่ 1 มิถุนายน 2564ได้ดําเนินการส่งหนังสือถึง เลขาธิการสํานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เพื่อขอให้พิจารณาทบทวนดังนี้

1. ขนาดและวิธีใช้ของการรับประทานฟ้าทะลายโจรที่มี Andrographolide 180 มิลลิกรัมต่อวัน ขอเสนอแก้ไขเป็น “ไม่เกิน 180 มิลลิกรัมต่อวัน” ทั้งยาสารสกัดและยาผงด้วยเหตุผลที่ว่าการกําหนดปริมาณ และจํานวนที่ใช้ควรอยู่ในดุลพินิจของแพทย์ผู้ทําการรักษาตามสภาพของผู้รับบริการ

2. ยาจากผงฟ้าทะลายโจรในช่องหมายเหตุข้อ 2 ข้อความว่า “ให้ใช้ได้โดยผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม” ขอให้ตัดข้อความนี้ออกเนื่องจากยาจากผงฟ้าทะลายโจรเป็นยาสามัญประจําบ้านและอยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติซึ่งผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมสามารถสั่งใช้ยาจากผงฟ้าทะลายโจรได้อยู่แล้ว การระบุผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมเพียงอย่างเดียวทําให้เกิดกระแสความเข้าใจผิดเป็นวงกว้างว่าวิชาชีพแพทย์แผนไทยและแพทย์แผนไทยประยุกต์ไม่สามารถใช้ได้ตามสิทธิเดิมที่มีอยู่และอาจเกิดปัญหาในทางปฏิบัติด้านกฎหมายได้ หากวิชาชีพแพทย์แผนไทยและแพทย์แผนไทยประยุกต์ได้มีโอกาสปฏิบัติงานร่วมอยู่ในกระบวนการการตรวจรักษาโรคโควิด-19 จึงประกาศมาให้ทราบโดยทั่วกัน

8 มิ.ย. 2564  ผู้จัดการออนไลน์

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9787
    • ดูรายละเอียด
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามสิ่งที่ส่งมาด้วย แจ้งว่าคณะอนุกรรมการบัญชียาหลักแห่งชาติ ด้านสมุนไพรครั้งที่ 5/2564 ในวันที่ 27 พฤษภาคม 2564 มีมติคัดเลือกรายการยาจากสมุนไพร จำนวน 2 รายการ เข้าบัญชียาหลักแห่งชาติ ได้แก่ ยาสกัดจากฟ้าทะลายโจร และยาจากผงฟ้าทะลายโจร เพื่อให้ใช้กับผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่มีความรุนแรงน้อย เพื่อลดการเกิดโรคที่รุนแรง โดยมีการกำหนดรูปแบบ ข้อบ่งชี้ ขนาด วิธีใช้ แต่กลับระบุในหมายเหตุว่า "ให้ใช้โดยผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม" นั้น

การกำหนดให้การใช้ยาดังกล่าวอยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพรต้องให้ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมเป็นผู้สั่งเท่านั้น อาจถือได้ว่าเป็นการปิดกั้น การเข้าถึงยาประเภทดังกล่าวของชาวบ้านทั่วไป ทั้งๆที่ในอดีตที่ผ่านมาการเข้าถึงยาประเภทดังกล่าวเพื่อใช้ในการบรรเทาการไอ เจ็บคอ น้ำมูกไหล มีไข้ และยับยั้งไวรัสโควิด-19 ที่มีความรุนแรงน้อยได้นั้น ประชาชนสามารถเข้าถึง และหรือใช้ได้โดยไม่จำเป็นต้องให้ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมเป็นผู้สั่งหรือกำหนดแต่อย่างใด ซึ่งหากปล่อยให้การสั่งและใช้ยาต้องผ่านผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมเท่านั้น ต่อไปนี้ชาวบ้านจะซื้อหาหรือใช้ยาดังกล่าวมาใช้ จะไม่สามารถทำได้อีกต่อไป จนกว่าจะมีผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมสั่งให้เท่านั้น กระนั้นหรือ

อีกทั้งการขึ้นทะเบียนยาดังกล่าว มิได้กล่าวถึงหรือขึ้นทะเบียนสมุนไพรฟ้าทลายโจรในรูปแบบ “ผงหยาบ” แต่อย่างใด แต่กลับไปมุ่งเน้นแต่เฉพาะการใช้ยาที่มาจากสารสกัดที่มี Andrographolide ขนาด 60-120 มิลลิกรัม และ 180 มิลลิกรัมเท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่าอาจจะต้องมาจากโรงงานผลิตที่เป็นอุตสาหกรรมเท่านั้น ชาวบ้านธรรมดาหรือหมอยาชาวบ้านคงผลิตขึ้นไม่ได้ จึงเป็นที่สงสัยว่า ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในกระทรวงสาธารณสุขทั้งหลาย มีผลประโยชน์อื่นใดแอบแฝงต่อการขึ้นทะเบียนยาดังกล่าวหรือไม่

ด้วยเหตุดังกล่าวสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ภาคประชาชนและเครือข่ายทางการแพทย์แผนไทย จึงจะเดินทางไปยื่นหนังสือคัดค้านต่อ รมว.กระทรวงสาธารณสุข เพื่อขอให้สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และคณะอนุกรรมการบัญชียาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพร ได้พิจารณาทบทวนมติดังกล่าวในวันพุธที่ 2 มิ.ย.64 เวลา 10.00 น. ณ สำนักงานรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข ตึกสำนักงานปลัดกระทรวงฯ ถนนติวานนท์ ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี

1 มิ.ย. 2564  ผู้จัดการออนไลน์