ผู้ว่าฯ หนองบัวลำภู สั่งเร่งหาที่มาเงินโอนซื้อยาซูโดฯ จาก รพ.นากลาง ยอมรับการสั่งซื้อหละหลวม เผย ร.ต.อ.เฉลิม ติดตามคดีีนี้อย่างใกล้ชิด สั่งดูข้อมูลย้อนหลัง 5 ปี มีการสั่งซื้อเกินความจำเป็นหรือไม่ ...
เมื่อ เวลา 08.45 น. วันที่ 2 พ.ค. นายระพี ผ่องบุพกิจ ผวจ.หนองบัวลำภู เปิดเผยถึงความคืบหน้าของคดียักยอกยาที่มีส่วนผสมสารซูโดอีเฟดรีน ที่ รพ.นากลาง ว่าภายหลังได้พูดคุยกับ นายศักดิ์โกสินทร์ สูตสนธิ์ เภสัชกรปฏิบัติการ หัวหน้ากลุ่มงานเภสัชกรรม รพ.นากลาง ทำให้ได้ข้อมูลในเชิงลึกมากขึ้น โดยเฉพาะการโอนเงิน ซึ่งได้มอบหมายให้ตำรวจเร่งติดตามหาแหล่งโอนเงิน เนื่องจากติดขัด เพราะเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2555 เป็นวันแรงงานและวันหยุดธนาคาร ซึ่งต้องประสานงานกับธนาคารตรวจสอบคาดว่าวันนี้น่าจะรู้ที่มาของเงินโอน เบื้องต้นเชื่อว่าจะเป็นขบวนการที่พัวพันกับหลายจังหวัดที่มีคดีแบบนี้ ซึ่ง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ได้โทรศัพท์สอบถามความคืบหน้าเป็นระยะๆ ได้ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ พร้อมให้ประสานงานกับดีเอสไออย่างใกล้ชิดด้วย
ผวจ.หนองบัวลำภู กล่าวอีกว่า จากสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เห็นว่าการจัดซื้อยาในโรงพยาบาลมีความหละหลวม มีช่องทางให้ก่อทุจริตได้ง่าย จึงได้มอบหมายให้คณะกรรมการตรวจสอบขยายกรอบการตรวจสอบให้ลึกและกว้างขึ้น และเริ่มดำเนินการทันที คือการตรวจสอบยาที่มีส่วนผสมของสารซูโดอีเฟดรีน ย้อนหลังไป 5 ปี นำข้อมูลเปรียบเทียบการจัดซื้อหาความผิดปกติ นอกจากนี้ ให้ขยายออกไปยังสถานีอนามัย หรือโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล ว่าปริมาณการสั่งซื้อยาสอดคล้องกับความต้องการยาในชุมชนหรือไม่ รวมถึงการจ่ายยาให้คนไข้มีความเหมาะสมหรือไม่ ซึ่งกรณียาที่มีส่วนผสมของสารซูโดอีเฟดรีน ใน รพ.นากลาง ก่อนปี 2553 เป็นโรงพยาบาลขนาด 60 เตียง มีการสั่งยามาถึง 80,000 เม็ด มีความผิดปรกติหรือไม่ สถานีอนามัย หรือโรงพยาบาลอื่นๆ ควรตั้งสมมุตฐานเช่นกัน และต้องมีการสุ่มตรวจไปยังคนไข้ ซึ่งถือเป็นมาตรการป้องกันการทุจริตไปในตัวด้วย เพราะกรณีนี้ไม่จำเป็นต้องปลอมลายเซ็น แต่หากผู้บริหารมีส่วนรู้เห็นสั่งยามามากเกินความจำเป็น ก็ต้องรายงานให้จังหวัดทราบด้วยเช่นกัน.
ไทยรัฐออนไลน์ 2 พค 2555
