สธ.ห่วงสถานการณ์ไข้เลือดออกยอดผู้ป่วยพุ่ง 24,272 ราย เสียชีวิต 28 ราย 60% เป็นเด็อ อายุ 6-12 ปี ชี้เหตุเสียชีวิต 1 ใน 3 ไปรักษาคลินิกเพราะเข้าใจเป็นโรคอื่น เตรียมหารือกับ ผอ.สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานรับมือ
วันนี้ ( 28 เม.ย.) นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์โรคไข้เลือดออกในปี 2556 ว่า จากการประเมินสถานการณ์การเจ็บป่วยของที่ประชุมวอร์รูมแก้ไขป้องกันโรคไข้เลือดออก กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่เดือน ม.ค. ถึงวันที่ 17 เม.ย. ทั่วประเทศมีผู้ป่วยสะสม 24,272 ราย เสียชีวิต 28 ราย ผู้เสียชีวิตร้อยละ 60 เป็นเด็กชั้นประถมและมัธยมศึกษา อายุ 6-12 ปี จากการวิเคราะห์สาเหตุที่ทำให้เสียชีวิตพบว่าประมาณ 1 ใน 3 ไปรักษาตัวที่คลินิกก่อน เพราะเข้าใจว่าป่วยเป็นโรคอื่น โดยมี 19 จังหวัดที่พบผู้ป่วยมากกว่า 2 อำเภอ ติดต่อกัน 2 สัปดาห์ในช่วงวันที่ 7 20 เม.ย.ได้แก่ จังหวัด นครราชสีมา ร้อยเอ็ด เลย หนองบัวลำภู นครพนม กำแพงเพชร พิจิตร อุทัยธานี พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เชียงราย น่าน แพร่ กระบี่ นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ปัตตานี สงขลา และ จังหวัดสกลนคร ทั้งนี้ได้กำชับให้ผู้ตรวจราชการ ของกระทรวงสาธารณสุขที่รับผิดชอบดูแลพื้นที่ 19 จังหวัดดังกล่าว ติดตามแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน
ด้าน นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในวันที่ 2 พ.ค.นี้ คณะกรรมการวอร์รูมฯ ของกระทรวงสาธารณสุข จะประชุมหารือกับ ผอ.สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานทั่วประเทศ เพื่อสร้างความปลอดภัยให้เด็กนักเรียน ทำให้โรงเรียนเป็นเขตปลอดยุงลาย โดยจะเสนอแนวทางในการเตรียมพร้อมรับมือกับโรคไข้เลือดออก และไข้หวัดใหญ่ในฤดูฝน ก่อนที่โรงเรียนทุกแห่งจะเปิดเทอม
หากเป็นไข้ ไม่มีอาการไอ ไม่มีน้ำมูก และไข้ไม่ลดลงภายใน 2 วัน ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าอาจเป็นไข้เลือดออก และให้รีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลทันที เพื่อรับการตรวจรักษาที่ถูกวิธีตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อป้องกันการสูญเสียชีวิต เนื่องจากผู้เสียชีวิตจากโรคไข้เลือดออกส่วนใหญ่ เมื่อเป็นไข้ มักจะไปพบแพทย์ที่คลินิกก่อน กว่าจะนำผู้ป่วยไปส่งโรงพยาบาลก็ต่อเมื่อมีอาการรุนแรงมากขึ้น และสุดท้ายก็ช่วยชีวิตไว้ไม่ทัน นพ.ณรงค์กล่าว.
เดลินิวส์
