กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ ออกแถลงการณ์ท้วง "บิ๊กตู่" ใช้อำนาจเบ็ดเสร็จสั่งย้าย เลขาธิการ สปสช. ชี้ไม่ชอบธรรม ป้องสุดตัวไม่ได้ทำผิด การบริหารเป็นไปตามมติบอร์ด ซัดการตรวจสอบมีการตีความผิดเจตนารมณ์กฎหมาย ห้ามสนับสนุนงบเอ็นจีโอ ทำลายการมีส่วนร่วมของประเทศ
หลังจากหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อาศัยมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญ (ชั่วคราว) พ.ศ.2557 ออกคำสั่งย้าย 71 ข้าราชการ รวมถึง นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ให้เข้าไปปฏิบัติราชการประจำสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ล่าสุด วันนี้ (27 มิ.ย.) กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ ได้ออกแถลงการณ์ ไว้อาลัย ระบบหลักประกันสุขภาพ ยุค ม.44 โดยระบุว่า เป็นการใช้อำนาจของคนเพียงคนเดียวในยุคการยึดอำนาจรัฐ ซึ่งเป็นสิ่งไม่พึงประสงค์มาแต่ต้น ส่วนเลขาธิการ สปสช.คนปัจจุบันไม่ได้มีการปฏิบัติหน้าที่ที่เป็นประพฤติมิชอบ เพราะการบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าหรือบัตรทอง เป็นไปตามมติบอร์ด สปสช. และแม้จะมีการตรวจสอบการใช้เงินกองทุนจากหลายฝ่าย ผลสอบก็เหมือนกันว่าไม่ได้ผิด เพียงแต่ต้องมีการอธิบายและออกกฎเกณฑ์ให้ชัดเจนภายใต้อำนาจบอร์ดและภายใต้กฎหมายที่ให้อำนาจไว้ เช่น การใช้เงินเยียวยาบุคลากรโรงพยาบาลที่ได้รับความเสียหายจากการให้บริการประชาชน
นอกจากนี้ ยังระบุว่า ระบบหลักประกันฯ สนับสนุนการทำงานภาคประชาชน แต่มีกลุ่มบุคลากรที่สูญเสียอำนาจการควบคุมระบบการรักษาพยายามและกลุ่มผู้ตรวจสอบมีตีความกฎหมาย โดยละเลยเจตนารมณ์ของฎหมายหลักประกันฯ ที่ให้ภาคประชาชนมีส่วนร่วม การมีมติ ครม.ให้ระงับการสนับสนุนงบประมาณองค์กรเอกชน องค์กรประชาชน นับเป็นการทำลายการมีส่วนร่วมของการปฏิรูประบบสุขภาพของประเทศ ทำให้ระบบหยุดอยู่กับที่ กลุ่มฯ จึงใคร่ขอให้นายกรัฐมนตรี ผู้ออกคำสั่ง ได้พิจารณาทบทวน และให้เหตุผลในการดำเนินการที่ไม่เป็นธรรม ภายใต้อำนาจบริหารแบบเบ็ดเสร็จ
"การมีระบบหลักประกันสุขภาพที่มั่นคง เป็นการสร้างหลักประกันในการดำรงชีวิตสำหรับทุกคนไม่ว่ายากดีมีจน ทุกคนมีหลักประกันว่าจะไม่ต้องล้มละลายจากการจ่ายค่ารักษาพยาบาล และเป็นการจัดสวัสดิการถ้วนหน้าเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทันที สิ่งที่ท่านควรกระทำคือการคุ้มครองระบบให้ก้าวหน้า การเพิ่มประสิทธิภาพ คุณภาพ ให้ระบบเดินหน้าต่อไป การลดความเหลื่อมล้ำระหว่างระบบ การจัดสรรงบประมาณให้เพียงพอต่อการดำเนินการ และให้ รมว.สธ. ซึ่งเป็น ครม.ของท่านได้ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะประธานบอร์ดหลักประกันสุขภาพได้อย่างราบรื่นเหมาะสม ไม่ต้องพะวักพะวนกับการไม่เคารพกันเองของผู้บริหารกระทรวง ที่ต้องการแย่งชิงการบริหารกองทุนกลับไปอยู่ภายใต้ระบบข้าราชการกระทรวงดังเดิม โดยปัจจุบันระบบหลักประกันสุขภาพภายใต้หลักการแยกบทบาทผู้ให้บริการ(กระทรวงสาธารณสุข). และผู้ซื้อบริการแทนประชาชน(สปสช.)โดยสปสช.อยู่ในการกำกับของรัฐมนตรีด้วย ได้ทำให้คุณภาพชีวิตคนไทยดีและมีความสุข การทำให้ข้าราชการมีอำนาจ นี่ไม่ใช่การปฏิรูป สิ่งที่ท่านอ้างและยอมเอาตัวเองเข้าแลกเพื่อยึดอำนาจรัฐเพื่อปฏิรูปประเทศ การที่ท่านมุ่งมั่นเข้ามาทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี เพื่อแก้ไขปัญหาของประชาชน จะไม่เป็นจริงหากขาดกลไกที่ขาดประสิทธิภาพและมีความสมดุลในการใช้อำนาจจึงขอเรียนมาเพื่อท่านโปรดพิจารณาทบทวนคำสั่งดังกล่าว" แถลงการณ์ระบุ
ASTVผู้จัดการออนไลน์ 27 มิถุนายน 2558
