ผู้เขียน หัวข้อ: แพทยสภาจ่อเอาผิดจริยธรรมหมอเจ้าของคลินิกทำแท้งเถื่อน  (อ่าน 2128 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9745
    • ดูรายละเอียด
สบส. สั่งปิด คลินิกทำแท้งเถื่อน ซ.รามฯ 24/1 ด้านแพทยสภาชี้ แพทย์ส่งต่อคนไข้ฯ ขัดจริยธรรม ยันคนไข้ไม่พิการ หรือตาย ไม่ยึดใบประกอบวิชาชีพ ฝั่ง “จุรินทร์”ยอมรับ ระบบส่งต่อลูกค้าทำแท้ง ส่งผลต่อการหาตัวผู้กระทำผิด ส่วนอย.หารือสภาวิชาชีพเล็งคุมซื้อ-ขายเครื่องมือแพทย์

 จากกรณีที่กรมสนับสนุนบริการสาธารณสุข(สบส.) กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับเด็ก เยาวชนและสตรีบุกตรวจค้นและจับกุมคลินิกทำแท้งผิดกฎหมาย 3 แห่ง ได้ผู้ต้องหา 5 ราย และพบว่า 1 แห่งเป็นคลินิกที่มีใบอนุญาตถูกต้องแต่แพทย์ที่เป็นผู้ขอใบอนุญาตไม่ได้ ประกอบวิชาชีพเวชกรรมที่คลินิกแห่งนี้เองให้คนอื่นดำเนินการแทน เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 2553 นั้น
       
       ล่าสุด นพ.สมชัย ภิญโญพรพานิชย์ อธิบดี กรมสบส. กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ฝากขังผู้ต้องหาทั้ง 5 คน และกำลังดำเนินการติดตามตัวแพทย์ที่เป็นผู้ขอใบอนุญาตเปิดคลินิก รวมถึง ตรวจสอบว่าแพทย์รายนี้เปิดคลินิกแห่งอื่นด้วยหรือไม่ ทั้งนี้ คาดว่าภายในวันที่ 29 ธ.ค.นี้จะสามารถส่งเรื่องให้แพทยสภาพิจารณาเกี่ยวกับจรรยาบรรณวิชาชีพของ แพทย์รายนี้ได้ ส่วนคลินิกที่บริเวณรามคำแหง 24/1 คลินิกต้นทางที่ส่งลูกค้าไปทำแท้งที่คลินิก ราม 97 เวชกรรมซึ่งมีการจับกุมเมื่อวันที่ 27 ธ.ค.นั้น สบส.ได้สั่งปิดคลินิกดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว
       
       ด้าน ศ.นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา นายกแพทยสภา กล่าวถึงกรณีแพทย์ที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพขอเปิดคลินิก แต่ไม่ได้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมที่คลินิกที่ขออนุญาตเอง โดยให้ผู้ซึ่งไม่ได้เป็นแพทย์เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่แทน จนมีการนำไปลักลอบเปิดเป็นคลินิกรับทำแท้งว่า ถือเป็นการทำผิดตามข้อบังคับแพทยสภาเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของแพทย์ และผิดหลัก พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 ฐานให้คนอื่นประกอบวิชาชีพเวชกรรมแทน และผิดกฎหมายอาญาฐานสมรู้ร่วมคิดในการกระทำความผิด ซึ่งถือว่าขัดต่อจริยธรรมของแพทย์อย่างมาก
       
       นายกแพทยสภา กล่าวว่า กรณีของเจ้าของคลินิกเวชกรรม ซอยรามคำแหง 24/1 หากได้รับการส่งต่อผู้กระทำผิดเข้ามาให้เป้นความรับผิดชอบของแพทยสภา ทางคณะกรรมการจริยธรรม แพทสภา จะต้องใช้เวลาในการพิจารณาความผิดตามความเหมาะสม และส่งสำนวนคดีให้ผู้กระทำผิดได้มีโอกาสโต้แย้ง เพื่อให้โอกาสกับแพทย์ได้อธิบายเรื่องราวทุกอย่าง ตามขั้นตอนของกฎหมาย แต่โดยบทลงโทษนั้นหากคนไข้ที่เข้ารับบริการไม่ได้ถึงขั้นพิการ หรือเสียชีวิต คกก.จริยธรรม ฯ ก็จะยังไม่ยึดหรือถอนใบประกอบวิชาชีพ แต่จะเป็นไปโดยการตักเตือน หรือลงโทษจำคุก และปรับเงินตามคำสั่งของ คกก.จริยธรรมฯ
       
       ขณะที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวว่า จากการจับกุมคลินิกลักลอบทำแท้งผิดกฎหมายครั้งนี้ ทำให้ทราบข้อมูลเพิ่มเติมว่า การเปิดคลินิกลักลอบทำแท้งผิดกฎหมายมีกระบวนการที่ซับซ้อนขึ้นมีการร่วมมือ กันระหว่างคลินิก โดยคลินิกแห่งหนึ่งจะเป็นแผนกรับลูกค้าและอีกคลินิกจะเป็นแผนกทำแท้ง ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามยากขึ้น
       
       นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการ คณะกรรมการอาหารและยา(อย.) กล่าวถึงกรณีของกลางจากการจับกุมคลินิกทำแท้งมีเครื่องมือแพทย์ด้วยจำนวน หนึ่งว่า เครื่องมือแพทย์แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ 1.เครื่องมือแพทย์ทั่วไป ที่อาจนำมาใช้ในสถานเสริมความงามและในบ้าน และ2.เครื่องมือแพทย์เพื่อประกอบโรคศิลปะ โดย เครื่องมือแพทย์ที่ตรวจพบที่คลินิกทำแท้งจัดเป็นเครื่องมือแพทย์ในกลุ่มนี้ ซึ่งตามกฎหมายปัจจุบันการซื้อขายเครื่องมือแพทย์ไม่จำเป็นต้องมีใบอนุญาต อย่างไรก็ตาม ขณะนี้คณะกรรมการเครื่องมือแพทย์อยู่ระหว่างการหารือกับสภาวิชาชีพต่างๆ ในการพิจารณาออกประกาศเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องมือแพทย์ว่าจำเป็นจะต้องมี ใบอนุญาตในการซื้อขายหรือไม่ เพื่อไม่ให้กระทบกับการประกอบวิชาชีพของสภาวิชาชีพต่างๆด้วย

ASTVผู้จัดการออนไลน์    28 ธันวาคม 2553