ผู้เขียน หัวข้อ: ย้ายหลวงตาบัวรักษาศิริราชพ้นอันตรายแล้ว  (อ่าน 1681 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9745
    • ดูรายละเอียด
ทีมแพทย์ศิริราชพยาบาล เผยอาการอาพาธ 'หลวงตามหาบัว' 5โรค 'ปอดอักเสบ-หายใจไม่สม่ำเสมอ- ทางเดินอาหารอุดตัน -ขาดสารอาหาร-หลอดเหลือดแดงที่ขาส่วนปลายอุดตัน” ติดตามใกล้ชิด 24 ชม. ล่าสุดพ้นขีดอันตราย เน้นรักษาตามอาการ ระบุไม่มีโรคประจำตัว คาดใช้เวล่ารักษาตัวที่โรงพยาบาล 2 สัปดาห์ ขณะที่
       
       วานนี้ (27 ธ.ค.) ศ.คลินิก นพ.ธีรวัฒน์ กุลทนันทน์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล รศ.นพ.สุรินทร์ ธนพิพัฒนศิริ ผู้อำนวยการ รพ.ศิริราช ร่วมกับ รศ.นพ.ประเสริฐ อัสสันตชัย หัวหน้าภาควิชาเวชศาสตร์ป้องกันและสังคม ศ.นพ.นิพนธ์ พวงวรินทร์ สาขาวิชาประสาทวิทยา ภาควิชาอายุรศาสตร์ และศ.นพ.สมหวัง ด่านชัยวิจิต สาขาวิชาโรคติดเชื้อ ภาควิชาอายุรศาสตร์ ร่วมกันแถลงข่าว “หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน” เข้ารับการรักษรักษา โดยศ.คลินิก นพ.ธีรวัฒน์ กล่าวว่า ผลการตรวจร่างกายเบื้องต้นพบปัญหาสุขภาพ ดังนี้ 1. โรคปอดอักเสบติดเชื้อที่ปอดทั้งสองข้าง มีน้ำในโพรงเยื้อหุ้มปอดซ้ายปริมาณปานกลาง 2. ภาวะหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะสม่ำเสมอ 3. ภาวะทางเดินอาหารอุดตัน 4. ภาวะขาดสารอาหาร และ 5. ภาวะหลอดเหลือดแดงที่ขาส่วนปลายอุดตัน โดยคณะแพทย์ได้วางแผนการรักษาหลวงตามหาบัวและติดตามอาการตลอด 24 ชั่วโมง
       
       ศ.คลินิก นพ.ธีรวัฒน์ กล่าวอีกว่า สำหรับอาการหลวงตามหาบัว ขณะนี้มีอาการอ่อนเพลีย อาเจียน ทานอาหารไม่ได้ เนื่องจากมีปัญหาลำไส้อุดตัน ส่งผลให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงและลีบเล็กเนื่องจากขาดสารอาหาร มือเท้าเย็น นิ้วหัวแม่เท้าซายหลุด เนื่องจากการอักเสบและการขาดเลือดผ่านมา สำหรับความดันโลหิต 137/73 มม. ปรอท ชีพจร 76ครั้ง/นาที ไม่สม่ำเสมอ อัตราการหายใจ 22 ครั้ง/นาที อุณหภูมิ oxygen saturation 99% (oxygen cannula 2 L/min)อย่างไรก็ตาม ภายหลังเข้ารับการรักษาอาการภาพรวมอาการท่านดีขึ้น แพทย์ให้อาหารผ่านทางสายยาง ขณะนี้ หลวงตามหาบัว สนทนาได้แต่เสียงเบา ตอบคำถามได้ดี ซึ่งอาการพ้นขีดอันตรายแล้ว โดยตามปกติอาการเหล่านี้จะต้องพักรักษาตัวอยูที่โรงพยาบาลประมาณ 2 สัปดาห์
       
       “คงยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะสามารถออกจากโรงพยาบาลเมื่อใด เพราะที่ผ่านมาหลวงตามหาบัวปฏิเสธเข้ารับการรักษามาตลอด ดังนั้น การรักษาตัวของหลวงตามหาบัวจะนานแค่ไหน คงขึ้นอยู่กับหลวงตามหาบัวตัดสินใจ”ศ.คลินิก นพ.ธีรวัฒน์ กล่าว
       
       ศ.คลินิก นพ.ธีรวัฒน์ กล่าวต่อว่า ทราบว่าหลายคนเป็นห่วงนิ้วหัวแม่เท้าซ้ายหลวงตามหาบัว ซึ่งเกิดจากอุบัติเหตุตั้งแต่สิงหาคม 2552 จนเกิดแผลที่เท้า และการรักษาไม่ได้คำนึงถึงเลือดมาเลี้ยงบริเวณดังกล่าว จึงทำให้การไหลเวียนเลือดไม่ดี ประกอบกับหลวงตามหาบัว อายุ 98 ปี แผลไม่หายและมีอาการลุกลามนิ้วหัวแม่เท้าซ้าย กระดูก จึงกลายเป็นเนื้อตาย แล้วเริ่มเอาเนื้อตายออกเมื่อเดือนมีนาคม 2553 อย่างไรก็ตาม ปัญหาการไหลเวียนเลือดและเท้ารักษาหายภายใน 2 เดือน
       
       “นับว่าโชคดีที่หลวงตามหาบัว ไม่มีโรคประจำตัว ทีมแพทย์จะติดตามอาการและรักษาอย่างใกล้ชิด ตลอด 24 ชั่วโมง และได้เจาะเหลือดเพื่อนำไปตรวจแล้ว ซึ่งทีมแพทย์จะนำผลเลือดมาประกอบการรักษาหลวงตามหาบัว” ศ.คลินิก นพ.ธีรวัฒน์ กล่าว
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า โครงการหลวงตามหาบัวช่วยชาติได้นำทองคำจำนวน 12 ตัน ที่ศิษยานุศิษย์ร่วมกันบริจาคนำเข้าคลังหลวงแล้ว แต่ยังมีทองแท่ง 11 แท่งๅ ละ 12 กิโลกรัม ฝากไว้ที่ธนาคารด้วย


ASTVผู้จัดการรายวัน    27 ธันวาคม 2553