เมื่อวันที่ 23 พ.ค. ที่รพ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช นางเสาวนีย์ จันดี อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2 หมู่ 3 ต.บางรูป อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช พร้อมญาตินับ 10 คน อุ้มศพทารกแรกเกิด เพศชาย น้ำหนักประมาณ 3 กก. มาร้องขอความเป็นธรรมกับผู้สื่อข่าว โดยระบุว่า เมื่อเวลา 19.00 น.ของวันที่ 22 พ.ย. ที่ผ่านมา นางยุพิณ สำลีร่วง อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17 หมู่ 3 ต.บางรูป ซึ่งเป็นคู่สะใภ้ของตน ได้เจ็บท้องคลอด และเดินทางมารพ.ทุ่งใหญ่ แพทย์ตรวจร่างกายแล้ว ทั้งแม่และเด็กปกติดี จึงนำเข้าห้องคลอด เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 23 พ.ค. เจ้าหน้าที่ประจำห้องคลอดทำการเจาะน้ำคล่ำของแม่ หลังจากนั้นเวลา 03.30 น. เจ้าหน้าที่ออกมาบอกว่าเด็กเสียชีวิตตั้งแต่ในท้องแล้ว สร้างความตกใจให้กับตนเป็นอย่างมาก ว่าทำไมเด็กจึงเสียชีวิต ทั้งๆที่ทุกอย่างเป็นปกติก่อนเข้าห้องคลอด และมาคลอดตามกำหนดทุกอย่าง ส่วนแม่เด็กก็ต้องส่งตัวต่อไปที่รพ.ทุ่งสง เพราะรกของเด็กติดอยู่ในท้อง จึงต้องการให้ผู้ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่ประจำห้องคลอดว่าบกพร่องอย่างไรหรือไม่ ซึ่งได้ไปแจ้งความเบื้องต้นไว้ที่ สภ.ทุ่งใหญ่แล้ว และเจ้าหน้าที่ได้แนะนำให้ส่งศพทารกไปผ่าพิสูจน์ที่ มอ.จ.สงขลา
ส่วนญาติผู้เสียหายอีกราย กล่าวว่า ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะมาเจาะน้ำคล่ำ คนท้องต้องนอนเจ็บอยู่นาน เพราะต้องไปตามหาตัว จึงสงสัยว่าน่าจะเป็นเหตุให้เด็กเสียชีวิต จึงขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องออกมารับผิดชอบกับกรณีดังกล่าว
ด้าน นพ.ศรัญญู ไกรนรา ผอ.รพ.ทุ่งใหญ่ กล่าวว่า ได้รับทราบเรื่องแล้ว ไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้ตรวจสอบหาความจริงเบื้องต้นพบว่า สายสะดือพันคอเด็ก จนขาดอากาศหายใจ ส่วนแม่เด็กรกติดใน เจ้าหน้าที่ล้วงแล้ว ยังออกไม่หมด จึงต้องส่งตัวไปรักษาที่ รพ.ทุ่งสง ทั้งนี้ทางรพ.ยินดีดูแล และรับผิดชอบตามความเป็นจริงต่อไป
