ผู้เขียน หัวข้อ: “มาร์ค” อวยการแพทย์ไทยแข็งแกร่ง เตรียมชง พรบ.คุ้มครองฯ เข้าสภาสมัยหน้า  (อ่าน 1374 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9753
    • ดูรายละเอียด
 “มาร์ค” อวยการแพทย์ไทยแข็งแกร่ง แม้จะขาดแคลนกำลังคน ชี้รัฐบาลพร้อมผลักดันนโยบายสาธารณสุข เตรียมเสนอ พ.ร.บ..อนามัย-พ.ร.บ.คุมครองผู้เสียหายฯ เข้าสภาฯ สมัยหน้า ด้านแพทยสภาชี้ต้องเร่งผลักดันด้านจริยธรรมแพทย์ให้มากที่สุด
       
       วันนี้ (26 พ.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงาน “มหกรรมรวมพลคนรักสุขภาพแห่งชาติกับแพทยสภา : Thailand Medical Expo 2010” ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ว่าต้องขอบคุณการดำเนินงานของแพทยสภาที่ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 42 ปีมาแล้ว ที่ทำหน้าที่ควบคุมมาตรฐานผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมให้ถูกต้องตามหลักวิชาชีพ และจริยธรรม และการประสานความร่วมมือด้วยความสามคคีมาโดยตลอด ทั้งนี้ในเรื่องของสุขภาพนั้นป็นเรื่องที่มีความสำคัญที่สุด รัฐบาลต้องตื่นตัว และริเริ่มนโยบายต่างๆ ให้สอดคล้องกับสภาวะแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อให้ประชาชนมีสุขภาวะที่ดีและเป็นกำลังในการพัฒนาสังคมให้ได้
       
       นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ในส่วนของวงการสาธารณสุขและวงการแพทย์ของประเทศไทยมีพื้นฐานที่ดีและสะสม ความแข็งแกร่งเป็นระยะเวลานาน เนื่องจากวางรากฐานที่ดีใน 2 ด้าน คือ 1.วงการแพทย์มีปัญหาน้อยในการหาคนเก่ง เห็นได้จากปัจจุบันนักเรียนนักศึกษาจะเลือกเข้ามาประกอบวิชาชีพนี้ติดใน 3 อันดับต้นๆ ซึ่งจะช่วยให้ไทยมีความทัดเทียมในวงการสู่ระดับสากลได้ แม้ระยะหลังจะถูกท้าทายจากปัญหาความจำกัดของทรัพยากร
       
       นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า 2.ความก้าวหน้าเชิงความคิดในการแก้ปัญหา เห็นได้ว่าองค์การอนามัยโลก (WHO) ให้ความสำคัญกับประเทศไทยในเรื่องเกี่ยวกับสาธารณสุขอย่างต่อเนื่อง โดยหลักการที่นำมาใช้ประกอบด้วย 3 ข้อหลักๆ คือ 1.มีการเปิดเผยและยอมรับปัญหาต่างๆ เช่น การรณรงค์เรื่องโรคเอดส์ 2.ให้ความสำคัญในเรื่องการส่งเสริมและป้องกันโรค ไม่แพ้แก่การรักษา เป็นต้น
       
       “จุดแข็งหรือความสำเร็จในอดีตจำเป็นอย่างยิ่งต้องรักษาไว้ในภาวะที่ ต้องเผชิญกับปัญหา ซึ่งจะเกิดขึ้นตลอดเวลา และความท้าทายในปัจจุบันนอกเหนือจากการแข่งขัน ยังมีเรื่องความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในแง่ของพฤติกรรมของคน รวมทั้งปัญหาโรคอุบัติใหม่อุบัติซ้ำก็ยังเป็นเรื่องที่ท้าทายตลอด แต่ปัญหาสุขภาพที่เกิดจากพฤติกรรมถือเป็นปัญหาใหญ่ที่สุด เพราะสาเหตุของการเสียชีวิตส่วนใหญ่เกิดจากพฤติกรรม ทั้งการบริโภค ไปจนถึงความประมาท หรือแม้กระทั่งการขาดระบบการดูแลป้องกันความเสี่ยงที่เกิดขึ้นกับประชาชน เรื่องนี้รัฐบาลตระหนักดีและพยายามหามาตรการต่างๆให้เกิดขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการส่งสัญญาณ ในเรื่องการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และบุหรี่ ทั้งมาตรการทางภาษี หรือการป้องกันการทำการตลาด” นายอภิสิทธิ์กล่าว
       
       นายกฯ กล่าวด้วยว่า ข่าวคราวที่ปรากฏในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นการกระตุ้นให้รัฐบาลต้องเร่งผลักดันร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองอนามัยการเจริญพันธุ์ พ.ศ... ซึ่งคาดว่าจะถูกหยิบยกพิจารณาในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยหน้า รวมทั้งร่างพ.ร.บ.คุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข พ.ศ...ก็จะถูกพิจารณาในการประชุมสภาด้วย
       
       ด้าน นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขานายก แพทยสภา กล่าวว่า ในการจัดงานครั้งนี้กลุ่มเป้าหมายหลักเป็นเยาวชน โดยเฉพาะเยาวชนที่กำลังอยู่ในระดับการศึกษาด้านแพทย์ศาสตร์และสาธารณสุข ซึ่งแพทยสภามีความพยายามอย่างยิ่งในการมุ่งปลูกฝังเรื่อง จริยธรรม โดยในงานครั้งนี้ นักศึกษาแพทย์จะได้รับฟังประสบการณ์ด้านการบริการสาธารณสุขจากอาจารย์ผู้ทรง คุณวุฒิหลายท่าน โดยทุกท่านนั้นมุ่งถ่ายทอดหลักการด้านคุณธรรมจริยธรรมในการบริการแก่ประชาชน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่สังคม ด้วยหลักการจัดการศึกษาด้านแพทย์ศาสตร์นั้น เพื่อให้สังคมได้รับประโยชน์อย่าแท้จริงจากการบริการทางแพทย์ จำเป็นต้องมีการปลูกฝังจริยธรรมในนักศึกษาแพทย์ ซึ่งเป็นเยาวชนที่จัดอยู่ในกลุ่มเป้าหมายหลักของการพัฒนาระบบการแพทย์ไทย ซึ่งนักศึกษาแพทย์ต้องพึงตระหนักว่า การรักษาและบริการสาธารณสุขต้องมีผู้ป่วยเป็นจุดศูนย์กลาง และบริการด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์ โดยเลือกบริการแก่ผู้ป่วยตามลำดับความสำคัญของอาการ เช่น เลือกช่วยชีวิตผู้ที่ป่วยฉุกเฉินก่อนผู้ป่วยทั่วไป และต้องไม่เป็นไปตามระบบผู้มีพระคุณ เครือญาติ หรืออำนาจใดๆ ทั้งสิ้น

ASTVผู้จัดการออนไลน์    26 พฤศจิกายน 2553