ผู้เขียน หัวข้อ: งานมหกรรมรวมพลคนรักสุขภาพกับแพทยสภา 26-28 พย.2010‏  (อ่าน 1392 ครั้ง)

pradit

  • Global Moderator
  • Sr. Member
  • *****
  • กระทู้: 322
    • ดูรายละเอียด
แพทยสภา ฉลองครบรอบ 42 ปี จัดยิ่งใหญ่กับงาน “มหกรรมรวมพลคนรักสุขภาพแห่งชาติกับแพทยสภา” (Thailand Medical Expo 2010)      งานมหกรรมด้านการแพทย์ที่สมบูรณ์แบบและครบวงจรที่สุดในประเทศไทย คาดมีผู้ร่วมงานกว่า 100,000 คน  โดยได้รับความร่วมมือจากบุคคลากรทางด้านการแพทย์มากที่สุดในประเทศไทยโดยจัดขึ้นภายใต้แนวคิด ‘แพทยสภาดูแลคุณตั้งแต่เกิด การศึกษา เสริมสร้างสุขภาพในวัยทำงาน วัยทอง วัยชรา เจ็บป่วย ตราบจนวาระสุดท้าย’  โดย ภายในงานประกอบด้วย กิจกรรมให้ความรู้เรื่องโรคและสุขอนามัยต่างๆ แก่ประชาชนทั่วไป บริการทางการแพทย์ ที่ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์และการบริการด้านสุขภาพแบบครบวงจร พร้อมทั้งเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดทางการแพทย์ ยาและอาหารเสริม และกิจกรรมความบันเทิงมากมายภายในงาน โดยงานดังกล่าวจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 26-28 พฤศจิกายน 2553  ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขมอบรางวัลแพทย์ดีเด่นแพทยสภาประจำปี 2553

กรุงเทพฯ 27 พฤศจิกายน 2553 – นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มอบ รางวัลแพทย์ดีเด่นแพทยสภาประจำปี 2553 ให้แก่ แพทย์หญิงกาญจนี เจนวณิชสถาพร นายแพทย์วิชัย อัศวภาคย์ และนายแพทย์วัฒนา พารีศรี ในงานมหกรรมรวมพลคนรักสุขภาพแห่งชาติกับแพทยสภา (Thailand Medical Expo 2010) ซึ่ง จัดขึ้นเนื่องในวาระครบรอบ 42 ปีแพทยสภา เพื่อเผยแพร่ความรู้ด้านสุขภาพและวิทยาการด้านการแพทย์และการพยาบาล ในระหว่างวันที่ 26-28 พฤศจิกายน 2553 ณ ห้องเพลนนารี ฮอลล์ 1-3 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

นายแพทย์สมศักดิ์ โล่ห์เลขา นายกแพทยสภา กล่าวว่า การมอบรางวัลแพทย์ดีเด่นแพทยสภาจัดขึ้นทุก 2 ปี เพื่อเชิดชูเกียรติแพทย์ผู้มีผลงานโดดเด่นเป็นแบบอย่างที่ดีในการปฏิบัติ หน้าที่ ตลอดจนสร้างขวัญกำลังใจแก่แพทย์ทั่วประเทศในการมุ่งมั่นปฏิบัติงานเพื่อ ประะโยชน์สุขของเพื่อนมนุษย์ โดยมีการคัดเลือกผู้ได้รับรางวัลจากแพทย์กว่า 40,000 คนทั่วประเทศ ที่ผ่านมามีการมอบรางวัลแพทย์ดีเด่นแพทยสภาครั้งละ 1 ท่าน แต่ในปีนี้ทางแพทยสภาได้คัดเลือกผู้มีคุณสมบัติเหมาะสมรับรางวัลแพทย์ดีเด่น แห่งชาติถึง 3 ท่าน ซึ่งแต่ละท่านต่างเป็นผู้ที่อุทิศตนในการทำงาน และมีส่วนสำคัญในการพัฒนาบริการทางการแพทย์และงานส่งเสริมสุขภาพในพื้นที่ ให้เจริญก้าวหน้าเป็นประโยชน์แก่ประชาชนอย่างกว้างขวาง

แพทย์ดีเด่นแพทยสภาประจำปี 2553 ได้แก่

แพทย์หญิงกาญจนี เจนวณิชสถาพร หัวหน้ากลุ่มงานอายุรกรรม โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี เป็น ผู้มีส่วนสำคัญในการพัฒนาบริการงานอายุรกรรมสาขาต่างๆ ของโรงพยาบาล และการรักษาผู้ป่วยวัณโรคในเรือนจำ อีกทั้งเป็นหนึ่งในคณะทำงานจัดระบบบริหารจัดการในโรงพยาบาลเพื่อให้บริการ ประชาชนได้มากขึ้นและรวดเร็วขึ้น แพทย์หญิงกาญจนียังได้ริเริ่มก่อตั้งทีมสหวิชาชีพเพื่อดูแลผู้ป่วยโรค เรื้อรังต่างๆ แบบองค์รวม ส่งเสริมให้ครอบครัวมีส่วนร่วมมากขึ้นในการดูแลผู้ป่วย ตลอดจนเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างบุคลากรในโรงพยาบาลให้แน่นแฟ้น จนกลายเป็นโรงพยาบาลศูนย์ที่มีชื่อเสียงเป็นที่ไว้วางใจของผู้มารับบริการ และเป็นสถานศึกษาวิชาแพทย์ชั้นคลินิกของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

นายแพทย์วิชัย อัศวภาคย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น เป็น ผู้มีส่วนสำคัญในการพัฒนาโรงพยาบาลน้ำพองจนได้รับรางวัลโรงพยาบาลดีเด่นหลาย สาขา และเป็นโรงพยาบาลแนวพุทธปลอดอบายมุข อีกทั้งเป็นผู้ริเริ่มสร้างตึกสำหรับผู้ป่วยสงฆ์โดยใช้เงินบริจาคของชาวน้ำ พอง พัฒนาบริการของโรงพยาบาลให้เป็นโรงพยาบาลชุมชนที่มีแพทย์เฉพาะ ทางให้บริการ โดยเชิญแพทย์จากโรงพยาบาลศูนย์และโรงเรียนแพทย์มาทำการตรวจรักษาผู้ป่วย รวมถึงขยายงานให้ชุมชนเห็นความสำคัญของการดูแลสุขภาพโดยเป็นแกนนำหรือประสาน งานกับชุมชนเพื่อทำกิจกรรมดูแลสุขภาพและพิทักษ์สิ่งแวดล้อม ตลอดจนดูแลทุกข์สุขของบุคลากรทั้งในด้านสุขภาพและจิตใจ

นายแพทย์วัฒนา พารีศรี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย เป็น ศัลยแพทย์โรงพยาบาลชุมชนคนแรกผู้ผ่าตัดนิ่วถุงน้ำดีด้วยกล้องวิดีทัศน์ มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาบริการของโรงพยาบาลให้มีมาตรฐานและความทันสมัยเทียบ เท่าโรงพยาบาลจังหวัด พร้อมทั้งปรับปรุงภูมิทัศน์และสิ่งอำนวยความสะดวกในโรงพยาบาลเพื่อคุณภาพ ชีวิตที่ดีของผู้ป่วย จึงเป็นโรงพยาบาลต้นแบบที่มีหน่วยงานต่างๆ มาศึกษาดูงานเป็นประจำ นอกจากนี้ยังได้จัดทีมออกตรวจสุขภาพในชุมชนและพื้นที่ห่างไกล รวมถึงจัดตั้งศูนย์สุขภาพชุมชนท่าบ่อ เพื่อให้บริการสุขภาพเบื้องต้นและลดภาระของโรงพยาบาล

สำหรับงานมหกรรมรวมพลคนรักสุขภาพแห่งชาติกับแพทยสภา หรือ Thailand Medical Expo 2010 จัดโดยแพทยสภาโดย โรงเรียนแพทย์ 18 แห่ง ราชวิทยาลัยแพทย์ 14 สถาบัน ตลอดจนโรงพยาบาลและสถาบันการแพทย์ทั้งภาครัฐและเอกชน กิจกรรม ภายในงานมีทั้งการนำเสนอวิทยาการและนวัตกรรมชั้นนำด้านการแพทย์และการพยาบาล พร้อมทั้งการออกบูธผลิตภัณท์และบริการด้านสุขภาพครบวงจรจากผู้ประกอบการก ว่า 150 ราย โดยงานจะจัดขึ้นจนถึงวันที่ 28 พฤศจิกายน ณ ห้องเพลนนารี ฮอลล์ 1-3 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 10.00- 20.00 น.