ผู้เขียน หัวข้อ: จรรยาบรรณวิชาชีพ กับคุณหมอ 5 บาท  (อ่าน 1425 ครั้ง)

seeat

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 470
    • ดูรายละเอียด
จรรยาบรรณวิชาชีพ กับคุณหมอ 5 บาท
« เมื่อ: 24 พฤศจิกายน 2010, 09:35:47 »
ถ้าเดือนไหนเงินไม่พอจ่ายค่ายา ทำอย่างไรครับ? ”คุณหมอบอกว่า “ก็ไปกด (เอทีเอ็ม) เอาเงินบำนาญ ออกมาใช้”
       ผู้สัมภาษณ์เกาหัว แล้วบอกว่า “แล้วคุณหมอ จะทำไปทำไม?”
       ไม่น่าเชื่อว่า อาจารย์หมอตอบว่า   
       “เพราะคิดว่า...มันเป็นหน้าที่!”
อาจารย์ 'หมอห้าบาท' กำลังตรวจคนไข้อย่างแข็งขัน
   

       ไม่นานมานี้ ได้ดูรายการจมูกมด ซึ่งเขาสัมภาษณ์ รศ.นพ. สภา ลิมพาณิชย์การ อาจารย์ประจำโรงเรียนเวชนิทัศน์ โรงพยาบาลศิริราช ผู้ซึ่งได้ฉายาว่า  "หมอ ๕ บาท" ใครฟังแล้วก็ต้องประทับใจ
       
       คุณ หมอท่านให้สัมภาษณ์ว่า ไม่ใช่คนเรียนเก่ง อยากจะเรียนถ่ายรูป เพราะหลงใหลการถ่ายภาพ แต่คอรบครัวต้องการให้เป็นหมอ ครั้นเมื่อสอบเข้าได้ จึงใช้เวลาในการศึกษานานกว่าเพื่อนๆ โดยจบทีหลังนักเรียนแพทย์ร่วมรุ่น ๒ ปี
       
       ท่านรับราชการมาจนกระทั่งเกษียณ ได้รับบำนาญปัจจุบันเดือนละ ๒๒,๐๐๐ บาท และมีเงินค่าสอนอีกเดือนละ ๒๐,๐๐๐ บาท แต่ต่อมาเทางมหาวิทยาลัยขาดแคลนเงิน ก็ขอลดค่าสอนเหลือเดือนละ ๑๒,๐๐๐ บาท แต่ปีงบประมาณใหม่ คือเริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมานี้
       
       ท่านก็จะไม่ได้ไปสอนอีกแล้ว เนื่องจากมีปัญหาทางด้านสุขภาพ
       
       เงินจำนวนนี้ต้องถูกตัดไป เหลือเพียงบำนาญล้วนๆ!
       
       เมื่อ จบการศึกษาแพทย์ และทำงานได้สักพัก ท่านอาจารย์หมอก็เช่าห้องแถวไม้ ในซอยระนอง ๑ เขตดุสิต ของเพื่อนเปิดเป็นคลินิก โดยขึ้นป้ายว่า "สำนักงานแพทย์" โดยเริ่มทำมาตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๐๗
       
       นี่ก็เข้าไปเกือบ ๔๐ ปี แล้ว
       
       แม้ท่านอาจารย์หมอจะย่างเข้าวัยชราแล้ว แต่ท่านก็ยังเปิดบริการทางการแพทย์ของท่านอยู่ ที่น่าอัศจรรย์ คือ
       
       ท่านเก็บบริการทางการแพทย์ หรือค่ารักษาครั้งละ ๕ บาท รวมค่ายาด้วย รายใดที่จะต้องใช้ยาดีราคาแพง ก็ไม่เกิน ๗๐ บาท
       
       นั่นหมายความว่า ยาต้องดีและราคาแพงจริง
       
       คุณ หมอเล่าว่า เหตุที่คิดราคาได้ถูก เพราะซื้อยาได้ถูก และยาดี เรื่องยานั้นคุณหมอซื้อกับเจ้าประจำมีส่วนลดด้วย เพราะคุณหมอไม่ต้องการให้ผู้ป่วย ไปซื้อยารับประทานเอง
       
       ที่สำคัญอย่างยิ่งคือ
       
       การ ตรวจวินิจฉัยที่ละเอียดลออ ของหมอห้าบาทต่างหาก คนไข้ก็หายเป็นปกติทุกราย ส่วนคนที่ไม่หาย เมื่อกลับมาหาท่านอีกครั้ง พอไล่เลียงกันเข้า
       
       อาจารย์หมอสภาก็บอกว่า
       
       "จับ ได้ทุกครั้งว่า กินยาไม่ครบ กินมื้อเว้นสองมื้อ ให้กิน ๔ เวลา กินเสีย ๒ เวลา เลยต้องกำชับให้กินให้ถูกต้อง...แล้วก็หายทุกราย!"
       
       ยิ่งกว่านั้น ถ้าคนไข้ไม่มีเงินจริงๆ แม้แต่ค่ายาคุณหมอก็ไม่คิด หรือหาก มีไม่พอ ก็มีเท่าไร ก็เท่านั้น
       
       หนังสือ พิมพ์ผู้จัดการ เคยทำข่าวเรื่องของคุณหมอมาเมือ ๒ ปีที่แล้ว เคยสัมภาษณ์คนไข้ของคลินิก ๕ บาทแห่งนี้ ชื่อ คุณป้ามารศรี อายุ ๗๒ ปี เจ้าของร้านทำผมแถวๆ ซอยระนอง ๑ ท่านเป็นคนไข้ที่รักษากับคุณหมอ มานานกว่า ๔๐ ปี เล่าว่า
       
       รักษาตั้งแต่สมัยเพื่อนคุณหมอมาเปิด คลินิก จนถึงคุณหมอสภา มาเช่าคลินิกของเพื่อนต่อ ส่วนใหญ่ก็จะมาด้วยโรคหวัด แต่วันนี้ไม่ได้มาด้วยโรคหวัด แต่ระคายเคืองตา คุณหมอบอกว่าเป็นตาแดง ก็นอกจากคุณป้าแล้ว ลูกสาวและหลานสาว หรือแม้แต่ทหารที่ทำงานอยู่ในบ้านก็มารักษา
       
       "คุณหมอ สภารักษาดี คิดถูก แล้วก็หายด้วยนะ บางทีเป็นหวัด ๒๐-๓๐ บาทก็หายแล้ว ลูกชายป้าเป็นหวัดไปหาหมอ ที่โรงพยาบาล เอกชนยังตั้ง ๑,๔๐๐...ป้ามานี่แค่ ๔๐ บาท บางคนบ้านอยู่ไกลยังมารักษา เพราะรักษากันชิน...เวิ้งนี้ของหมอสภาทั้งนั้น"
       
       ลูกค้าของคุณป้ามารศรี เล่าให้ฟังพร้อมโชว์ยารักษาในถุงให้ดู
       ผู้สัมภาษณ์ได้ถามคุณหมอว่า เดือนหนึ่งมีกำไรเท่าไหร่รักษาแบบนี้? คุณหมอบอกว่าไม่เคยคิด บัญชีก็ไม่เคยทำ
       
       คนถามเลยบอกว่า
       "อ้าว...ไม่ทำบัญชีแล้วจะรู้ว่าต้นทุนเท่าไหร่ จ่าไปไปเท่าไหร่ ถ้าเดือนไหนเงินไม่พอจ่ายค่ายา ทำอย่างไรครับ? "
       
       คุณหมอบอกว่า "ก็ไปกด (เอทีเอ็ม) เอาเงินบำนาญ ออกมาใช้"
       ผู้สัมภาษณ์เกาหัว แล้วบอกว่า "แล้วคุณหมอ จะทำไปทำไม?"
       ไม่น่าเชื่อว่า อาจารย์หมอตอบว่า
       
        "เพราะคิดว่า...มันเป็นหน้าที่!"

ขอขอบคุณที่มา :  วาทตะวัน  สุพรรณเภษัช
5 สิงหาคม 2009