ผู้เขียน หัวข้อ: “คลิปฉาว”วิชามารสุดขั้ว ปมร้าวลึกกระทรวงหมอ  (อ่าน 1508 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9753
    • ดูรายละเอียด
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ - คลิปฉาวบิ๊กสธ.นัวเนียสาวนักศึกษาที่กำลังกลายเป็น “ทอล์ก ออฟ เดอะทาวน์” อยู่ในขณะนี้ บางคนอาจปักใจเชื่อไปแล้วว่าเป็นเรื่องจริง เพราะข่าวคราวฉาวโฉ่ลักษณะนี้ ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ในสังคมไทย แต่มีให้เห็นมาแล้วหลายต่อหลายบิ๊ก และหากเส้นสายไม่ดีก็อาจจะหลุดจากเก้าอี้ได้ง่ายๆ
      
       ทว่าเบื้องลึกเบื้องหลัง หาใช่เพียงภาพที่คนทั่วไปได้เห็นเท่านั้น ไม่ว่าภาพจะถูกตัดต่อหรือบิ๊กสธ.จะลงมือทำจริงๆ การที่สหพันธ์ผู้ปฏิบัติงานด้านการแพทย์และสาธารณสุขแห่งประเทศไทย หรือ สผพท. นำโดยพญ.อรพรรณ์ เมธาดิลกกุล รักษาการประธานสหพันธ์ผู้ปฏิบัติงานด้านการแพทย์และสาธารณสุขแห่งประเทศ ไทย(สผพท.) รองประธาน สผพท.และนพ.ฐาปนวงศ์ ตั้งอุไรวรรณ รองประธานสผพท. ได้นำภาพคลิปมาโชว์ที่รัฐสภาก็เรียกความสนใจจากบรรดานักข่าวในการยื่น หนังสือต่อนาย จุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ รมว.สาธารณสุข กรณีนพ. ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะคณะกรรมการสมานฉันท์พิจารณาร่างพ.ร.บ.คุ้มครองผู้ได้รับผลกระทบจากการรับบริการสาธารณสุข และร่างพ.ร.บ.คุ้มครองผู้รับบริการและผู้ให้บริการที่ได้รับความเสียหายจากการบริการสาธารณสุข ได้มีการเสนอ 12 ประเด็นต่อรัฐมนตรีเพื่อแก้ไขเปลี่ยนแปลงร่างกฎหมายดังกล่าว ทั้งที่ไม่ใช่บทสรุปที่แท้จริงเนืองจากการประชุมไม่ครบองค์ประชุม และไม่มีการลงมติ ซึ่งก็ได้รับความสนใจตามคาด
      
       แม้หลายฝ่ายจะบอกว่านี่อาจไม่ใช่ชนวนของปมขัดแย้งที่เกิดขึ้น แต่เรื่องชู้สาวคาวโลกีย์ก็ถูกโยงให้เห็นถึงพฤติกรรมที่กล่าวอ้างว่า ไม่เหมาะสมของนพ.ไพจิตร์ โดยที่ภาพที่ปรากฏนั้น ยังมีความคลุมเครืออยู่มาก
      
       ภาพคลิปที่มือดีนำมาปล่อย ทั้ง 2 ภาพ มีลักษณะเป็นภาพนิ่ง โดยภาพแรกมีภาพนักศึกษาสาวนั่งแนบชิด ส่วนคนหน้าคล้ายปลัดสธ.มีการใช้มือโอบกอดที่เอวอยู่ ภาพนี้มีการตั้งข้อสังเกตว่า เป็นการตัดต่อภาพ ส่วนภาพที่ 2 ก็มีการตั้งข้อสังเกตต่างๆ นานา โดยเฉพาะเรื่องฉากหลังของภาพ และเรื่องรูปร่างหน้าตาของคนหน้าคล้ายปลัดสธ.ซึ่งเที่ยวนี้ดูจะไม่ค่อยคล้าย นัก
      
       นอกจากนั้น นพ.ฐาปนวงศ์ ยังนำกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดต่อนพ. วิชัย โชควิวัฒน ประธานบอร์ดองค์การเภสัชกรรม กรณีทุจริตน้ำมันรถ ซึ่งมีการตัดสินลงโทษทางวินัยและได้รับการนิรโทษกรรมแล้ว มาเชื่อมโยงตั้งข้อสงสัย โดยมองว่า ที่นพ.ไพจิตร์ ไม่ทำอะไร อาจเพราะเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกัน หรือมีอะไรซ่อนเร้นหรือไม่
      
       เลยเถิดถึงขั้นเรียกร้องให้นายจุรินทร์ สั่งปลดปลัดฯออกจากตำแหน่ง เพราะถือว่าไม่มีจริยธรรมที่จะนั่งอยู่ในตำแหน่งอีกต่อไป แทนที่จะขอให้มีการตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
      
       การผสมโรงมั่วซั่วโดยนำภาพที่มีการเผยแพร่ผ่านทางยูทูป ซึ่งยังไม่มีการตรวจสอบข้อมูลชัดเจนว่าจริงเท็จหรือไม่อย่างไร ทำให้ภาพที่ออกมาดูไม่เหมาะสม และไม่พ้นที่จะถูกผู้หลักผู้ใหญ่ในแวดวงสาธารณสุขตำหนิว่าเป็นการกดดันปลัด สธ.ที่ไม่สร้างสรรค์ เพราะมีแต่เสียกับเสียเท่านั้น
      
       ที่สำคัญเป็นการสะท้อนให้เห็นว่า ปัญหาภายในกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ที่มีปัญหามาอย่างยาวนาน เป็นปมขัดแย้งที่สลับซับซ้อน ชนิดที่เรียกได้ว่า ร้าวลึกจนยากจะเยียวยา
      
       ท่ามกลางความสงสัยคลางแคลงใจของประชาชน 'นพ.ไพจิตร์ วราชิต' ปลัดสธ. ก็ออกมายืนยันในความบริสุทธิ์ของตนเอง โดยปฏิเสธมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับหญิงอื่นที่ไม่ใช่ภรรยา พร้อมเปิดห้องทำงานโชว์ให้เห็นกันจะจะต่อหน้าสื่อมวลชนไปแล้วว่า ห้องทำงานไม่ได้เป็นฉากหลังอยู่ในคลิปภาพอย่างแน่นอน
      
       อย่างไรก็ตาม 'นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ' เจ้ากระทรวงสาธารณสุข ก็ได้สั่งการให้มีการตรวจสอบเพื่อให้ความเป็นธรรมทั้งฝ่ายผู้ร้องและผู้ที่ ถูกร้องทันควัน พร้อมกับมีการส่งสัญญาณกลายๆ ว่า คนของฝ่ายการเมืองเองก็เริ่มไม่พอใจการทำงานของนพ.ไพจิตร์ เท่าใดนัก
      
       โดยเฉพาะที่แหล่งข่าววงใน สธ.ที่แย้มๆ ว่า ปัญหาความขัดแย้งระหว่างนพ.ไพจิตร์ กับนายจุรินทร์ เกี่ยวกับการแต่งตั้งโยกย้ายนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดและผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป(รพศ./รพท.) เนื่องจากนพ.ไพจิตร์ ไม่ยอมแต่งตั้งบุคคลที่ทางฝ่ายการเมืองเสนอรายชื่อให้แต่งตั้ง แต่กลับแต่งตั้งบุคคลที่ดำรงตำแหน่งในกลุ่มแพทยสมาคมฯ แพทยสภา ซึ่งเคยออกมาต่อสู้คัดค้านร่างพ.ร.บ.คุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข โดยเฉพาะนพ.สัมพันธ์ คมฤทธิ์ เลขาธิการแพทยสภา ที่นพ.ไพจิตร์ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งให้เลื่อนจากผอ.รพ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี ไปเป็นผอ.รพ.สมุทรปราการ เป็นต้น สร้างความไม่พอใจอย่างมาก
      
       นอกจากนี้ ปลัดสธ.ยังไม่ยอมดำเนินการตามคำร้องของกลุ่มสหพันธ์ผู้ปฏิบัติงานด้านการ แพทย์และสาธารณสุขแห่งประเทศไทย(สผพท.)ในกรณีการแก้ไขร่างพ.ร.บ.คุ้มครองผู้เสียหายฯด้วย
      
       วันนี้สปอตไลท์จึงฉายมาที่สหพันธ์แพทย์ขาลุยที่ไม่เลือกวิธีในการโจมตีนั้น ย่อมไม่ธรรมดา
      
       คนแรกนพ.ฐาปนวงศ์ ตั้งอุไรวรรณ นอกจากจะเป็นรองประธานสผพท.แล้ว ยังสวมหมวกอีกใบเป็นจักษุแพทย์ ประจำอยู่ที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า และหลายคนอาจจะยังจำกันได้กับ ภาพ “หมอชุดดำ” ที่ออกโรงปกป้องแพทย์มากกว่าประชาชนติดตัว นพ.ฐาปนวงศ์ตลอดมา ส่วนอีกคน พญ.อรพรรณ เมธาดิลกกุล รองประธาน สผพท.ทำหน้าที่เป็นแพทย์ประจำโรงพยาบาลราชวิถี ทั้ง 2 คน เรียกได้ว่าเป็นแพทย์ขาบู๊ ขาลุย มีประวัติการเคลื่อนไหวต่อสู้โชกโชน
      
       กระนั้น ในแวดวงสาธารณสุขเป็นที่ทราบกันดีว่า ทุกคนต่างขยาดกับฤทธิเดชของคุณหมอโดยเฉพาะพญ.อรพรรณ ซึ่งทำงานร่วมกับภาคชุมชนบ่อขยะสระบุรี ก็มีปัญหามาเรื้อรัง จนกระทั้งในสมัยนพ.ไพจิตร์ วราชิต ปัญหาที่เรียกร้องก็ยังไม่ได้แก้ไข จึงอาจเป็นสาเหตุให้หมอไม่ต้องการปลัดสธ.คนนี้
      
       ส่วนนพ.ฐาปนวงศ์ ด้วยว่าที่เป็นหมอขาลุย จึงถูกมองว่าก้าวร้าวรุนแรง จึงอาจไม่ใคร่เป็นที่พออกพอใจของผู้ใหญ่มากนัก อีกทั้งประเด็นที่มีการเรียกร้องก็ไม่แน่ชัดว่า เพื่ออะไร
      
       แต่สิ่งที่เหมือนกันของทั้ง 2 คน คือ เคยเป็นแนวหน้าในการคัดค้าน พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 โดยเฉพาะมาตรา 41 ที่ให้มีการจ่ายชดเชยผู้ได้รับความเสียหายจากการแพทย์และสาธารณสุข ในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ซึ่งในที่สุดก็พ่ายแพ้ต่อฝ่ายการเมือง ไปอย่างหมดรูป
      
       อย่างไรก็ตาม ล่าสุดสถานการณ์กลับตาลปัตร เมื่อหมอที่เคยเป็นพรรคพวกเดียวกัน เมื่อมีการนำประเด็นเรื่องคลิปฉาวมาเล่นจนเป็นข่าวครึกโครมกับทำให้ทุกคนหันหลังให้กับทั้ง 2 หมอ อย่างไม่เหลือเยื้อใย ไม่ว่าจะเป็นสมาพันธ์แพทย์โรงพยาบาลศูนย์ /โรงพยาบาลทั่วไป รวมถึงแพทยสภา ที่ยิ่งกว่านั้นแพทยสภาเอง ได้เสนอเรื่องนี้เข้าสู่คณะอนุกรรมการจริยธรรม แพทยสภา เพื่อสอบสวนด้านจริยธรรมแพทย์ที่แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนซึ่งก็คือ นพ.ฐาปนวงศ์ และพญ.อรพรรณ นั่นเอง
      
       เชื่อว่า หากปลัดสธ.บริสุทธิ์จริง ความจริงย่อมปรากฏอย่างแน่นอน

ASTVผู้จัดการรายวัน    19 พฤศจิกายน 2553