หนังสือพิมพ์บ้านเมือง -- พุธที่ 30 มกราคม 2556 00:00:50 น.
ศ.เกียรติคุณ นพ.อุดม คชินทร คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จะมีการปรับเพิ่มอัตราค่าบริการ 10-15% ว่า เบื้องต้น รพ.ศิริราช คงไม่ปรับตาม สธ.แต่จะปรับตามความเป็นจริง อาทิ บางกลุ่มอาจปรับเพิ่มประมาณร้อยละ 5-10 ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับต้นทุนจริงของโรงพยาบาล เช่น เดิมโรงพยาบาลจะคิดเพียงค่ารักษาพยาบาล แต่ไม่เคยคิดค่าอุปกรณ์และค่าเครื่องมือทางการแพทย์ แต่อนาคตจะรวมด้วย เนื่องจากที่ผ่านมาการรักษาในหลายกลุ่มโรงพยาบาลต้องแบกรับภาระการขาดทุนมาโดยตลอด จึงจำเป็นต้องปรับเพิ่ม อาทิ ค่าการตรวจรักษาเบื้องต้นจะเก็บเพียงครั้งละ 80 บาท ก็อาจปรับเพิ่มเป็น 120-150 บาท ซึ่งการเพิ่มตรงจุดนี้ก็เป็นการเพิ่มโดยการสะท้อนมาจากต้นทุนจริง
รศ.นพ.จิรุตม์ ศรีรัตนบัลล์ รองผู้อำนวยการ รพ.จุฬาลงกรณ์ กล่าวว่า การปรับอัตราค่าบริการของสถานบริการในสังกัด สธ.ถือว่ามีเหตุผลในการปรับขึ้น เนื่องจากไม่ได้มีการปรับอัตราค่าบริการมาหลายปี และเชื่อว่าการปรับค่าบริการครั้งนี้ น่าจะมีการปรับปรุงบริการให้ดียิ่งขึ้นด้วย ส่วนในกลุ่มโรงเรียนแพทย์นั้น มีความเป็นไปได้ที่จะมีการทบทวนปรับอัตราค่าบริการเช่นกัน แต่จะปรับเพิ่มขึ้นมากหรือน้อยอย่างไรอยู่ที่เหตุผลของโรงเรียนแพทย์แต่ละแห่ง อย่างไรก็ตามที่กังวลว่าภาคเอกชนจะเพิ่มอัตราค่าบริการด้วยหรือไม่ เชื่อว่าคงไม่เพิ่มมากกว่านี้ เพราะช่องว่างของอัตราค่าบริการค่อนข้างสูงอยู่แล้ว
รศ.นพ.สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ ผู้อำนวยการ รพ.รามาธิบดี กล่าวว่า รพ.รามาฯ คงไม่ขึ้นตาม สธ.ทั้งหมด แต่ต้องพิจารณาจากต้นทุนและความเป็นจริงของแต่ละอย่าง ซึ่งไม่ได้ขึ้นทุกปี บางรายการปรับทุก 5 ปี เป็นการทยอยปรับราคามากกว่า อย่างไรก็ตาม ขอย้ำว่าการปรับเพิ่มไม่ได้ส่งผลกระทบต่อประชาชนที่มีสิทธิ์ในกองทุนสุขภาพรัฐ แต่จะมีเฉพาะกลุ่มผู้ป่วยที่จ่ายเงินเอง ซึ่งไม่ได้มากมายจนน่าวิตก เพราะในการปรับเพิ่มค่ารักษานั้นมีหลักการชัดเจน คือ ต้องไม่มากเท่ากับ รพ.เอกชน โดยต้องมีราคาถูกกว่าเอกชนร้อยละ 30
