ผู้เขียน หัวข้อ: ทำน้ำอุ่นระบบแก๊สคร่าชีวิตนศ.แพทย์พบเครื่องทำน้ำอุ่นจากจีนอันตรายปล่อย  (อ่าน 770 ครั้ง)

ABBA

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2105
    • ดูรายละเอียด
ข่าวทั่วไป หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ -- อังคารที่ 22 มกราคม 2556 00:00:42 น.
สสจ.เชียงใหม่เผยเครื่องทำน้ำอุ่นระบบแก๊สที่นำเข้ามาทางแม่สายหลายยี่ห้อไม่ปลอดภัยก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอนสูดดมถึงตาย เผยมีนักท่องเที่ยวตายแล้ว 2 คนเชียงใหม่ * สสจ.เชียงใหม่ประกาศเตือนภัยเครื่องทำน้ำอุ่นใช้แก๊สหุงต้ม ผลิตในจีนบางยี่ห้อ นำเข้าทางแม่สาย เสี่ยงอันตราย เนื่องจากก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอน สูดดมนานถึงหมดสติและเสียชีวิตได้ หากอยู่ในห้องมิดชิดและไม่มีพัดลมดูดอากาศ พบล่าสุดนักท่องเที่ยวตายแล้ว 2 ศพ 1 ในนั้นเป็น นศ.แพทย์ ส่งหนังสือถึงผู้ประกอบการเร่งตรวจสอบ เพราะแหล่งที่พักในภาคเหนือ ทั้งโรงแรม รีสอร์ต ล้วนนิยมใช้เนื่องจากราคาถูก

 
นพ.วัฒนา กาญจนกามล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ทางหน่วยงานมีหนังสือด่วนเพื่อขอความร่วมมือผู้ประกอบการที่พักโรงแรมต่างๆ ในพื้นที่เชียงใหม่ ให้เฝ้าระวังดูแลการใช้เครื่องทำน้ำอุ่นที่ใช้พลังงานจากแก๊สหุงต้ม โดยพบว่าปัจจุบันสถานที่ท่องเที่ยวตามจังหวัดต่างๆ ทั้งแม่ฮ่องสอน เลย เพชรบูรณ์ เชียงราย หรือสถานที่ท่องเที่ยวที่มีรีสอร์ต ที่พักแรม มีการใช้กันมากกว่า 90% และสินค้าก็มาจากฝั่งแม่สายหรือทางจีน เนื่องจากประหยัดกว่าที่ใช้ระบบไฟฟ้า สถานที่ท่องเที่ยวเกือบทั้งหมดมีการใช้เครื่องทำน้ำอุ่นชนิดนี้และยังพบว่าขณะนี้มีการสั่งซื้อจากจีนมาจำนวนมากด้วย

ทั้งนี้ ในจังหวัดเชียงใหม่มีเหตุนักท่องเที่ยวเสียชีวิตแล้วถึง 2 ราย ในช่วงเดือนธันวาคม 2555 และมกราคมที่ผ่านมานี้ โดยเป็นนักท่องเที่ยวที่ไปพักแรมที่สถานที่ท่องเที่ยวดังในอำเภอฝาง และพักรีสอร์ต เสียชีวิตระหว่างอาบน้ำ รายล่าสุดอาบน้ำตอน 14.00 น. ซึ่งจากการตรวจชันสูตรพบว่า มีเหตุเนื่องจากเลือดมีออกซิเจนน้อย ขาดอากาศหายใจ หมดสติ ไม่มีใครทราบหรือช่วยได้ทัน จึงเสียชีวิตในที่สุด เนื่องจากห้องน้ำไม่ได้ติดระบบระบายอากาศหรือพัดลมดูดอากาศ หรือมีแต่ไม่ได้เปิดใช้งานระหว่างนั้น

นพ.วัฒนากล่าวว่า เครื่องทำน้ำอุ่นระบบแก๊ส ระหว่างทำงานที่มีการเผาไหม้ให้เกิดความร้อน จะเกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ และจากการเผาไหม้ปกติที่เกิดจากเครื่องทำน้ำอุ่นชนิดดังกล่าว ทำให้ผู้อาบน้ำอยู่จะได้รับออกซิเจนน้อยลง และยังไปทำปฏิกิริยากับออกซิเจนในเลือด ทำให้มีออกซิเจนลดลง ขาดอากาศหายใจและหมดสติโดยไม่รู้ตัว เหมือนกับกรณีที่มีการนำเอาเตาผิงไฟไปไว้ในเต็นท์นอนที่อุทยานแห่งชาติอินท นนท์เมื่อหลายปีก่อนและเป็นเหตุให้คนในเต็นท์เสียชีวิต 3 ราย

"เมื่อผู้อาบน้ำไม่เปิดพัดลมระบายอากาศหรือดูดอากาศ หรือมีช่องระบายตอนอาบ ก็จะทำให้หมดสติและเสียชีวิตได้เมื่อไม่มีใครพบเห็นหรือช่วยได้ทันซึ่งมีรายหนึ่งที่เพื่อนช่วยไว้ทันดังนั้นผู้ที่ไปเที่ยวต้องสำรวจตรวจสอบระบบน้ำอุ่น การระบายอากาศ หรือความปลอดภัยไว้ด้วย หากจะอาบ เมื่อมีเพื่อนก็บอกกันไว้" นพ.วัฒนากล่าว

สสจ.เชียงใหม่กล่าวว่า ได้แจ้งเรื่องนี้ต่อทางจังหวัดให้ทราบแล้ว เพื่อจะได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมมาตรฐานของการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นแบบแก๊สให้ได้มาตรฐานไม่แน่ใจว่ามีการตรวจสอบกันอย่างไร ซึ่งเท่าที่ตรวจสอบ สินค้าจากประเทศในยุโรปหรือญี่ปุ่นไม่มีปัญหา ส่วนใหญ่เป็นระบบไฟฟ้าที่ต้องติดสายดิน ส่วนเครื่องใช้แก๊สนั้น ส่วนมากเป็นสินค้าจากจีน ซึ่งตอนนี้มีความนิยมใช้กันมากขึ้น เนื่องจากประหยัดพลังงานและค่าใช้จ่ายถูกกว่าหลายเท่าตัว ซึ่งเมื่อนำมาใช้ต้องทำระบบระบายหรือพัดลมดูดอากาศที่ดีด้วย เพราะถือเป็นภัยเงียบที่อันตรายถึงชีวิตโดยที่หลายคนไม่เคยคิดมาก่อน

นพ.วัฒนากล่าวว่า ขอฝากเตือนด้วยว่าการใช้งานเครื่องทำน้ำอุ่นระบบแก๊สขอให้เปิดเครื่องระบายอากาศก่อน 15 นาที หรือหากมีการอาบน้ำติดต่อกัน ก็ทิ้งช่วงไว้ 15 นาที ค่อยอาบเช่นกัน หากไม่มีระบบพัดลมระบายอากาศก็ให้แง้มประตูให้มีช่องลมผ่าน หรือหากมีเพื่อนก็บอกเพื่อนเอาไว้ก่อนเพื่อจะได้ช่วยเหลือหากมีเหตุฉุกเฉิน

"เชื่อว่าสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่มีอากาศหนาวจะมีเครื่องทำน้ำอุ่นที่ใช้ของจากแม่สายกันมากซึ่งทางจังหวัดก็ทราบเรื่องนี้และจะได้ประสานหน่วยงานเกี่ยวข้องเพื่อร่วมกันกำหนดหรือตรวจสอบมาตรฐานเพื่อจะได้ไม่เป็นผลเสียหายตามมาอีกสำหรับกรณีการเสียชีวิตนั้นทั้ง 2 รายเป็นหญิง และตายเพราะหมดสติระหว่างอาบน้ำ โดยพักที่สถานที่ท่องเที่ยวดังในอำเภอฝาง และ 1 ในนั้นเป็นนักศึกษาแพทย์ด้วย".