ผู้เขียน หัวข้อ: ร้านขายยาเสี่ยงสูญพันธุ์ (ไทยโพสต์)  (อ่าน 1477 ครั้ง)

pani

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 756
    • ดูรายละเอียด
ร้านขายยาเสี่ยงสูญพันธุ์ (ไทยโพสต์)
« เมื่อ: 11 พฤศจิกายน 2010, 00:00:54 »
หวั่น "ร้านขายยา" อ่วมสูญหายจากระบบกว่าครึ่ง หลังข้อตกลง AFTA มีผลบังคับใช้ในอีก 5 ปีข้างหน้า ส่งผลไทยต้องเปิดตลาดให้ทุนข้ามชาติเข้ามาเปิดกิจการแข่งขันได้ ตัวแทนสภาอุตฯ ชี้ร้านขายยาที่มีอยู่เดิมต้องเร่งปรับตัว ไม่อย่างนั้นอยู่ไม่ได้แน่
     นายนิลสุวรรณ ลีลารัศมี ประธานคณะกรรมการประเด็นเจรจาการค้าระหว่างประเทศ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ร้านขายยาเป็นสิ่งที่ล่อแหลมและสุ่มเสี่ยงที่สุดที่จะได้รับผลกระทบจากการทำ ข้อตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน (ASEAN Free Trade Area, AFTA) ที่เริ่มตั้งแต่ต้นปี 2553 และระบุว่า ในปี 2558 การค้าและการบริการทุกประเภทจะเปิดอย่างเสรี ดังนั้น ย่อมต้องมีทุนต่างชาติเข้ามา ทั้งนี้หากร้านขายยารายย่อยยังไม่มีการปรับตัวให้ได้มาตรฐานจะมีโอกาสหายไป จากระบบกว่า 50%
     นายนิลสุวรรณกล่าวต่อว่า จุดอ่อนของร้านขายยาคือการตั้งอยู่กับที่ ดังนั้นเมื่อบังคับใช้เขตการค้าเสรีแล้วจำเป็นต้องปรับตัวออกไปนอกสถานที่ ให้เป็นจุดกลางของการให้บริการด้านสุขภาพ อาทิ การมีพนักงานให้ข้อมูลประจำร้าน การขายยาทางอินเทอร์เน็ต ที่สำคัญร้านขายยาจำเป็นต้องจับมือกันรวมเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมร้านขายยา เพื่อสร้างเครือข่ายและความเข้มแข็งทางธุรกิจให้รอดจากการแข่งขันโดยทุนข้าม ชาติ
     ตัวแทนจากสภาอุตสาหกรรมกล่าวอีกว่า ประเทศแรกๆ ที่จะเข้ามาเป็นหุ้นส่วนร้านขายยาคือ อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ แต่ต้องเข้าใจว่าตามกฎหมายแล้ว เมื่อคนไทยถือหุ้น 51% ต่างชาติถือ 49% ร้านก็ยังเป็นสัญชาติไทยอยู่ และคนไทยก็จะได้รับประโยชน์ความร่วมมือของต่าง ชาติ อย่างไรก็ตามข้อตกลงอาฟตาระบุให้ทุนต่างชาติเป็นได้เพียงเจ้าของ ส่วนการให้บริการอื่นๆ ยังต้องเป็นคนท้องถิ่นของแต่ละประเทศเป็นผู้ให้บริการ
     "ต่อไปจะขายโปรดักต์อย่างเดียวไม่ได้ เราต้องขายเซอร์วิสด้วย และเราไม่อาจปฏิเสธการแข่งขันในขณะที่โลกเดินไปไม่ หยุดได้ ทางแก้เดียวคือต้องเร่งการผลิตทั้งบุคลากรและอื่นๆ ภายใต้ความเหมาะสม" นายนิลสุวรรณกล่าว
     ข้อมูลจากคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ระบุว่า ประเทศไทยมีร้านขายยาประมาณ 1.7 หมื่นแห่ง แต่มีเพียง 4% ที่ได้คุณภาพตามมาตรฐาน.

 11 พฤศจิกายน 2553