ผู้เขียน หัวข้อ: ภาค ปชช.ท้วง สธ.ดึงงบป้องกันโรคบริหารเอง  (อ่าน 813 ครั้ง)

ABBA

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2105
    • ดูรายละเอียด
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์   24 ธันวาคม 2555 14:41 น.   

   


       ภาคประชาชนท้วง สธ.ดึงแนวคิดส่งเสริมสุขภาพกลับไปทำเอง เหตุกำลังคนไม่พอ และเป็นการเดินย้อนกลับไปสู่ยุคไดโนเสาร์ แนะวิเคราะห์สถานการณ์ปัญหาใหม่ ชี้สุขภาพเป็นเรื่องของทุกคน ต้องให้ประชาชนร่วมคิดร่วมสร้าง


นิมิตร์ เทียนอุดม (แฟ้มภาพ)

       นายนิมิตร์ เทียนอุดม กรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า ในช่วงแรกๆ ของระบบ เคยกันงบไว้ที่กระทรวงสาธารณสุขเพื่อให้หน่วยบริการทำงานส่งเสริมป้องกันโรค แต่ความถนัดของกระทรวงสาธารณสุขคือการรักษา และการคัดกรองโรค ผนวกกับปัญหาเรื่องกำลังคนที่ไม่พอ หน่วยบริการจึงไม่ได้ทำงานส่งเสริมป้องกันโรคได้เท่าที่ควร คนที่เสียประโยชน์คือประชาชนที่ไม่ได้รับการส่งเสริมป้องกันโรคอย่างแท้จริง ที่ผ่านมาการจัดการงบส่งเสริมป้องกันโรคของระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติจึงจัดสรรเพื่อให้ครอบคลุมประชาชนทุกคน โดยแบ่งเป็นงบระดับประเทศไว้จัดซื้อวัคซีน และการป้องกันระดับประเทศ ส่วนหนึ่งกันไว้ที่หน่วยบริการสำหรับการส่งเสริมป้องกันโรคตามชุดสิทธิประโยชน์ และส่วนสำคัญคือกันไว้ระดับเขต และระดับตำบลเพื่อให้ประชาชน และภาคส่วนต่างๆ ทำโครงการส่งเสริมป้องกันโรคด้วยตนเอง
       
       “อยากให้ทบทวนแนวคิดที่จะดึงงบส่งเสริมป้องกันโรคกลับไปที่กระทรวงสาธารณสุขอีกครั้ง ว่าที่ผ่านมาเกิดปัญหาอะไรที่ทำไม่ได้ จึงต้องจัดสรรงบเพื่อให้เจ้าของปัญหา ให้ประชาชนเข้ามาร่วมคิดร่วมทำ ช่วยกันทำงาน แล้วจะพัฒนาแนวทางการส่งเสริมป้องกันโรคได้อย่างไร” นายนิมิตร์กล่าว
       
       นางเรณู ภู่อาวรณ์ ศูนย์ประสานงานหลักประกันสุขภาพ ภาคประชาชน จ.สมุทรสงคราม กล่าวว่า เพิ่งจัดงานคนสู้โรค โดยใช้งบส่งเสริมป้องกันโรคระดับเขต เป็นการเข่งขันกันระหว่างคนที่เป็นโรคเรื้อรังอย่างน้อย 2 โรคมาสมัคร ทุกอำเภอมีผู้สมัครรวมทั้งสิ้น 90 คน โดยตัดสินจากผลตรวจประจำตัวจากโรงพยาบาลว่าน้ำตาลในเลือด ความดัน และไขมันลดไหม เมื่อเริ่มโครงการให้ความรู้เรื่องโภชนาการที่เหมาะสม การกินที่ถูกต้อง แล้วให้แต่ละคนตั้งเป้าหมายของตัวเอง กลับไปกินผักที่ตัวเองปลูก ออกกำลังกายผ่านกิจวัตรประจำวัน แต่มีเป้าหมายมากขึ้น โดยมีโค้ชในระดับอำเภอคอยให้คำแนะนำ คอยให้กำลังใจ ทั้งหมดนี้ไม่ได้แข่งกันเพื่อของรางวัล แต่แข่งกันเพื่อสุขภาพตัวเอง ทั้งโค้ช ทั้งผู้เข้าแข่งขันต่างก็มีสุขภาพดีขึ้น หากได้รางวัลชนะก็เป็นความภูมิใจของอำเภอด้วย
       
       “งานนี้ถือเป็นนวัตกรรม และความร่วมมือการทำงานส่งเสริมป้องกันโรคที่เห็นได้ชัด มีประชาชนสนใจจำนวนมาก เมื่อภาคราชการเห็น มีโรงพยาบาลส่งเสริมป้องกันโรคเข้ามาร่วมด้วย ซึ่งหลายส่วนก็กล่าวว่าการทำงานแบบนี้ภาคราชการเองก็มีข้อจำกัดเรื่องเวลา กฎระเบียบและกฎเกณฑ์ต่างๆ ที่เป็นอุปสรรคที่ทำไม่ได้เอง แต่พร้อมจะให้ความร่วมมือ ทำงานด้วยกัน” นางเรณูกล่าว