ผู้เขียน หัวข้อ: ถ้าร่างกฎหมายเรียกค่าคุ้มครองผ่าน มาตรฐานจะบังเกิด‏  (อ่าน 1523 ครั้ง)

seeat

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 470
    • ดูรายละเอียด
โดยเครือข่ายรากหญ้า กระทรวงสาธารณสุข

ถ้าร่างพ.ร.บ.เรียกค่าคุ้มครองฯล้มไป
หมอก็ลดปัญหาอุปสรรคในการทำงานให้คนไข้ไปเรื่องหนึ่ง
ก็ต้องไปใช้แรงงานทู่ซี้ชีวิตกันต่อไป
น้องหลายท่านเรียกการกลับสู่งานหนักเช่นเดิม ว่า การกลับไปไถนา

ถ้าร่างพ.ร.บ.ผ่าน
หมอก็จะทำงานง่ายขึ้น
เพราะหมอทั้งหลายรักรามาธิบดี หมอทั้งประเทศรักหมอธันย์และหมอรชตะ
หมอทั้งประเทศจะทำตามอย่างรามาของหมอทั้งสองท่าน
ระเบียงโรงพยาบาลทั่วประเทศจะโล่ง
คนไข้จะไม่แออัด จะรักษาด้วยมาตรฐานรามา และสวีเดน

เวลาที่ให้กับคนไข้แต่ละคน
การดูแลที่ละเอียดรอบคอบ
การให้ข้อมูลข้อเท็จจริง ในเรื่องอาการแสดง อาการที่ตรวจพบ ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ
คนไข้และญาติจะได้ร่วมรับรู้กับหมอ เปรียบเสมือนได้ร่วมประชุมวิชาการกับหมอ
จะรับรู้โดยละเอียด จะร่วมประเมินอาการคนไข้ จะร่วมตัดสินใจกันทุกขั้นตอนการดูแลรักษา(step by step)

จะต้องมีเอกสารแสดงการรับรู้เพื่อเป็นหลักฐาน
ไว้แสดงในชั้นศาลได้

คนไข้(ที่มีโอกาสเข้าพบหมอ)ได้ประโยชน์
หมอ(ที่มีวาสนาได้ทำอย่างที่กล่าวมา)ได้ประโยชน์

คนไข้ที่มาโรงพยาบาลต้องจองคิวแต่ตีสามเหมือนรามาธิบดี เรียกว่าจองคิวเพื่อชีวิต
คนไข้ที่มายื่นบัตรวันนี้คิวเต็ม
เราต้องขอแสดงความเสียใจ

หมอทำงานตรงเวลา เลิกงานตรงเวลา
คนไข้ที่ไม่ได้คิวก็ไม่ได้ตรวจ

ต้องถามคนที่ออกกฎหมายกะหมอธันย์นะครับ

เมื่อหมอไม่มีโอกาสตรวจคนไข้ คนไข้ก็ไม่มีโอกาสฟ้องหมอ

อย่างนี้ใช่ไหมครับตามเจตนารมณ์ของผู้เสนอร่างกฎหมาย

อย่าไปกล่าวหาโรงพยาบาลเอกชนเลยครับ อานิสงค์ของร่างกฎหมายนี้ คือ

โรงพยาบาลรัฐเตียงเต็ม เอกชนย่อมยินดีต้อนรับ ใช่หรือไม่?
เตรียมเปิดกันอีกเท่าไรจะพอ ? มีคำตอบ

กระทรวงสาธารณสุขมีเตียงผู้ป่วยทั้งหมดเพียง 125,866 เตียง (จากhttp://hrm.moph.go.th/res52/res-rep2551.html)

ถ้าจะมีสัดส่วนต่อประชากรเช่นเดียวกับเดนมาร์กหรือสวีเดนที่ชอบไปดูงานกัน ต้องมี จำนวน 233,100 เตียง ต้องเพิ่มเตียง  107,234 เตียง

หากเน้นมาตรฐานตามรามาธิบดี หรือเดนมาร์ก/สวีเดน จะทำให้ธุรกิจที่เฟื่องฟูที่สุด คือ .... โรงพยาบาลเอกชน ขอรับกระผม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09 ตุลาคม 2010, 17:40:13 โดย seeat »