วิกฤตขาดแพทย์ผ่าตัดสมอง 30 จังหวัด!

[story]

วิกฤตหมอประสาท-ผ่าตัดสมอง! ประชาชนในพื้นที่ 30 จังหวัด มีความเสี่ยงสูงจากโรคหลอดเลือดสมองแตก-อุบัติเหตุทางสมอง แต่ไร้แพทย์รักษา พร้อมมีโอกาสเป็นอัมพาต และเสียชีวิตสูง ส่วนอนาคตยิ่งน่าห่วง เพราะหมอด้านอายุรกรรม-ศัลยกรรมระบบประสาทแบกงานหนัก ชี้หมอ 1 คนดูแลคนไข้ถึง 350,000 คน อีกทั้งเสี่ยงต่อการโดนฟ้องตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้เสียหายฯ ถึงขั้นติดคุก คาดอีก 4 ปีเปิดเสรีอาเซียนโรงพยาบาลเอกชนทุ่มดึงหมอสมองไปเพียบ เลขาธิการแพทย์สภาชี้ หมอรุ่นใหม่ แห่เรียน “ผิวหนัง-ความงาม” เหตุรายได้ดี เสี่ยงน้อย งานไม่หนัก จี้ ก.พ.ตั้ง คณะกก.ดูแลอัตราบรรจุขรก.สายแพทย์เหมือน 'ครู -ตำรวจ' ด้านเด็กรุ่นใหม่เมินอาชีพแพทย์ สอบติดแต่สละสิทธิ์สูงถึง 20%..
       
       การรักษาพยาบาลในสังคมไทยที่มองผิวเผินเสมือนว่าจะมีการยกระดับมากขึ้นทั้งมาตรการรักษาฟรีกับโรงการประกันสุขภาพถ้วนหน้า รักษาฟรี และการไหลบ่าของชาวต่างชาติที่เข้ามารับการรักษาในไทยเนื่องจากมีมาตรฐานการรักษาที่สูงในราคาที่คุ้มค่าอย่างมาก
       
       ทว่า ในเบื้องลึกกับพบว่า ปัญหาในวงการแพทย์อยู่ในระดับที่สูงโดยเฉพาะภาวะขาดแคลนแพทย์และปัญหาการฟ้องร้องดำเนินคดีระหว่างคนไข้และแพทย์ผู้ทำการรักษาซึ่งอาจจะต้องตกใจเมื่อพบว่าแพทย์ในสาขาที่สำคัญต่อชีวิตอย่างมากกำลังจะขาดแคลนโดยไม่รู้ตัว
       
        แพทย์ประสาท-สมองขาดแคลนหนัก
       
       แหล่งข่าวนายแพทย์ด้านศัลยกรรมสมอง เปิดเผยถึงภาวะความขาดแคลนแพทย์ระบบประสาทและด้านศัลยกรรมสมอง ซึ่งถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งในการผ่าตัดรักษาผู้ป่วยในภาวะเส้นเลือดในสมองแตก รวมไปถึงเลือดออกในสมองอันเนื่องมาจากอุบัติเหตุ ซึ่งการรักษาผู้ป่วยอย่างทันท่วงทีจะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถรอดชีวิต หรือลดโอกาสที่จะพิการที่จะนำไปสู่การเป็นโรคอัมพาต อัมพฤกษ์ หรือในกรณีของเส้นเลือดในสมองตีบตัน ที่อาจทำให้สมองบวมหรือเสียหาย ซึ่งต้องใช้แพทย์ที่เชี่ยวชาญในการรักษาเท่านั้น มิฉะนั้นก็จะมีความเสี่ยงต่อสมองเสียหาย หรือนอนเป็นผัก ซึ่งแพทย์สาขาดังกล่าวอยู่ในภาวะขาดแคลนอย่างหนักและส่งผลโดยตรงต่ออัตราการรอดชีวิตของผู้ป่วยอย่างมาก
       
       ตามข้อมูลจากแพทยสภา และกระทรวงสาธารณสุข พบว่า เกือบ 30 จังหวัดทั่วประเทศไม่มีแพทย์สาขานี้ประจำ ขณะที่อีกประมาณ 30จังหวัดมีไม่เกินสองคน และมีไม่ถึง10 จังหวัดที่มีประมาณ 3 คน แพทย์เหล่านี้ต้องรับภาระการผ่าตัดและดูแลรักษาคนไทยที่มีปัญหาทางสมองและไขสันหลังในอัตราส่วนที่น่าตกใจ กล่าวคือ ทั่วประเทศไทยมีแพทย์ผ่าตัดสมองไม่เกิน 400 คน
       
       ในจำนวนนี้ยังมีแพทย์ที่เตรียมเลิกการผ่าตัด เนื่องจากเพราะอายุมาก กลัวการฟ้องร้อง เปลี่ยนอาชีพจากแพทย์ไปสู่งานขายตรงหรืออาหารเสริม รวมไปถึงเปลี่ยนไปอยู่ในสายงานการบริหารแทน สุดท้ายแล้วจึงจะเหลือแพทย์ผ่าตัดสมองไม่เกิน 300 คน และเมื่อหักแพทย์ที่เป็นอาจารย์แพทย์ในโรงเรียนแพทย์ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในจังหวัดใหญ่หรือกทม. จะเหลือแพทย์ประมาณไม่เกิน 250 คน และเมื่อเทียบกับประชากรชาวไทยในปัจจุบันที่มีอยู่ราวๆ 70 ล้านคนเท่ากับว่าแพทย์ผ่าตัดสมองหนึ่งคนต้องดูแลผู้ป่วยทั่วประเทศถึง 280,000 คน !!
       
       ซ้ำร้ายอย่างยิ่งเมื่อหักแพทย์ที่มีแนวโน้มจะลาออกจากระบบราชการ แล้วหันไปทำงานในภาคเอกชนจะเหลือแพทย์ผ่าตัดสมองในระบบราชการไม่ถึง 200 คน เท่ากับว่าในสถานพยาบาลรัฐนั้น แพทย์หนึ่งคนต้องรับผิดชอบคนไทยทั้งประเทศประมาณ 350,000 คน ยิ่งหากคำนึงถึงสภาพความเป็นจริงว่า ผู้ป่วยเหล่านี้มักเป็นผู้ป่วยฉุกเฉินที่ชีวิตต้องแข่งกับเวลา ซึ่งในทุกๆนาทีจะมีคนพิการหรือตายเพราะได้รับการรักษาไม่ทันอยู่ตลอดเวลา


ข้อมูลเฉพาะโรงพยาบาลสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข (เมษายน 2554)

       เตียงเต็ม หาที่ส่งต่อไม่ได้
       
       อย่างไรก็ดี ในวงการสาธารณสุขโดยเฉพาะกลุ่มแพทย์ทั่วประเทศทราบปัญหาดังกล่าวเป็นอย่างดี และรู้ดีว่าคนไข้ที่ป่วยด้วยโรคหลอดเลือดสมอง และอุบัติเหตุทางสมอง จะต้องเผชิญปัญหาและมีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตสูงมาก และยิ่งเวลามีผู้ป่วยหนักทางสมอง ที่จำเป็นต้องส่งต่อไปพบแพทย์เฉพาะทางระบบประสาท สิ่งที่ทั้งแพทย์ พยาบาล และญาติผู้ป่วยต้องทำคือ “สวดมนต์” เพื่อให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยให้แพทย์เจ้าของไข้สามารถหาโรงพยาบาลที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและส่งต่อคนไข้รายนี้ไปได้โดยง่ายและทันเวลา
       
       เพราะหากไม่สามารถดำเนินการส่งต่อได้ แพทย์พยาบาลต้นทางมีสิทธิถูกฟ้อง ในกรณีทอดทิ้งไม่รักษาผู้ป่วยหรือ รักษาล่าช้า ขณะที่ในฝ่ายญาติผู้ป่วยก็มีความขัดแย้งเพิ่มขึ้นเนื่องจากไม่เข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะทุกคนย่อมคิดว่า “ปัญหาของตนยิ่งใหญ่ที่สุด”
       
       ส่วนแพทย์ปลายทาง (รพท.รพศ.) ก็มีปัญหาไม่ยอมรับการส่งต่อคนไข้เช่นกันพร้อมกับอ้างเหตุผลว่า “เตียงเต็ม” “ห้องผ่าตัดไม่ว่าง” เนื่องจากหวั่นเกรงปัญหาการถูกฟ้องร้องแทนต้นทาง จึงนำไปสู่ปัญหาคนไข้นอนค้างอยู่ตามห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลต่างๆ หรืออยู่บนรถพยาบาลที่ตระเวนหาโรงพยาบาลที่พร้อมที่จะรับตัวผู้ป่วยไปรักษา ภายใต้สโลแกนดั้งเดิมว่า “30 บาทรักษาทุกโรค” หรือสโลแกนที่จะกำลังจะออกมาใหม่ว่า “บัตรเดียวรักษาทั่วไทย”
       
       “ไม่เคยได้ยินใครออกมาพูดเพื่อปกป้องหมอ ให้ไม่ต้องกลัว เราจะดูแลคุณเอง เพราะคุณทำงานให้รัฐบาล แต่จริงๆ โรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลอำเภอ ก็ทำได้เท่านี้เพราะมีกำลังเท่านี้จริงๆ” แหล่งข่าวระบุ
       
       อย่างไรก็ดี การที่แพทย์ปฏิเสธการรับส่งต่อก็เพราะแพทย์ผ่าตัดด้านสมองกลัวการถูกฟ้องร้องอย่างมาก รวมถึงความยากลำบากในการผ่าตัด ยังต้องเผชิญปัญหาเตียงเต็ม ความไม่พร้อมของสถานพยาบาลรัฐ ขาดผู้บริหารที่ปกป้องแพทย์ พยาบาลในสังกัดยามเกิดปัญหา แต่ผู้บริหารกลับพร้อมที่จะตั้งกรรมการสอบ และคอยปลอบใจผู้ป่วยว่าจะทำเรื่องร้องขอเงินช่วยเหลือตาม ม.41 พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ขณะที่ฝ่ายสำนักงานหลักประกันสุขภาพฯ (สปสช.) ก็ไม่เคยออกมายอมรับหรือแก้ปัญหาดังกล่าวแต่อย่างใด
       
       หมอใหม่แห่เรียนเสริมความงาม
       
       ขณะที่วิสัยทัศน์ของผู้บริหารระดับประเทศที่ได้ยินกันอยู่บ่อยครั้งว่า “ขาดหมอก็เพิ่มการผลิต” หรือ “ขาดหมอก็เพิ่มค่าปรับการใช้ทุน” แต่ยังไม่มีการพูดถึงสาเหตุที่แท้จริงของปัญหาว่า เหตุใดแพทย์จึงขาดแคลน และจะรักษาแพทย์เหล่านี้ไว้ในระบบให้ได้ รวมไปถึงการแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุด
       
       แพทย์ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านรวมให้ความเห็นว่า ที่ผ่านมาแทนที่จะเพิ่มแรงจูงใจแพทย์เพื่อให้อยู่ในระบบต่อไป กลับพยายามออกกฎหมาย ระเบียบที่เคร่งครัดแทน รวมไปถึงสภาพความเป็นจริงทุกวันนี้ แม้โรงเรียนแพทย์อยากเพิ่มจำนวนผลิตแพทย์ด้านอายุรกรรมระบบประสาท และศัลยกรรมประสาท แต่ก็ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากแพทย์ที่ต้องการเรียนต่อเป็นผู้เชี่ยวชาญ ต่างไม่สนใจจะเรียนด้านนี้ โดยให้เหตุผลว่าเป็นสาขาที่เรียนยาก และเรียนหนัก พูดง่ายๆ ก็คือ “งานหนัก เงินน้อย ฟ้องเรื่อย ตายเร็ว” รวมถึงยังมีสิทธิ์ติดคุกฐานพยายามช่วยชีวิตผู้อื่น ตามมาตรฐานนักกฎหมายไทย โดยอ้างแต่ว่าต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ป่วยและญาติ แต่ไม่มีผู้ใดพูดถึง “ความเป็นธรรมของคนที่พยายามช่วยชีวิตผู้อื่น” ที่ยังเป็นปัญหาที่ต้องหาคำตอบโดยเร็วเช่นกัน
       
       ในทางกลับกัน แพทย์สาขาที่มีความนิยมสูงในยุคปัจจุบันก็คือ สาขาที่ไม่มีการผ่าตัด งานไม่เสี่ยง ไม่เร่งด่วน ผลตอบแทนสูงรวมถึงยังได้ชื่อเสียงไม่ยากเพราะรู้จักกลุ่ม Celeb (ผู้มีชื่อเสียง) ได้ง่าย คือ สาขาความงามทั้งหลาย จึงเป็นเหตุให้ทั่วประเทศเต็มไปด้วยป้าย “สวยด้วยแพทย์” ทั้งจากแพทย์ผิวหนังหรือศัลยกรรมความงามทั้งหลาย ซึ่งอาจมีเพียงวุฒิบัตรที่เกี่ยวข้องเท่านั้นก็สามารถทำงานสาขานี้ได้ทันที
       
       ผลก็คือ เมื่อจบแพทย์หรือแพทย์เฉพาะทางมาแล้ว และเข้าไปอยู่ในโลกของความเป็นจริงที่พบ ว่า “คนไทยรู้จักแต่สิทธิ รู้แต่การเรียกร้อง เห็นใจคนอื่นน้อยลง แม้ว่าคนๆนั้นจะมีบุญคุณกับตนเอง หรือ มีเจตนาดีก็ตาม” บวกกับ “เงินไม่เข้าใครออกใคร” ทั้งหมอทั้งผู้ป่วยจึงต้องเห็นแก่ตัวเป็นอันดับแรก โดยหมอหากมีทางไปก็เลิกอาชีพ ส่วนผู้ป่วยหากมีช่องทางก็ร้องเรียนหรือฟ้องร้องไว้ก่อน ยิ่งหาก “พ.ร.บ.คุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข” ผ่านออกมา บังคับใช้คู่กับ พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค ไม่รู้ว่าจะเหลือแพทย์สาขานี้อีกกี่คน ไม่แน่ว่าโรงเรียนแพทย์บางแห่งอาจต้องยุบการสอนแพทย์สาขานี้เพราะหาคนสมัครใจเรียนน้อยลงเรื่อยๆ
       
      แพทย์ถูกฟ้องเพิ่ม 2-3 เท่า
       
       สอดคล้องกับที่ นพ.สัมพันธ์ คมฤทธิ เลขาธิการแพทยสภา ระบุว่า อุปสรรคในการทำงานของแพทย์ก็คือ อัตราการฟ้องร้องโดยทางด้านกฎหมาย ซึ่งส่งผลกระทบใน 2 ทาง ทั้งผู้ป่วยที่ต้องแบกรับความเสี่ยงการรักษา เนื่องจากแพทย์ก็ไม่ต้องการที่จะเสี่ยงในการรักษาที่ค่อนข้างยากหรือมีความเสี่ยงสูงจึงทำให้ ภาวะการ “ส่งต่อ” คนไข้ไปยังโรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่มีความพร้อมมากกว่าเพิ่มขึ้น 2-3 เท่า ซึ่งทำให้โรงพยาบาลขนาดใหญ่ หรือโรงพยาบาลศูนย์ ซึ่งมีความพร้อมทั้งบุคลากรทางการแพทย์และอุปกรณ์ในการรักษาต้องรับการรักษาผู้ป่วยเพิ่มขึ้น
       
       “โรงพยาบาลอุดรฯ หรือขอนแก่นที่เคยมีการผ่าตัดหรือทำคลอดวันละ 10 รายก็เพิ่มเป็น 20 ราย ซึ่งเพิ่มขึ้นจากการที่โรงพยาบาลอำเภอ หรือโรงพยาบาลชุมชนไม่เสี่ยงที่จะทำการรักษาก็ส่งต่อคนไข้มายังโรงพยาบาลที่ใหญ่กว่า”
       
       ดังนั้น โรงพยาบาลขนาดเล็กที่เคยสามารถแบ่งเบาภาระการรักษาคนไข้ ในบางกรณี เช่น การทำคลอด ผ่าตัดไส้ติ่ง หรืออื่นๆที่พอสามารถทำได้ แต่เมื่อพบกับปัญหาการถูกฟ้องร้องก็เลือกที่จะส่งต่อไปยังโรงพยาบาลขนาดใหญ่แทนเพื่อลดปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นจากการถูกฟ้องร้อง
       
       แนะ ก.พ.แยกหมอคุมอัตราเอง
       
       เลขาธิการแพทยสภากล่าวต่ออีกว่า ภาวะแพทย์ขาดแคลนในหลายสาขา ซึ่งใน 3 สาขาที่สำคัญ เช่น สูติแพทย์ ศัลยแพทย์ ประสาทศัลยแพทย์ มีแนวโน้มที่จะมีอัตราที่ลดลงเนื่องจากเป็นสายที่ค่อนข้างยาก โดยส่วนหนึ่ง ยังต้องยอมรับว่าปัญหาการบรรจุข้าราชการสายสุขภาพค่อนข้างมีปัญหา และถือว่ายังมีความไม่แน่นอนค่อนข้างสูง แม้ว่าในแต่ละปีจะมีแพทย์จบใหม่เฉลี่ย 2,000 คน และสามารถบรรจุได้ทั้งหมดแต่ก็อยู่บนพื้นฐานของความไม่แน่นอน
       
       แต่คาดว่าในอีก 5 ปีข้างหน้าจะมีปริมาณแพทย์ที่จบเพิ่มขึ้น 10,000 อัตรา ซึ่งคาดว่าจะเกิดปัญหาในการบรรจุแพทย์จบใหม่เหล่านี้ รวมไปถึง ตามนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ซึ่งมีมาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายในส่วนราชการจึงทำให้อัตราการบรรจุข้าราชค่อนข้างน้อย รวมไปถึงในสายสุขภาพ และใช้วิธีการไกล่เกลี่ยอัตราบรรจุซึ่งทำให้เกิดปัญหาค่อนข้างมาก แม้ว่าในแต่ละปีแพทย์จะสามารถบรรจุได้แต่ก็ยังมีปัญหาในรายละเอียดทั้งการ บรรจุแพทย์ไม่ตรงสาย การวิ่งเต้นเพื่อหาอัตราบรรจุ ขณะที่ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์อื่นๆก็ยังไม่มีอัตราที่บรรจุได้แน่นอน
       
       ดังนั้น ในการแก้ไขปัญหาการจัดสรรอัตรากำลังและประเมินความจำเป็นในการบรรจุข้าราชการแพทย์ ก็มีแนวคิดว่า ควรที่จะแยกการจัดการบรรจุข้าราชการแพทย์ออกจากทางก.พ.ทำการจัดสรรอัตรากำลังภายใน เนื่องจากมีความพร้อมและเข้าใจมากกว่า เหมือนเช่นตำรวจ ครู หรือ ทหาร
       
       ด้วยเหตุนี้จึงไม่แปลกที่ว่าอัตราของนักเรียนแพทย์จึงค่อยๆ ลดลง ซึ่งเมื่อเทียบกับอัตราการสอบเข้ามหาวิทยาลัยในคณะแพทยศาสตร์ก็มีอัตราการสละสิทธิสูงขึ้นเป็น 20 %ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ และเลือกที่จะเรียนในสายอื่นๆที่มีความเสี่ยงน้อยกว่าแพทย์ อาทิ กฎหมาย เศรษฐศาสตร์ วิศวกรรมแทน
       
        อีก 4 ปี เอกชนดูดเกลี้ยง
       
       นอกจากนี้ ปัจจัยสำคัญที่ถือว่าค่อนข้างน่าเป็นห่วงก็คือ การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในช่วงปี พ.ศ. 2558 ที่จะถึงในอีก 4 ปีข้างหน้าย่อมส่งผลกระทบต่อวงการแพทย์แน่นอน ส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่าคุณภาพของแพทย์ไทยค่อนข้างสูงและเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ ซึ่งจะยิ่งส่งผลให้ภาวะแพทย์ขาดแคลนจะวิกฤตหนักมากขึ้น เนื่องจากการถูกซื้อตัวไปยังภาคเอกชนและย่อมส่งผลกระทบต่อโรงพยาบาลรัฐโดยตรง เพราะถึงแม้จะมีการรักษาฟรีแต่ก็จะนำไปสู่ปัญหาเรื่องขาดแคลนแพทย์ที่จะทำการรักษา แม้ภาวการณ์ปัจจุบันจะยังมีแพทย์สามารถทำการรักษาได้แต่ก็ต้องล่าช้าเนื่องจากปริมาณผู้ป่วยที่สูงมาก และเสียเวลาในการส่งตัวไปรักษายังโรงพยาบาลขนาดใหญ่โดยที่ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ยังไม่มีแนวทางที่เป็นรูปธรรมที่จะแก้ปัญหาที่เผชิญหน้าอยู่ในขณะนี้ นอกจากการเรียกร้องให้แพทย์เสียสละ
       
       ดังนั้น ปัญหาที่บุคลากรในแวดวงสาธารณสุขต่างก็แสดงความเป็นห่วงถึงภาวะความขาดแคลนประสาทศัลยแพทย์ ซึ่งจากการประชุมครั้งล่าสุดในช่วงเดือน มิ.ย. 2554 ที่ผ่านมา ก็พบว่าจำเป็นต้องมีนโยบายรักษาแพทย์เหล่านี้ให้อยู่ในระบบราชการให้ได้ มิใช่สรรหานโยบายกักขังมิให้ลาออกจากราชการ เช่น การเพิ่มค่าปรับเป็นเงินหลายสิบล้านหากไม่ทำงานใช้ทุนรัฐบาล ขณะที่การเพิ่มการผลิตแพทย์สาขานี้จำเป็นต้องปลูกฝังอุดมการณ์ในการอุทิศตน และค่านิยมที่ถูกต้องไม่ใช่เน้นเฉพาะวัตถุนิยมที่พบมากในแพทย์รุ่นใหม่ พร้อมกับมีมาตรการสร้างแรงจูงใจให้เหมาะสมเพื่อให้มีผู้สนใจมาเรียนมากขึ้น ซึ่งหากไม่ทำอย่างจริงจังแล้ว อนาคตอาจได้เห็นภาพคนไทยนอน “สมองตาย” เพราะหาแพทย์ผ่าตัดสมอง หรือหาที่ส่งต่อไม่ได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะ “แพทย์สมอง สมองไหล” กันหมดแล้ว!!...


ผู้จัดการ 360° รายสัปดาห์    21 กรกฎาคม 2554

[story]

ข้อมูลเพิ่มเติม ประสาทศัลยแพทย์ ที่จบใหม่ในปีนี้(เฉพาะโรงพยาบาลศูนย์/ทั่วไป)

รพ.มหาสารคาม(1) รพ.บุรีรัมย์(1) รพ.ยโสธร(1) รพ.นครพิงค์(1) รพ.อยุธยา(1) รพ.ยะลา(2) รพ.สรรพประสิทธิ์ประสงค์(1) รพ.อุดรธานี(1) รพ.สระบุรี(1) รพ.เพชรบูรณ์(1) รพ.พุทธชินราช(1)

[story]

ลองอ่านความคิดเห็นจากผู้เข้าชมเวบไซด์ผู้จัดการ
 
 ความคิดเห็นที่ 10 +46       
 
 คุณเก่งขนาดเรียนศัลย์ประสาทสมองได้ ไปอยู่เอกชนเหอะ จะมาลำบากอยู่รัฐบาลทำไม ดีไม่ดีถูกฟ้องอีก เหนื่อยทั้งกายและใจ

คนก็คิดว่าหมอคือพระเจ้าเสกชีวิตคนได้ โถ..กุก็คน จะเอาอะไรกะกุนักหนา รักษาสุดความสามารถแล้ว ไอ้ทนายก็ขยันเชียร์ให้ฟ้อง

กุทำมืงตาย มืงฟ้องกุหมดตัว
กุทำมืงหาย ไม่เห็นมืงยกบ้านช่องให้กุบ้าง
เมืองนอกไม่ยักเห็นหมอเป็นพระเจ้า 
 
 ความคิดเห็นที่ 22 +40       
 
 ไม่นานมานี้ มีคนไข้สูงอายุมาที่ รพ ศิริราช ตอนมาถึงไม่มีสติแล้ว อยู่ในสภาพตับวายเพราะดื่มเหล้ามาก หมอทุกคนลงความเห็นว่าคงไม่รอดแน่นอน เพราะตับเสียไปหมดแล้ว โชคดีคืนหนึ่งมีคนไข้อุบัติเหตุสมองตาย และญาติขอบริจาคอวัยวะให้ หมอทั้ง รพ วิ่งวุ่นกันทั้งคืน เพื่อเอาตับมาเปลี่ยนให้ลุงแก่คนนั้นที่ใกล้ตายเต็มทน ผลปรากฏว่าคนไข้รอดชีวิตฟื้นคืนสติขึ้นมาได้ และพอพบว่าฟันหักไป 2 ซี่ ระหว่างหมอดมยาง้างปากเพื่อใส่ท่อหายใจระหว่างผ่าตัด (ฟันแกก็โยกอยู่ก่อนแล้ว) แกก็โวยวายจะฟ้องหมอให้ได้ เรียกเงินมากมาย ทั้งๆที่ผ่าตัดเปลี่ยนตับไม่เสียเงินสักแดง เพราะเป็นผู้ป่วยอนาถา นักศึกษาแพทย์สงสารอาจารย์มากเลยไปบอกคนไข้ว่า หมอจะชดใช้ค่าเสียหายให้ตามที่ต้องการ แต่ขอตับใหม่คืนนะ คนสมัยนี้เห็นแก่ได้ จะเอาอย่างเดียว ไม่ยอมเสีย
หมอศิริราช 
 
 ความคิดเห็นที่ 6 +16       
 
 30 บาทรักษาทุกโรค....ขาดงบลงทุนและพัฒนาสถานพยาบาล

ก.พ.มีมาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายในส่วนราชการ... ปัญหาการบรรจุข้าราชการสายสุขภาพค่อนข้างมีปัญหาและถือว่ายังมีความไม่แน่นอนค่อนข้างสูง... อายุเฉลี่ยของคนในระบบมากกกกก workloads >>>Turn over rate >>> เปลียนอาชีพ ลาออก....วิชาชีพขาดแคลน

3 M: man money material ขาดทั้งระบบ
+ กฎหมายไม่เอื้อต่อ“ความเป็นธรรมของคนที่พยายามช่วยชีวิตผู้อื่น” “งานหนัก เงินน้อย ฟ้องเรื่อย ตายเร็ว”

ภาวะการ “ส่งต่อ”คนไข้ไปยังโรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่มีความพร้อมมากกว่าเพิ่มขึ้น 2-3 เท่า
สปสช.ก็ไม่เคยออกมายอมรับหรือแก้ปัญหาดังกล่าวแต่อย่างใด

ปัญหาที่รู้ๆกันอยู่แล้ว...นโยบายสุขภาพเหมาโหลทั้ง กพ และ 30บาท

สุดท้าย.... คนไม่ใช่เครื่องจักรต้องการความรักและความเข้าใจ

คงต้องใช้หุ่นยนต์แพทย์ พยาบาลในการดูแลผู้ป่วย...มีงบลงทุนไหมล่ะ
paipa05 สมาชิก 
 
 ความคิดเห็นที่ 39 +11       
 
 ผมอ่านแล้วเห็นด้วยกับหลายความเห็นขอสรุปนะครับ
1. ตอนมาเห็มหมอเป็นพระเจ้า ต้องหาย พอไม่หาย อ้าวไอ้นี่มัน ฆาตรกร
2. คนไทยยังไม่เข้าใจสัจธรรม ทุกข์สิ่งมีเกิด และมีดับ ไม่มีใครมีชึวิตนิรันด์ แม้แต่โอบามา
3. ใครเคยทำงาน 24 ชั่วโมงบ้างเป็นอย่างไง มันเหนื่อยมาก ผมก็คนต้องพักผ่อนเหมือนกัน
4. คนไข้บางคนยังไม่เห็นใจ มารักษาหวัดไอ ก็มาตอน 22.00 น. กะจะไม่ให้ผมพักผ่อนหรือไง ถึงจะได้ค่าเวร แต่ขอดูแต่ ผู้ปวยฉุกเฉินได้ไหม
5. แต่ละคนมา รพ. ขอยาอย่างเดียว จะไปเปิดคลินิกไหม รพ.ผมติดหนี้ 20 ล้านบาท ไม่ให้ยาตามขอก็โกรธ เห็นผมเป็นคนแจกยาหรือไง
6. มากันล้นโรงพยาบาล ต้องการตรวจเร็ว ๆ พอรอนานก็บ่น พอผมตรวจเร็วก็บอกว่าไม่ละเอียด จะเอาอย่างไร
7. คนที่บอกว่ามาเป็นแพทย์ควรเสียสละ คุณลองไม่พักผ่อนติดกันเป็น ปีแล้วจะรู้ว่าการได้หลับคือความสุขทึ่สุด แต่ถ้าคุณไม่หลับได้ ขอยกย่องเป็น ซอมบี้
8. กุทำมืงตาย มืงฟ้องกุหมดตัว
กุทำมืงหาย ไม่เห็นมืงยกบ้านช่องให้กุบ้าง
9. ทำไมไม่มีใครฟ้องปอเต็กติ้งบ้างว่า มารับผู้บาดเจ็บช้า
10. คนไข้แผนกศัลย์และอายุรกรรมมีขี้เหล้าประมาณ 10-20 เปอร์เซ็นต์ ไม่ว่าจะเป็น คนไข้อุบัติเหตุ คนไข้ตับแบ็ง คนบ้า เลือดออกทางเดินอาหาร ตัวคุณเองยังไม่รัก ญาติก็ไม่ห้ามดื่มเหล้า พอป่วยมาก็จะให้ก็ชุบชีวิต โรงพยาบาล ไม่ใช้บ่อน้ำใน dota นะเฟ้ย
11. แด่คนบริจาคเลือดทั้งหลาย เลือดของคุณ ส่วนใหญ่ ใช้ให้กับผู้ดื่มเหล้าครับ (เลือดออกทางเดินอาหาร อุบัติเหตุ) อาจมีบางส่วนหน้าให้ เช่น ทาลัสซีเมีย
12. พอแล้ว เดี่ยวบ่นมากจะหาว่ากูมาเป็นแพทย์ทำไม
* ขออภัย ผมก็มนุษย์ ขอใช้ คำว่า กู
หมอชนบท
dd 
 
 ความคิดเห็นที่ 41 +1       
 
 คนเรียนหมอก็เป็นคน แล้วอยากช่วยทุกคน
แต่พอมีปัญหาฟ้องร้องมากก็ตัวใครตัวมันละคับ ใครจะกล้าเรียนต่อศัลย์กัน อุดมการกับคุกมันชิดกันเกินไป
ผมเป็นพ่อยังลุ้นให้ลูกคิดให้ดีๆเลย มันคิดตาลปัตรกันไปหมดแล้ว เป็นคุณ คุณจะคิดอย่างไร
มันน่ากลัว 
 
 
 ความคิดเห็นที่ 40 +5       
 
 หมอเขาออกมา กอยากออกมารักษาคนไข้ทั้งนั้น แต่พอเจอความเป็นจริง ความชั่วของคนไข้และญาติบางคน ก็ทำกำลังใจหดหาย สิ่งดีๆ ที่เคยทำมาพังป่นปี้ไม่มีเหลือ เพราะความเห็นแก่ได้ของคนบางคน แล้วพอพิสูจน์แล้วว่าไม่เป็นจริง สิ่งที่เสียไปก็เอากลับคืนมาไม่ได้

คนที่ถามว่ามาเรียนทำไม คงต้องตอบด้วยคำตอบว่า มาเรียน เพราะไม่รู้ว่าจะต้องมารักษาคนอย่างพวกคุณ
444   
 
 ความคิดเห็นที่ 39 +11       
 
 ผมอ่านแล้วเห็นด้วยกับหลายความเห็นขอสรุปนะครับ
1. ตอนมาเห็มหมอเป็นพระเจ้า ต้องหาย พอไม่หาย อ้าวไอ้นี่มัน ฆาตรกร
2. คนไทยยังไม่เข้าใจสัจธรรม ทุกข์สิ่งมีเกิด และมีดับ ไม่มีใครมีชึวิตนิรันด์ แม้แต่โอบามา
3. ใครเคยทำงาน 24 ชั่วโมงบ้างเป็นอย่างไง มันเหนื่อยมาก ผมก็คนต้องพักผ่อนเหมือนกัน
4. คนไข้บางคนยังไม่เห็นใจ มารักษาหวัดไอ ก็มาตอน 22.00 น. กะจะไม่ให้ผมพักผ่อนหรือไง ถึงจะได้ค่าเวร แต่ขอดูแต่ ผู้ปวยฉุกเฉินได้ไหม
5. แต่ละคนมา รพ. ขอยาอย่างเดียว จะไปเปิดคลินิกไหม รพ.ผมติดหนี้ 20 ล้านบาท ไม่ให้ยาตามขอก็โกรธ เห็นผมเป็นคนแจกยาหรือไง
6. มากันล้นโรงพยาบาล ต้องการตรวจเร็ว ๆ พอรอนานก็บ่น พอผมตรวจเร็วก็บอกว่าไม่ละเอียด จะเอาอย่างไร
7. คนที่บอกว่ามาเป็นแพทย์ควรเสียสละ คุณลองไม่พักผ่อนติดกันเป็น ปีแล้วจะรู้ว่าการได้หลับคือความสุขทึ่สุด แต่ถ้าคุณไม่หลับได้ ขอยกย่องเป็น ซอมบี้
8. กุทำมืงตาย มืงฟ้องกุหมดตัว
กุทำมืงหาย ไม่เห็นมืงยกบ้านช่องให้กุบ้าง
9. ทำไมไม่มีใครฟ้องปอเต็กติ้งบ้างว่า มารับผู้บาดเจ็บช้า
10. คนไข้แผนกศัลย์และอายุรกรรมมีขี้เหล้าประมาณ 10-20 เปอร์เซ็นต์ ไม่ว่าจะเป็น คนไข้อุบัติเหตุ คนไข้ตับแบ็ง คนบ้า เลือดออกทางเดินอาหาร ตัวคุณเองยังไม่รัก ญาติก็ไม่ห้ามดื่มเหล้า พอป่วยมาก็จะให้ก็ชุบชีวิต โรงพยาบาล ไม่ใช้บ่อน้ำใน dota นะเฟ้ย
11. แด่คนบริจาคเลือดทั้งหลาย เลือดของคุณ ส่วนใหญ่ ใช้ให้กับผู้ดื่มเหล้าครับ (เลือดออกทางเดินอาหาร อุบัติเหตุ) อาจมีบางส่วนหน้าให้ เช่น ทาลัสซีเมีย
12. พอแล้ว เดี่ยวบ่นมากจะหาว่ากูมาเป็นแพทย์ทำไม
* ขออภัย ผมก็มนุษย์ ขอใช้ คำว่า กู
หมอชนบท
dd 

[story]

ความคิดเห็นที่ 38 +1       
 
 ถ้าโรงพยาบาลอำเภอ ไม่ทำการผ่าตัด เพราะมีความเสี่ยงในการฟ้องร้องสูง ทำหน้าที่เพียงส่งต่อคนไข้ เราสามารถแก้ปัญหาโดยปรับระบบการผลิตแพทย์เป็นสองทางได้ไหมครับ ขอถามผู้รู้ด้วยครับ กล่าวคือ ผลิตแพทย์ชั้นหนึ่ง เฉพาะทาง และให้บรรจุอยู่ในโนงพยาบาลศูนย์ และผลิตแพทย์ชั้นสอง เป็นแพทย์ทั่วไป ทำเวชปฏิบัติได้เฉพาะกรณี และให้บรรจุอยู่ตามโรงพยาบาลขนาดเล็ก ซึ่งผมอยากเรียกว่าแพทย์ชนบท เอาคนที่เก่งพอสมควรที่อยากเรียนแพทย์ แต่สอบคาบเส้น มาเรียนและฝึกอบรมให้เป็นแพทย์ทั่วไปที่ดี แต่จำกัดการปฏิบัติทางด้านเวชปฏิบัติได้เฉพาะกรณี ในกรณีนี้คิดว่าสถาบันการศึกษาอีกหลายแห่ง คงพร้อมที่จะให้ความร่วมมือในการผลิตแพทย์ชนบทมากขึ้น ส่วนพวกเรียนเก่งๆ เข้าขั้นเทพ ก็ให้ไปเรียนตามมหาวิทยาลัยที่เป็นศูนย์การแพทย์ใหญ่ๆ ให้หมด แล้วให้บรรจุด้วยอัตราเงินเดือนพิเศษ เพื่อเป็นแรงจูงใจในการทำงาน และให้มีรายได้สมน้ำสมเนื้อกับความเหน็ดเหนื่อย และความรับผิดชอบที่สูง พวกนี้จะเป็นแพทย์ชั้นหนึ่งเฉพาะทาง เช่นศํลยแพทย์ประสาท เป็
นต้น และควรได้รับการดูแลและคุ้มครองเป็นพิเศษทางด้านกฏหมาย เพื่อเป็นการคุ้มครองที่ต้องทำงานกับความเสี่ยง ผมไม่มีความรู้เรื่องแพทย์ ใครรู้ช่วยบอกทีว่า วิธีแบบนี้จะแก้ปัญหาขาดแคลนแพทย์ลงไปได้บ้างไหม
บูรพา 
 
 
 ปกติแพทย์เฉพาะทางต้องผ่านเป็นแพทย์ในชนบทก่อนครับ หาประสบการณ์
cc

 ถ้ามันทำง่ายอย่างที่คิด
ปัญหามันก็คงแก้ได้ง่ายๆแล้ว
น้ะ
 
 
 ความคิดเห็นที่ 37       
 
 เหตที่ขาดแคลนก็เพราะว่ามันเรียนยากลำบากน่ะครับ
เรียน แพทย์แผนโบราณดีกว่าครับ....555...!!
Kulsiri 
 
 ความคิดเห็นที่ 36       
 
 อย่าไปนึกว่าการผ่าจะทำให้รอดเสมอไป

การผ่าสามารถทำให้คนที่ไม่สมควรอยู่...ดันรอดอยู่เป็นภาระของครอบครัวหรือสังคม ก็ยังได้นะ...ยิ่งเสียงบประมาณอีกมหาศาล
ให้คนที่ดื่มเหล้าแล้วมีอุบัติเหตุตายไปซะมั่งจะได้ลดโลกร้อน 
 
 
 ความคิดเห็นที่ 35       
 
 บอกทักษิณซิจ๊ะ ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ สบายมากไม่เคยได้ยินหรือจ๊ะ
ปู แดดเดียว 
 
 
 ความคิดเห็นที่ 34 +1       
 
 ...น่าจะมีโครงการณ์นักเรียนแพทย์แบบนอกระบบ...คือคัดเลือกเด็กที่สอบเอนทรานต์ไม่ติด แต่เลือกแพทย์ แล้วคะแนนสอบไม่เลวร้ายมาก มาสัมภาษณ์ดูอีกครั้งถึงความตั้งใจในการเป็นหมอ...ลองเปิดใ้ห้คนเหล่านี้ได้เรียนดูบ้างสินะ
หมอคอมพ์ 
 
 
 แล้วก็ลองให้รักษาคุณเป็นคนแรก
น่าลอง
 ทำได้ แต่มันไม่ทำหรอก เพราะไม่ใช่ลูกหลานมันงัย เด็กไทยเก่งๆมีเป็นเข่ง แต่พลาดโอกาสเรียน ไปเรียนกฏหมายราม 2ปีครึ่งจบ หัวมันดีจริงๆ ไปสอบเป็นศาล เป็นอัยการติดกันเป็นแถว
ไม่เสียใจที่สอบหมอไม่ได้ แต่สอบเป็นศาลได้
   
 
 การสาธารณสุขไทยความจริงก็พัฒนามา50-60ปี รพ.อำเภอผ้าตัด ไส่ติ่ง ผ่าคลอดได้ 10ปีก่อน มีคนอย่าจะเปลี่ยนระบบใหม่ ปัจจุบัน รพ.อำเภอเลิกผ่าตัดกันหมด เกือบจะกลายเป็นสถานีอนามัย คนคนนั้นทนดูความล้มเหลวไม่ได้ ชิงลาโลกไปเสียก่อน แต่ก็ดีนะปัจจุบัน เรามี รพ.สต. แล้วนะ สลับกับรพ.อำเภอ
สุขภาพทั่วหน้า คุณภาพต่ำ
 

 คนเรียนเกงก็ใช่ว่าจะทำแพทย์ที่ดีเสมอไป
md

 ความคิดเห็นที่ 33 +1       
 
 ด้วยระบบปัจจุบัน ไม่แปลกใจที่หมอจะกลัวที่จะรักษา เพราะรู้อยู่แล้วว่าผ่าแล้วโอกาส เสี่ยงสูง ... เพราะคนไทย โดยเฉพาะเครือข่าย"จ้องฟ้องแพทย์" ...ต้องการอเมริกันสแตนดาร์ด ในเรื่องการรักษาพยาบาล ในประเทศที่งบประมาณ เป็น เมียนมาร์สแตนดาร์ด
หมอคนหนึ่ง 
 
 
 ความคิดเห็นที่ 32       
 
 ชมรมฟ้องหมอ
ก็น่าเบื่อสุด ๆ
ทนายทั้งหลายไปทำคดีอื่นเถอะ
อย่าหากินกับแบบนี้เลย
jane 
 
 ความคิดเห็นที่ 31 +3       
 
 ศัลยแพทย์สมอง

เมื่อก่อนสอบบอร์ดตก ปีๆหนึง 30%

มันเป็นสาขา ที่หมอด้วยกันจะยกให้เป็น

สุดยอด ของ สุดยอด ความยากแล้ว

แล้วกว่าจะเป็นสุดยอด ของศัลยแพทย์ปราสาท

ต้องใช้เวลาอีก ร่วมๆ 10 ปี(เรียนตอน 25 ไปเก่ง

เอามากๆ เกือบ 40 ว่างั้นเหอะ)

จะคลาดแคลนก็ไม่แปลก อะไร
อย่าเพิ่งเชื่อ.. 

 ความคิดเห็นที่ 30       
 
 ถ้าผ่าตัดสมอง ผมไม่เข้าโรงพยาบาลรัฐแน่นอน กว่าจะรอให้หมอว่าง กับมีเตียงว่าง ก็ตายพอดี ตอนนี้ต้องเก็บเงินเอาไว้ให้พอ เผื่อจำเป็นต้องใช้
อ้วน 
 
 ความคิดเห็นที่ 29       
 
 เคยไปโรงพยาบาลรัฐแล้วเห็นว่าหมอทำงานหนักมาก แพทย์ที่จบใหม่ไปประจำตามต่างจังหวัดต้องตรวจคนไข้วันละกว่าร้อยราย คงเป็นอย่างนี้มานานแล้ว เพราะรมต. สาธารณสุขของเรามันล้วนแต่มีเส้นนักการเมืองทั้งนั้น ไม่เคยมีความรู้เรื่องสาธารณสุขมาก่อน เขาให้มาเป็นรมต. ก็รีบ ๆ รับ ความคิดอ่านระดับชาติไม่มีเลบ
อ่อน 
 

 ความคิดเห็นที่ 28       
 
 ไม่เคยเห็นแพทย์หญิงผ่าตัดบ้างเลย คงเป็นแต่หมอเด็ก หรือจิตแพทย์ อายุรกรรม ควรจะส่งเสริมให้เรียนผ่าตัดเพิ่มขึ้น เพราะปัจจุบันสัดส่วนหญิงเรียนแพทย์มากกว่าชาย
วิเคราะห์
 
 มีครับ ผู้หญิงเรียนศัลย์

ผมยกให้เป็นยอดหญิงเลย
1234
 
 เห็นแล้ว ที่รพ.จุฬา
มีน้องใหม่ที่กำลังเป็นแพทย์ประจำบ้านศัยกรรมอย่างน้อย 4 คน
สวยมากทุกคนซะด้วย
จะรอดูว่าใครจะกล้าฟ้องเทพีกระบี่สายฟ้าเหล่านี้บ้าง
คนนนท์
 
 เยอะแยะ
ไม่เคยเห็นไม่ใช่ไม่มี
----
   
 ความคิดเห็นที่ 27       
 
 ใครเรียนด้านนี้ก็โง่แล้ว เรียนหนักผ่าสมองฟรี หรือแค่30บาท พลาดก็โดนฟ้องหมดตรูด
คนเก่งแต่โง่ถึงเรียนด้านนี้ 
 
 แล้วเคยมีคดีที่ฟ้องหมอผ่าตัดสมองแล้วชนะหมอ...มีมั่งมั้ย
ไม่เคยมี...ซักคดี!
คนนนท์

 แสดงว่าศาลยังสถิตยุติธรรม
แต่ความเสียชื่อเสียงเสียสุขภาพจิต มันเอาคืนได้หรือเปล่า
444
 

 ยังไงตูก็เชื่อหมอมากกว่า
เข้าใจ๊

 
 ความคิดเห็นที่ 26 +4       
 
 จะบอกว่าที่โรงพยาบาลศูนย์ โรงเรียนแพทย์ไม่รับคนไข้ ไม่ใช่กลัวเรื่องฟ้องนะครับ อย่าเข้าใจผิดกัน ทุกที่พยายามรับเท่าที่ศักยภาพเขาทำได้ให้ดีที่สุด แต่เพราะเคสทางโรคนี้ ผ่าตัดเสร็จ ไม่ใช่วันรุ่งขึ้น เดินได้ ออกจากโณงพยาบาลได้ ต้องนอนพักฟื้นกันเป็นเดือน บางคนต่อใส่ท่อช่วยหายใจ นอนห้องไอซียูกันเป็นเดือน ๆ กว่าจะออกมาได้ เพราะฉะนั้นเตียงเต็ม ไม่ใช่เรื่องแปลกเลย เพราะมันล้นจริง ๆ ไม่ใช่ว่าเรากลัวเรื่องฟ้องร้องแล้วจะพาลไม่รับคนไข้รักษา ทุกชีวิตมีค่า เรารักษากันเต็มที่ แต่ศักยภาพ การรองรับผู้ป่วยมันทำได้เท่านี้จริง ๆ
อิอิ 
 

 ขอบคุณที่เล่าข้อเท็จจริงให้ฟังนะครับ
พธม คันนายาว

[story]

ความคิดเห็นที่ 25       
 
 น่าจะให้มีการผลิตแพทย์เพิ่มอีกนะคับ ให้เอกชนร่วมผลิต เหมือน วิศว แล้วก็สุดท้ายถ้าไม่เก่งจริง ก็คงสอบใบประกอบวิชาชีพไม่ผ่าน เอาใบประกอบวิชาชีพ เป็นตัววัดด้วยไม่ใช่หรอ แต่นี่เล่นคั้นกันตั้งแต่ สอบเข้ามหาลัยเอาระดับเทพทั้งนั้น สุดท้ายก็ไปอยู่เอกชนกันหมดใครมั่งไม่อยากทำงานสบายแต่รายได้มากๆ
ko-1111@hotmail.com 
 
 
 ขนาดรับเฉพาะคนที่คัดมาแล้วยังมีคนสอบตก
ถ้าเอาใครก็ได้มาเรียน พอครบ 6 ปีแล้วมาสอบใบอนุญาตสมมติว่าสอบตกครึ่งหนึ่งสอบผ่านครึ่งหนึ่ง คิดหรือว่าจะไม่มีแรงกดดันมาบังคับให้ยอมอนุมัติให้จบเยอะ ๆ
ผู้ปกครองที่จ่ายเงินค่าเล่าเรียนและรอว่าลูกตัวเองกำลังเป็นหมอ หรือคนที่อยากให้มีหมอเยอะ ๆ ก็ต้องอ้างว่ารัฐเสียเงินผลิตไปแล้ว
ส่วนคนที่เรียนหมอ 6 ปี คนใกล้ตัวก็รู้ว่ากำลังเรียนหมอแต่สุดท้ายสอบไม่ผ่านจะให้ไปทำอะไร
ในที่สุดก็ต้องยอมให้จบ ๆ ไปเยอะ ๆ และตามมาด้วยคุณภาพการรักษาที่ลดลงและการฟ้องร้องไม่หยุดหย่อน
อย่ามักง่าย
 
 
 ความคิดเห็นที่ 24       
 
 เพราะนโยบายประชานิยม รายได้ของหมอเพิ่มไม่ใช่หนทางแก้ไขขาดแคลนหมอ บางครั้งหมอก็ต้องการเวลาพักผ่อนเหมือนกัน เห็นโรงพยาบาลรัฐแล้วสงสารหมอจับใจ ที่มีหมออยู่ตามโรงบาลรัฐนั้นก็เพราะจิตวิญญาณที่อุทิศให้ประชาชน ส่วนหมอใหม่ก็เป็นหมอใช้ทุน ก็ต้องเพิ่มอัตรากำลังของหมอเพิ่มมากขึ้น ( อีกทั้งยังมีพวกต่างดาวที่อยู่ในไทยอีก )
คนเชียงใหม่ 
 
 
 ความคิดเห็นที่ 23 +3       
 
 ลูกเรียนจบแพทย์เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง เรียนต่อเป็นผู้เชี่ยวชาญ รพ เอกชนเสนอให้เงินเดือนขั้นต่ำ สองแสนบาท ถ้าทำได้มากกว่านั้นก็เอาไป แต่ลูกอยากรับราชการ กินเงินเดือน 2 หมื่น ไม่ยอมรับ เพราะไม่มีอัตรา ตอนนี้ยังตกงาน เพราะไม่อยากไปทำเอกชน รัฐบาลเอาเงินที่จะจ้างหมอไปไหนหมด
แม่หมอ 

 ความคิดเห็นที่ 22 +39       
 
 ไม่นานมานี้ มีคนไข้สูงอายุมาที่ รพ ศิริราช ตอนมาถึงไม่มีสติแล้ว อยู่ในสภาพตับวายเพราะดื่มเหล้ามาก หมอทุกคนลงความเห็นว่าคงไม่รอดแน่นอน เพราะตับเสียไปหมดแล้ว โชคดีคืนหนึ่งมีคนไข้อุบัติเหตุสมองตาย และญาติขอบริจาคอวัยวะให้ หมอทั้ง รพ วิ่งวุ่นกันทั้งคืน เพื่อเอาตับมาเปลี่ยนให้ลุงแก่คนนั้นที่ใกล้ตายเต็มทน ผลปรากฏว่าคนไข้รอดชีวิตฟื้นคืนสติขึ้นมาได้ และพอพบว่าฟันหักไป 2 ซี่ ระหว่างหมอดมยาง้างปากเพื่อใส่ท่อหายใจระหว่างผ่าตัด (ฟันแกก็โยกอยู่ก่อนแล้ว) แกก็โวยวายจะฟ้องหมอให้ได้ เรียกเงินมากมาย ทั้งๆที่ผ่าตัดเปลี่ยนตับไม่เสียเงินสักแดง เพราะเป็นผู้ป่วยอนาถา นักศึกษาแพทย์สงสารอาจารย์มากเลยไปบอกคนไข้ว่า หมอจะชดใช้ค่าเสียหายให้ตามที่ต้องการ แต่ขอตับใหม่คืนนะ คนสมัยนี้เห็นแก่ได้ จะเอาอย่างเดียว ไม่ยอมเสีย
หมอศิริราช 
 
 
 ผมมีสิทธิที่จะไม่อนุญาตให้นำเงินภาษีของผมไปรักษาพวกที่รักษาโรคจากการดื่มสุราและสูบบุหรี่ได้ไหมครับ?
เอาไปรักษาโรคอื่นๆ ยังดีกกว่า
   
 
 อ่านแล้วเศร้าค่ะ คนพวกนี้แหละค่ะที่เป็นผู้ป่วยส่วนใหญ่ของโรงพยาบาลรัฐเพราะยากจน ที่ดีคงมี แต่ที่เห็นแก่ได้ก็มาก ขอให้กำลังใจคุณหมอทุกท่านที่ทำหน้าที่อย่างเข้มแข็งค่ะ สำหรับคุณลุงนั่นถ้าได้รับการชี้แจงแล้วยังอยากเรียกร้องอีก คงต้องบอกลุงว่าขนาดชีวิตคุณเอง คุณยังทำให้ตัวเองไม่มีคุณค่าเลย นับประสาอะไรกับฟันสองซี่ ตอนมีชีวิตเอาแค่ฟันโยกจะหัก มีเงินไปรักษารึเปล่า ก็เอาไปซื้อเหล้าหมดแล้วจะมาโทษใคร
เห็นใจคุณหมอ
 
 
 ความคิดเห็นที่ 21       
 
 นักการเมืองมันคิดได้แค่
ขาดหมอเหรอ ก็ผลิตเพิ่มสิ
ร.ร.แพทย์ที่มีอยู่ผลิตเต็มที่แล้วเหรอ ก็ให้เอกชนเปิดเพิ่มสิ
ดีไม่ดี อีกหน่อยอาจมีหมอจบรามคำแหงหรือมสธ.ก็ได้
ไอเดียบรรเจิด 
 
 ความคิดเห็นที่ 20 +3       
 
 ต้นเหตุ มาจาก "กฎหมายไทย" ที่ "จับหมอเข้าคุก"

ในกรณีที่ แพ้คดี Medical malpractice
คนยิ่งฉลาด ยิ่งไม่ยอมเสี่ยง 
 
 ความคิดเห็นที่ 19 +5       
 
 คนเรามีเกิดแก่เจ็บตาย ถึงคราวตายก็ตาย จงใช้ชีวิตอยู่ด้วยความไม่ประมาทเถิด พ่อดิฉันอายุ70ปี มีโรคความดันสูงและไขมันสูงและเบาหวาน เส้นเลือดในสมองแตกใหญ่ขนาด10ซม.แพทย์ไม่แนะนำให้ผ่าตัดเพราะโอกาสน้อย แต่น้องชายขอเลือกที่จะให้หมอผ่า สุดท้ายพ่อก็ไม่ฟื้น แต่อยู่เป็นเจ้าชายนิทราอีก3-4เดือน ระหว่างนี้ลูกๆช่วยกันทำบุญแทนท่าน จนท่านเสีย เรื่องนี้ต้องการบอกว่า การตัดสินใจอย่างไรขึ้นกับคนไข้และญาติ ส่วนผลจะเป็นอย่างไรขึ้นกับหลายปัจจัย อย่าคาดหวังให้สูงเกินไป ถ้าเรามีหมอแค่นี้ก็คือมีแค่นี้ หมอรุ่นใหม่ๆปีละ2000คน คงจะมีสักกลุ่มที่ชอบการผ่าตัดสมอง ขอให้กำลังใจหมอศัลย์ค่ะ
ทามะ 
 
 
 ผมเชียร์ข้างหมอเพราะเชื่อว่ามีใจต้องการช่วย
แต่มนุษย์แต่ละคนมีความซับซ้อนของกายต่างกันไป
ไม่ใช่จะรักษาได้อย่างปกติทุกราย
แถมยังขึ้นกับอะไรอีกมากมาย
เบื่อบรรยายแล้ว
 

 ความคิดเห็นที่ 18 +1       
 
 ผมว่าที่คนเรียนผ่าตัดสมองน้อยเพราะมันเรียนยาก และต้องเป็นคนเก่งมากๆซึ่งหาคนเก่งระดับนี้มีน้อย ไม่เกี่ยวกับเรื่องโดนฟ้องหรอก มันเป็นข้ออ้าง หมอที่สาขาโดนฟ้องทั้งนั้น แต่คนส่วนใหญ่ที่เลือกเรียนด้านความงามเพราะเรียนง่ายหาเงินได้เร็ว
อ 
   
 
 มีใครทำงานแล้วไม่เคยพลาดมั๊ย พลาดครั้งเดียวหมดตัว ใครจะไปทำ
abcd
 

 ความคิดเห็นที่ 17 +3       
 
 คนเรียนแพทย์ หันไปเรียนผิวหนังกันเยอะแยะ จบแล้วรวย เปิดคลีนิคเสริมความงาม
จริยธรรมที่เปลี่ยนไป 
 
 
 ความคิดเห็นที่ 16 +1       
 
 ไปเอารายชื่อรมต. กระทรวงสาธารณสุขในอดีตหลาย ๆ คนที่ผ่านมาว่ามีใครบ้าง เริ่มตั้งแต่หมอเลี้ยบ สงสัยมันไม่เคยไปตรวจดูโรงพยาบาลต่าง ๆ เลย นั่งเฝ้าตำแหน่งอยู่แต่ในกรุงเทพฯ จะได้ใกล้ชิดนายกฯ วิธีแก้ก็คือให้ครม. ไปพักในจังหวัดที่ไม่มีหมอผ่าตัดสมอง แล้วห้ามไปหาหมอที่จังหวัดอื่น มันจะได้รู้สึก
กระจก 
 
 ความคิดเห็นที่ 15 +1       
 
 ที่เด่นมาก คือ ตรงแยกปากเกร็ดมีบริการผ่าสมอง 24 ช.ม.
อยากให้นักการเมืองไปใช้บริการให้ครบทั้งสภาฯ
 ความคิดเห็นที่ 14       
 
 มีลูกเรียนอยู่ บอกลูกเลยว่าไปทำเอกชนเถอะ
หมอ กับ ข้าราชการพลเรือนอื่นราชการจ้างเงินเดือนเท่ากัน หมอฟัน ไม่ต้องอยู่เวร ไม่มีฉุกเฉินไม่ต้องชันสูตรศพ ไม่เสี่ยงการถูกฟ้อง ได้รับเงินช่วยเหลือเท่าหมอ ห่วยแตกครับ ระบบแบบนี้คุณหมอสัมพันธ์จะแก้ปัญหาอย่างไรจึงจะเป็นธรรม ปัญหาที่เกิดจากเลขาสภาคนเก่าสร้างไว้ให้ ยกเลิกข้อตกลงเบาปัญญาได้ไหม เขาว่าสมัยนั้นเลขาสภาชื่อ ประมวล ลองดูสิครับว่าจริงไหม
Thai 
 
 
 ไปเถอะ เพราะคุณสอนลูกให้เห็นแก่เงินอย่างเดียว ไม่สอนลูกให้เสียสละเพื่อสังคม

พูดง่ายๆว่าสอนลูกให้เห็นแก่ตัว

คนแบบคุณเป็นข้าราชการของพระเจ้าอยู่หัวไม่ได้หรอก ไปเป็นแพทย์พาณิชย์อยู่ตามโรงบาลเอกชนน่ะดีแล้ว
รัฐบาลของพระเจ้าอยู่หัว ไม่ทอดทิ้งประชาชน
   
 
 ขอใช้สิทธิ์พาดพิงครับ แพทย์ซักกี่คนที่ทำ operation ครับ แต่ทันตแพทย์เกือบทุก case เป็น operation นะครับ และแพทย์ที่ทำ operation ก็ไม่ต้องออกไปชันสูตรครับเนื่องจากภาระงานที่หนักอยู่แล้ว นอกจากนี้แพทย์ที่ต้องทำ operation ตอนเข้าเวรก็เป็นแพทย์ประจำบ้านครับซึ่งถ้าเป็น operation ใหญ่ๆ ก็ต้องเตรียมการเพื่อรอแพทย์ผ่าตัดระดับอาจารย์หรือแพทย์ประจำมาทำ ไม่ได้มีทุกคืนครับ คุณไม่เข้าใจวิชาชีพอื่นก็ไม่ควรหลงคารมลูกคุณซึ่งเรียนยังไม่จบ ยังอ่อนหัดอยู่มากแล้วไปล่วงเกินคนอื่น ผมขอตำหนิคุณครับ
ข้าราชการทันตแพทย์
 
 
 ความคิดเห็นที่ 13       
 
 ไม่เกี่ยวกับหมอ แต่ขอพูดถึง "อาชีพพยาบาล"
คนเรียนเต็มล้นไปหมด เคยพูดคุยกับคนเรียนทำให้ทราบว่า สถาบันเอกชน แค่กำเงินมา 4 หมื่น อ่านหนังสือไม่ออกเขียนไม่เป็นก็เข้าไปเรียนได้ โอ้วพระเจ้า เกินไปมั้ยเนี่ย ตกลงมันไม่ต้องสอบคัดคนใฝ่เรียนเข้าไปเรียนกันแล้วเหรอ สก๊อย แว๊น พ่อ แม่ รวยมีตัง ก็ยัดเงินส่งลูกไปเรียนกันได้ จริงอะ
อยากเป็นคนช่วยหมอ 
     
 
 สอบใบประกอบวิชาชีพไม่ผ่านจ้าาาาา....ประเมินการปฏิบัติงานเป็นพยาบาลวิชาชีพก็ไม่ได้....สอบต่อใบอนุญาตทุก 5 ปี ก็คงไม่รอด....สุดท้ายคงต้องเป็นแค่เด็กศูนย์เฝ้าไข้...กรณีเปิดเรียนพยาบาลแล้วที่เรียนไม่ผ่านมาตรฐานก็มีให้เห็นอยู่....ข่าวดังจะตายไป
paipa05 สมาชิก 
 
 
 ความคิดเห็นที่ 12 -2       
 
 "เมื่อเทียบกับประชากรชาวไทยในปัจจุบันที่มีอยู่ราวๆ 70 ล้านคนเท่ากับว่าแพทย์ผ่าตัดสมองหนึ่งคนต้องดูแลผู้ป่วยทั่วประเทศถึง 280,000 คน"

คิดแบบนี้แสดงว่า 70 ล้านคนป่วยและต้องผ่าตัดสมองทุกคนหรือ
ุไม่น่าจะถูกต้อง
 อัตราการเกิดโรคใหม่อยู่ท่ีประมาณ 3 คนต่อประชากรหม่ืนคนต่อปีครับ แต่เป็นตัวเลขของต่างประเทศ. บ้านเราน่าจะสูงกว่าเพราะคุมความดันไม่ดี. กินเหล้ากระจาย กะคร่าวๆน่าจะอยู่ท่ี ปีละ8000คน
สปสช
 
 กินดีอยู่ดี เหล้า บุหรี่ Junk food ไขมัน ความเครียด...หลอดเลือดสมองคงหาดียากอยู่ เหมือนท่อหรือสายยางมีตะกรันเกาะแหละ รูตีบแคบ แรงดันสูง แข็งและรอวันแตก...
ถ้าโชคดีก้อตายเลย ถ้าโชคร้ายอัมพาต ...
ถ้าโชคดีผ่าตัดแก้ไขได้เร็ว FAST TRACT.... โชคร้าย เป็นอัมพรึก อัมพาต ...ภาระเลี้ยงดูอยู่ที่ใคร
จ้างเด็กศูนย์เฝ้า ค่าจ้างต่อเดือนร่วมหมื่น...ไม่นับอุปกรณ์การดูแลอีกหลายพัน...หมอสมองจึงสำคัญฉะนี้แล.....ขอบอก
paipa05 สมาชิก

 ความคิดเห็นที่ 11 +1       
 
 เรียนแพทย์ไม่ต้องใช้เด็กเก่งมากหรอกครับ เราเคยมีการรับแพทย์ชนบท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพวกลูกท่านหลานเธอที่สอบเข้าแพทย์ไม่ได้ แต่อาศัยเส้นสายก็สามารถเข้ามาเรียน และสามารถเรียนจนจบได้และมีคุณภาพด้วย แต่อย่างว่าล่ะครับมาจากครอบครัวคนรวย พอจบออกมาก็หาทางเข้าสู่เมืองเพื่อหาเงิน
ฟฟ 
 

 ความคิดเห็นที่ 10 +46       
 
 คุณเก่งขนาดเรียนศัลย์ประสาทสมองได้ ไปอยู่เอกชนเหอะ จะมาลำบากอยู่รัฐบาลทำไม ดีไม่ดีถูกฟ้องอีก เหนื่อยทั้งกายและใจ

คนก็คิดว่าหมอคือพระเจ้าเสกชีวิตคนได้ โถ..กุก็คน จะเอาอะไรกะกุนักหนา รักษาสุดความสามารถแล้ว ไอ้ทนายก็ขยันเชียร์ให้ฟ้อง

กุทำมืงตาย มืงฟ้องกุหมดตัว
กุทำมืงหาย ไม่เห็นมืงยกบ้านช่องให้กุบ้าง
เมืองนอกไม่ยักเห็นหมอเป็นพระเจ้า 
   
 
 เห็นด้วยมากๆ
เวลารักษาหาย พวกมัน เงียบเป็นเป่าสาก
เวลาพิการ มันก็โวยเรียกค่าเสียหาย
เวลาพวกมันตายเรื่องใหญ่ เรียกท่านจนหมดตัว
อย่างนี้ ปล่อยๆมันบ้าง
อย่าไปจริงจังกับมัน
เรียนก็ยาก ใครว่าง่ายจะขอฝากสมองไปเรียนแทนไม่ดีกว่าหรือ
พูดนะ มันง่าย
พวกเมิง น่าจะมาลองเรียนดู
อย่าทำตัวเหมือนคนเชียร์มวย เชียร์แขกหมอนวด
เอาปากทำ มันง่าย ไอ้พวกส้นตีลทั้งหลาย ฟังเอาไว้
อย่าคิดว่า เอาเงินมากอง แล้วก็จะผลิตหมอได้ง่ายๆ
เหมือนผลิตยาคู้ลนะเมิง
เวลาเขารักษา พวกเมิง ทำตัวเป็นเทวดา
ต้องหาย ตายไม่ได้ พิการ กรูฟ้อง
ลูกไล่แม้วและนางปู
   
 
 ถึงเห็นว่าเมืองไทยต้องปลูกฝังการเห็นประโยชน์ของผู้อื่นก่อนประโยชน์ส่วนตัวให้มากนะคะ ไม่งั้นเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้าแน่

เมื่อในสังคม ศีลธรรมเสื่อม ทนายยุให้ฟ้อง ศาลรับฟ้องเรื่องไร้สาระ เป็นสังคมที่ non sense เหมือนตะวันตก (เคยได้ยินเรื่องร้านที่ต้องเสียเงินค่าเยียวยาให้ลูกค้าที่ล้มขาหักในร้านเนื่องจากถูกลูกชายจอมซนของตัวลูกค้าเองวิ่งชนบ้างไหม งี่เง่าสุด ๆ)
888
 ตอบแแบบนี้ งั้นขอถามหน่อย

แล้วพวกเมิงมาเรียนหมอทำไม
แล้วพวกเมิงมาเรียนหมอทำไม
แล้วพวกเมิงมาเรียนหมอทำไม

ถ้าไม่ใช่ออกมารักษาคนไข้ แล้วเมิงมาเรียนทำไม กะจะกอบโกยอย่างเดียวเชิญไปอยู่เอกชนครับ อ้อ ขอบอกว่าถึงไปอยู่เอกชนรักษาสุ่มสี่สุ่มห้าก็ไม่ได้นะครับ ตายขึ้นมาฟ้องได้เหมือนกัน

เป็นหมอต้องมีประสบการณ์และเมตตาเป็นที่ตั้ง ทำเต็มที่คนไข้ตายเขาก็ไม่ฟ้องหรอก แต่ถ้าคิดจะมักง่าย ทำชุ่ยๆ เขาก็เล่นเอาสิ คิดว่าคนไข้กับญาติๆเขาโง่กันหรือ
หมอที่ไม่ใช่หมออย่าพวกเมิง

[story]

พวกคุณหมอก็กรุณาสื่อสารกับคนไข้และญาติคนไข้เยอะๆ ส่วนใหญ่ไปรักษารพ.รัฐ หมอไม่ค่อยอยากคุยกับคนไข้เวลาคนไข้ถามมากก็แสดงสีหน้ารำคาญ หมอไม่ใช่เทวดาจริงอยู่ หมอก็ต้องทำตัวแบบนี้ให้คนใข้รู้สึกด้วย เข้าใจว่าหมอรพ.รัฐงานหนักมากเราเห็นยังเหนื่อยแทน ขอบคุณคุณหมอหลายๆท่านที่เสียสละโอกาสดีๆ ตั้งใจทำงานรักษาคนไข้ที่รพ.รัฐ เคยเจอคุณหมอดีๆหลายท่าน ที่อัธยาศัยดีกับคนไข้
woodoopui@yahoo.com
 
 
 ผมอ่านแล้วเห็นด้วยกับหลายความเห็นขอสรุปนะครับ
1. ตอนมาเห็มหมอเป็นพระเจ้า ต้องหาย พอไม่หาย อ้าวไอ้นี่มัน ฆาตรกร
2. คนไทยยังไม่เข้าใจสัจธรรม ทุกข์สิ่งมีเกิด และมีดับ ไม่มีใครมีชึวิตนิรันด์ แม้แต่โอบามา
3. ใครเคยทำงาน 24 ชั่วโมงบ้างเป็นอย่างไง มันเหนื่อยมาก ผมก็คนต้องพักผ่อนเหมือนกัน
4. คนไข้บางคนยังไม่เห็นใจ มารักษาหวัดไอ ก็มาตอน 22.00 น. กะจะไม่ให้ผมพักผ่อนหรือไง ถึงจะได้ค่าเวร แต่ขอดูแต่ ผู้ปวยฉุกเฉินได้ไหม
5. แต่ละคนมา รพ. ขอยาอย่างเดียว จะไปเปิดคลินิกไหม รพ.ผมติดหนี้ 20 ล้านบาท ไม่ให้ยาตามขอก็โกรธ เห็นผมเป็นคนแจกยาหรือไง
6. มากันล้นโรงพยาบาล ต้องการตรวจเร็ว ๆ พอรอนานก็บ่น พอผมตรวจเร็วก็บอกว่าไม่ละเอียด จะเอาอย่างไร
7. คนที่บอกว่ามาเป็นแพทย์ควรเสียสละ คุณลองไม่พักผ่อนติดกันเป็น ปีแล้วจะรู้ว่าการได้หลับคือความสุขทึ่สุด แต่ถ้าคุณไม่หลับได้ ขอยกย่องเป็น ซอมบี้
8. กุทำมืงตาย มืงฟ้องกุหมดตัว
กุทำมืงหาย ไม่เห็นมืงยกบ้านช่องให้กุบ้าง
9. ทำไมไม่มีใครฟ้องปอเต็กติ้งบ้างว่า มารับผู้บาดเจ็บช้า
10. คนไข้แผนกศัลย์และอายุรกรรมมีขี้เหล้าประมาณ 10-20 เปอร์เซ็นต์ ไม่ว่าจะเป็น คนไข้อุบัติเหตุ คนไข้ตับแบ็ง คนบ้า เลือดออกทางเดินอาหาร ตัวคุณเองยังไม่รัก ญาติก็ไม่ห้ามดื่มเหล้า พอป่วยมาก็จะให้ก็ชุบชีวิต โรงพยาบาล ไม่ใช้บ่อน้ำใน dota นะเฟ้ย
11. แด่คนบริจาคเลือดทั้งหลาย เลือดของคุณ ส่วนใหญ่ ใช้ให้กับผู้ดื่มเหล้าครับ (เลือดออกทางเดินอาหาร อุบัติเหตุ) อาจมีบางส่วนหน้าให้ เช่น ทาลัสซีเมีย
12. พอแล้ว เดี่ยวบ่นมากจะหาว่ากูมาเป็นแพทย์ทำไม
* ขออภัย ผมก็มนุษย์ ขอใช้ คำว่า กู
หมอชนบท
 
 
 ความคิดเห็นที่ 9       
 
 แก้ปัญหาโดยผลิตประชากรออกมาเยอะ ๆ ครับคัดเอาจะให้คนไหนเรียน
.. 
 
 
 ความคิดเห็นที่ 8 +5       
 
 เด็กสมัยนี้ถูกฝังหัวมาให้เป็นดารานักร้องกันไปหมด
สมองฝ่อ
สมองฝ่อ 
 

 ความคิดเห็นที่ 7 -3       
 
 ขอให้ผู้มีอำนาจทั้งหลายช่วยกันหาทางแก้วิกฤตของการขาดแคลนแพทย์ด้วยการเพิ่มกำลังการผลิต และลดสเป็คของระดับคะแนนของนักเรียนให้ต่ำลงกว่าเดิม อาจใช้เวลา 6 ปีสำหรับเด็กเกรดเอจริง ๆ และอาจเผื่อเป็น 7-8 ปี สำหรับเด็กเกรดรอง คือ ประมาณว่าหาทางให้มันเป็นไปได้ให้ได้ รวมทั้งการเพิ่มจำนวนปีของการใช้ทุนและเพิ่มค่าปรับกรณีไม่อยู่ใช้ทุนด้วยค่ะ ใช้ทุนนานหน่อยพวกมีจิตสาธารณะจริง ๆ ก็คงไม่เกี่ยง เพราะยังไง ๆ ก็ต้องเป็นแพทย์ไปตลอดชีวิตอยู่แล้ว
ป.ล. ลูกสาวจะเอ็นปีนี้ อยากให้ได้เป็นสูตินรีแพทย์เพื่อให้ผู้หญิงได้แพทย์หญิงไว้ช่วยตอนคลอดลูก ตอนแรกดิฉันไม่อยากเสียสละลูกให้สังคมมากขนาดนั้น เนื่องจากก็รู้ว่าเรียนหนักและเสี่ยงถูกฟ้อง แต่พอเอาเข้าจริง ๆ ก็ทำใจยอมรับได้ เพื่อให้ลูกหลาน พธม ได้ทำงานเพื่อสังคมประเทศชาติในงานที่ยากสมกับสติปัญญาในระดับการเรียนที่เขาสามารถทำได้ เขาบอกดิฉันว่าถ้าให้เรียนเพราะได้เงินเยอะหนูไม่เอาเพราะมันหนักและยากมาก แต่ถ้าบอกว่าเพื่อที่หนูจะได้ช่วยคนอื่น ๆ หนูจะเรียนให้ได้ถ้าหนูสอบเข้าได้ เกรดเฉลี่ย 4 เทอมเขา 3.67 แถมไม่ใช่รร เตรียมฯ หรือ มหิดลฯ ก็เลยไม่รู้ว่าจะมีที่ว่างสำหรับเด็กที่มีจิตสาธารณะแบบนี้บ้างไหม
kay106 
 อาชีพแพทย์ไม่ใช่อาชีพที่ใครๆก็เรียนได้ เพราะเป็นอาชีพที่เกี่ยวกับความเป็นความตาย ต้องเป็นคนขยัน ฉลาดและต้องมีความเฉลียวด้วย จบแล้วต้องมีคุณภาพมารักษาคนไข้ได้ ยังต้องคัดเลือกมีระดับมาตรฐาน ไม่อย่างนั้นจะได้หมอไม่เก่งเต็มบ้านเต็มเมือง
ยา
 กระดูกมีกี่ชิ้น เส้นเลือดเส้นประสาทมีกี่เส้น กล้ามเนื้อมีกี่มัด ชีวเคมีในเลือด กลไกการทำงานในร่างกาย สารพัดสารเพ...ปกติเป็นอย่าง ผิดปกติเป็นอย่างไร...โรคสารพัด อวัยวะขัดข้องอันเดียว ทำให้รวนไปทั้งระบบ....ง่ายๆ ปวดท้องแบบนี้ ปวดโรคกระเพาะ หรือกรดไหลย้อน ปวดนิ่ว หรือถุงน้ำดี ไส้ติ่งหรือเปล่า ท้องนอกมดลูกไหม....ใช้ผล LAB ตัวไหน X-RAy CT MRI วินิจฉัยได้แล้วรักษาแบบไหนต่อ...ยาอะไร....โอยยยย มันยากกกกกกนัก ...ชีวิตคนมิใช่ผักปลา สุ่มสี่สุ่มห้าบ่ได้นะ....
paipa05 สมาชิก 
   
 
 ไปลบ เขาทำไมวะ ถ้าน้องเขาคิดดี ก็ขอเอาใจช่วยให้สอบได้เป็นหมอแล้วอย่าลืมปณิธานของหนูหล่ะ
woodoopui@yahoo.com
   
 พวกที่กดลบ มันสมองพิการงัย
สมองหมาปัญญา..นิรันกุน
 
 อีกหน่อยกรูจะรับเด็กอุเทนเด็กปทุมวันมาเรียนแพทย์ทุกคน
จบแล้วเป็นแพทย์ คนไข้จะฟ้องก็เจอตรีนพวกมัน

 ความคิดเห็นที่ 6 +16       
 
 30 บาทรักษาทุกโรค....ขาดงบลงทุนและพัฒนาสถานพยาบาล

ก.พ.มีมาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายในส่วนราชการ... ปัญหาการบรรจุข้าราชการสายสุขภาพค่อนข้างมีปัญหาและถือว่ายังมีความไม่แน่นอนค่อนข้างสูง... อายุเฉลี่ยของคนในระบบมากกกกก workloads >>>Turn over rate >>> เปลียนอาชีพ ลาออก....วิชาชีพขาดแคลน

3 M: man money material ขาดทั้งระบบ
+ กฎหมายไม่เอื้อต่อ“ความเป็นธรรมของคนที่พยายามช่วยชีวิตผู้อื่น” “งานหนัก เงินน้อย ฟ้องเรื่อย ตายเร็ว”

ภาวะการ “ส่งต่อ”คนไข้ไปยังโรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่มีความพร้อมมากกว่าเพิ่มขึ้น 2-3 เท่า
สปสช.ก็ไม่เคยออกมายอมรับหรือแก้ปัญหาดังกล่าวแต่อย่างใด

ปัญหาที่รู้ๆกันอยู่แล้ว...นโยบายสุขภาพเหมาโหลทั้ง กพ และ 30บาท

สุดท้าย.... คนไม่ใช่เครื่องจักรต้องการความรักและความเข้าใจ

คงต้องใช้หุ่นยนต์แพทย์ พยาบาลในการดูแลผู้ป่วย...มีงบลงทุนไหมล่ะ
paipa05 สมาชิก 
 
   
 
 ผมเป็นหมอผ่าตัดสมองครับ จบมาสักระยะ ทำงานรพ.รัฐบาล ภาระงานหนักอย่างที่บทความกล่าวไว้ (จริงๆแล้วอาจจะหนักกว่าด้วยซ้ำ) เหนื่อยมากครับ อยู่เวรแต่ละคืน ผ่าตัดตั้งแต่เย็นถึงดึก หรือทะลุเช้าเลยก็มี เหนื่อยใจด้วย ความคาดหวังของคนไข้สมัยนี้สูงเหลือเกิน บางคนเมา ขี่รถเร็ว เกิดอุบัติเหตุ มาถึงรพ. สภาพก็ร่อแร่เต็มทน หลังผ่าตัดไป แม้รอดตาย (ซึ่งก็ถือว่าโชคดีแล้ว) ก็ยังโวยวายว่าทำไมคนไข้ไม่ตื่น หมอเองก็ อยากถามครับ ว่าทำไมถึงกินเหล้าแล้วขี่รถ ทำไมไม่สวมหมวกนิรภัย ทำไมไม่เห็นใจคนที่อดนอนมาผ่าตัดคนที่ไม่รู้จักและตั้งใจดูแลต่อเนื่องให้ ถ้ากฎหมายใหม่ออกมาจริง หมอเก่าๆคงลาออกเพียบ หมอใหม่ๆ ก็ไม่มีใครเสี่ยงมาเรียน คนออกกฎหมายได้รับคะแนนเสียงเลือกตั้ง แต่คนเดือดร้อนคือประชาชนครับ
หมอศัลย์สุดเหนื่อย   
 
 กองทุนเยียวยาคนไข้ หมอไม่ต้องจ่ายรัฐจ่ายเอง รัฐจะได้ไปคุมคุณภาพและจรรยาบรรณของหมออีกที เห็นใจหมอดีๆต้องรักษาคนไข้ไปหวาดระแวงไปกลัวถูกคนไข้ฟ้อง
woodoopui@yahoo.com
 ความคิดเห็นที่ 5       
 
 ผมว่าประเทศอื่นๆหลายประเทศ ก็คงมีปัญหาคล้ายๆเราด้วยน่ะ
Bany 
 
 ประเทศเราจะไม่มีปัญหาแบบประเทศอื่นไม่ได้หรือ?
ไม่พูดจะมีประโยขน์กว่า   
 
 ไม่หรอก มีแต่ประเทศไทย เนื่องมาจากนักการเมืองเอี้ยๆ ที่ออกกฏหมาย โดยที่ตัวเองไม่เคยศึกษาค้นคว้าหาข้อมูล ดูอย่างเช่นไอ้ยิ่งลักษณ์พูดตอนหาเสียงจะให้เพิ่มเงินค่าแรงวันละ 300 บาทปริญญาตรีเพิ่ม 15000 บาท แต่ผลที่ออกมาจะเกิดอะไรขึ้น พูดหาเสียงให้ตัวเองได้เป็นนายก แต่ไม่เคยศึกษาว่าอะไรจะเกิดขึ้นจะแก้ไขอย่างไร มันก็จิกหายกันหมด แค่คิดเท่านี้ก็ปวดหัวแทนแล้ว ไหนค่าครองชีพจะสูงมากขึ้น บริษัทจะรับจ่ายค่าแรงไหวหรือ การปรับโครงสร้างผู้บริโภคก็ย่ำแย่ขึ้น
แม้แต่ค่าเล่าเรียนก็สูงตามตัว คำเดียวตายกับตายไม่เชื่อก็คอย
ดูก็แล้วกัน ทุกอย่างต้องโทษนักการเมืองเอี้ยอย่างเดียว
คิดก็โพส
 
 
 
 ความคิดเห็นที่ 4       
 
 ปัญหานี้แก้ยากมาก
จะทำโรงเรียนแพทย์เพิ่ม
ก็ขาดแคลนเงิน ขาดบุคลากรซ้ำอีก
ดีที่ มทส. เริ่มตั้งโรงเรียนแพทย์แล้ว
ถือเป็นทางเลือกหนึ่งน่ะครับ
Bany 
 
 
 ผมคนนึงล่ะที่ไม่เชื่อมือ
อิคคิว

 ความคิดเห็นที่ 3 +2       
 
 งั้นเราต้องป้องกันด้วยการรักษาสุขภาพให้ดีนะครับ ไม่ถึงมือห
 ถูกต้องที่สุด คือ ควรตายก่อนถึงมือหมอ อย่าทำให้หมอเดือดร้อน
คนเป็นหมอ
 

 มันอยู่ที่ vision ด้วย คุณเล่นให้หมอผ่าตัดสมองคนเดียวไปอยู่รับมือกับประชากร 280,000 ได้ยังไง คุณต้องเอาหมอมารวมกันก่อนให้ได้ที่ละ 4-5 คน หาเตียง หาตึก หาอุปกรณ์ หา ICU ให้เขา 3-4 จังหวัดในละแวกใกล้เคียงกันรวมกันเป็น node หนึ่ง จัดระบบส่งต่อที่ดี นอกจากหมอจะทำงานไม่หนักแล้ว ยังมีเวลาพัฒนาขีดความสามารถตัวเองให้รักษาโรคที่ซับซ้อนขึ้นได้ อันนี้เล่นให้ไปอยู่คนเดียวแค่ผ่าคนไข้เมาไม่ใส่หมวกกันน็อคก็เหนื่อยตายแล้วครับ อยู่ได้ไม่กี่ปีก็ต้องลาออกหรือย้ายเข้ากรุงเทพ
สยาม
 
 
 
 ความคิดเห็นที่ 2 -5       
 
 ในเมื่อเด็กเรียนเก่งมันเห็นแก่ตัวนักก็ไม่ต้องไง้อมันๆอยากจะไปตายโหงตายห่าที่เอกชนก็ไสหัวไปเลย(แต่จ่ายค่าปรับมาก่อนนะ)

แล้วรับคนที่มีจิตสาธารณะเพื่อสังคมมาเรียนแทน

คนที่ไหนอ่ะเหรอ เยอะแยะ พี่น้องพันธมิตรไง พวกกองทัพธรรมและโรงเรียนผู้นำของท่านพลตรี จำลองไง

คนพวกนี้รักชาติ เสียสละแน่นอน ไม่ต้องสงสัยเลย
บ
 จะไหวเหรอ ....มีจิตสาธารณะจริง (คิดว่า)ตัวเองเสียสละเพื่อชาติ .... แต่โง่ซะส่วนใหญ่เนี่ย ....จะไปเรียนหมอไหวเหรอ
คุณหมอ
 ผมโง่ เรียนซ้ำชั้น แต่อยากผ่าหัวกะโหลกชาวบ้านอย่างที่พี่ว่า ต้องทำอย่างไรบ้างครับ
อยากผ่า
 
 
 คน เงิน ของ ไม่พร้อม...ถูกฟ้องร้อง ตายสถานเดียว

เสี่ยงภัยกับเชื้อโรคยังพอสู้ไหว เสี่ยงภัยกับความไม่พร้อมของระบบ...มีแต่ตายและตาย ทั้งผู้ให้และผู้รับบริการแหละ
paipa05 สมาชิก 
 
 
 
 
   
 
 อยากผ่าหัวไอ้สนธิ
555
 
 
 ความคิดเห็นที่ 1       
 
 เเน่นอนที่สุดครับ ..
777 
 
 หรืออ่านตามลิงค์

http://www.manager.co.th/mgrWeekly/ViewNews.aspx?NewsID=9540000089665&Keyword=%c7%d4%a1%c4%b5%a2%d2%b4%e1%be%b7%c2%ec

[greengoview]

พวกคุณหมอก็กรุณาสื่อสารกับคนไข้และญาติคนไข้เยอะๆ ส่วนใหญ่ไปรักษารพ.รัฐ หมอไม่ค่อยอยากคุยกับคนไข้เวลาคนไข้ถามมากก็แสดงสีหน้ารำคาญ หมอไม่ใช่เทวดาจริงอยู่ หมอก็ต้องทำตัวแบบนี้ให้คนใข้รู้สึกด้วย เข้าใจว่าหมอรพ.รัฐงานหนักมากเราเห็นยังเหนื่อยแทน ขอบคุณคุณหมอหลายๆท่านที่เสียสละโอกาสดีๆ ตั้งใจทำงานรักษาคนไข้ที่รพ.รัฐ เคยเจอคุณหมอดีๆหลายท่าน ที่อัธยาศัยดีกับคนไข้