ผู้เขียน หัวข้อ: หวั่นคอตีบระบาดซ้ำ สธ.สั่งแพทย์ทั่วไทยเฝ้าระวังเต็มที่  (อ่าน 926 ครั้ง)

ABBA

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2105
    • ดูรายละเอียด
ปลัดกระทรวงสาธารณสุขไม่วางใจ หวั่นคอตีบระบาดซ้ำ สั่งแพทย์ทั่วประเทศทั้งรัฐ-เอกชนดูแลรักษาโรค พร้อมเฝ้าระวังเต็มที่...

เมื่อวันที่ 14 พ.ย. นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้กรมการแพทย์และสำนักงานสาธารณสุขฉุกเฉิน จัดประชุมเชิงปฏิบัติการแพทย์ บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข จากโรงพยาบาลรัฐและเอกชนทั่วประเทศ ที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ กทม. เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการวินิจฉัย การดูแลรักษา การเฝ้าระวัง และควบคุมป้องกันโรคคอตีบ ลดการเสียชีวิตของผู้ป่วยให้ได้มากที่สุด

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า โรคคอตีบเป็นโรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีน ประเทศไทยสามารถควบคุมการระบาดได้ดีในอดีต อย่างไรก็ตามปัจจุบันพบจำนวนผู้ป่วยโรคคอตีบมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น อาจจัดได้ว่าเป็นโรคที่ถูกลืมในเด็กและเป็นโรคติดเชื้ออุบัติใหม่ในผู้ใหญ่ สาเหตุที่ทำให้โรคนี้กลับระบาดได้อีก เนื่องจากประชาชน โดยเฉพาะผู้ใหญ่มีภูมิคุ้มกันต่อโรคค่อนข้างต่ำ รวมทั้งผู้ที่ไม่เคยฉีดวัคซีนคอตีบมาก่อน หรือเด็กที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคคอตีบไม่ครบตามเกณฑ์ จึงทำให้ภูมิคุ้มกันต่อโรคต่ำลง ซึ่งโรคคอตีบเป็นโรคติดเชื้อเฉียบพลันของระบบทางเดินหายใจ ติดต่อกันได้โดยตรงจากการไอ จามรดกัน หรือพูดคุยในระยะใกล้ชิด บางครั้งอาจติดต่อกันได้โดยการใช้ภาชนะร่วมกัน เช่น ดื่มน้ำแก้วเดียวกัน

ทั้งนี้ การพบผู้ป่วยโรคคอตีบในบางพื้นที่ ขณะนี้ต้องมีมาตรการด้านต่างๆ พร้อมรับมืออย่างทันท่วงที ทั้งด้านการตรวจวินิจฉัย การรักษาพยาบาล การเฝ้าระวังทางระบาดวิทยา การควบคุมและป้องกันโรค เพื่อป้องกันการเสียชีวิตให้ได้มากที่สุด จึงได้ทบทวนองค์ความรู้ และจัดทำแนวทางการวินิจฉัย การดูแลรักษา และการป้องกันการติดเชื้อจากผู้ป่วยโรคคอตีบถ่ายทอดให้แก่แพทย์ทั้งรัฐและเอกชน บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขให้มีประสิทธิภาพ เป็นมาตรฐานเดียวกัน เนื่องจากโรคนี้รักษาให้หายได้ด้วยยาต้านพิษ หรือแอนติท็อกซิน (antitoxin) และยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อ ซึ่งยังใช้ได้ผลดี มั่นใจว่าแนวทางที่ดำเนินการขณะนี้จะสามารถควบคุมโรคได้

ด้าน พญ.วิลาวัณย์ จึงประเสริฐ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า โดยทั่วไปโรคคอตีบมีอัตราป่วยตายประมาณร้อยละ 5-10 อาการแทรกซ้อนที่พบมักเกิดจากสารพิษที่เชื้อคอตีบสร้างขึ้น เรียกเอ็กโซทอกซิน (exotoxin) จะถูกดูดซึมผ่านเข้ากระแสเลือดไปทำลายอวัยวะต่างๆ เช่น หัวใจ ไต ตับ ทำให้เกิดอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ เสียชีวิตได้ บางรายพบอาการบวมของใบหน้าและลำคอ ซึมลง มักจะมีอัตราตายสูงมาก ดังนั้น มาตรการสำคัญจึงเน้นให้ค้นหาผู้ป่วยให้เร็ว วินิจฉัยเร็ว รักษาเร็ว และควบคุมป้องกันโรคได้เร็ว เพื่อป้องกันการเสียชีวิตผู้ป่วยให้ได้มากที่สุด

อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวอีกว่า ในการป้องกันการระบาดของโรคคอตีบต้องขอความร่วมมือจากทุกคน เริ่มจากผู้ปกครองนำเด็กทุกคนมารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคคอตีบตามเกณฑ์ให้ครบ 100% ประชาชนทั่วไปควรป้องกันตนเองโดย กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ ดูแลรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัด หรือสถานที่ที่มีการแพร่ระบาดของโรค ผู้ป่วยเป็นไข้หวัดควรสวมหน้ากากอนามัย รวมถึงรู้จักสังเกตอาการผิดปกติของตัวเองและคนใกล้ชิด เช่น มีไข้ต่ำๆ อาการคล้ายหวัดในระยะแรก ไอ เจ็บคอ เบื่ออาหาร บางรายอาจพบต่อมน้ำเหลืองที่คอโต เมื่ออ้าปากจะพบแผ่นเยื่อสีขาวปนเทาในลำคอที่บริเวณต่อมทอนซิล ต้องรีบไปพบแพทย์ทันที เพื่อรับการรักษาโดยเร็วและควรติดตามสถานการณ์โรคในพื้นที่และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด.

ไทยรัฐ