ผู้เขียน หัวข้อ: "วิทยา" ดอดเข้ากระทรวงสธ. - บอกไม่น้อยใจโดนปรับพ้นครม.  (อ่าน 973 ครั้ง)

ABBA

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2105
    • ดูรายละเอียด
วันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2555 เวลา 16:34 น.  ข่าวสดออนไลน์


วันที่ 26 ต.ค. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า บรรยากาศที่กระทรวงสาธารณสุข ภายหลังข่าวการปรับครม. โดยนายวิทยา บุรณศิริ และนพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ หลุดจากตำแหน่งรัฐมนตรีทั้งสองคน  พบว่า นายวิทยา ได้เดินทางไปเปิดงาน มหกรรมรวมพลังสัญจรครั้งที่ 2 “รวมใจป้องกันโรคในช่วงอากาศเปลี่ยน ปลายฝนต้นหนาว” ที่ อบต.บางบัวทอง  ส่วน นพ.สุรวิทย์ ได้เดินทางลงพื้นที่ จ.เลย เพื่อติดตามสถานการณ์โรคคอตีบ โดยนายวิทยา กลับเข้ากระทรวงในช่วงบ่าย

นายวิทยา ให้สัมภาษณ์ กรณีที่มีการปรับรมต. และไม่มีชื่อของนายวิทยา ในครม.ชุดใหม่ นั้น  ว่า ไม่รู้สึกเสียใจ และไม่ได้น้อยใจ เนื่องจากตนไม่ได้ไปไหน ยังคงอยู่พรรคเพื่อไทย และช่วยงานรัฐบาลที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกฯ และตนก็ยังคงช่วยงานตามที่ นายกฯ มอบหมายงานให้  ส่วนงานที่กระทรวงสาธารณสุข ก็ยังคงต้องดำเนินนโยบายตามนโยบายรัฐบาลเหมือนเดิม ทั้งเรื่องนโยบายหลักประกันสุขภาพ และเรื่องโรงพยาบาล ในเรื่องการให้บริการก็ยังพร้อมดูแลประชาชนเหมือนเดิม  ซึ่งงานต่างๆนั้น ข้าราชการกระทรวงก็ยังอยู่กันครบ พร้อมที่จะเดินหน้านโยบายต่อไป

ในวันเดียวกัน นายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุขกล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดงาน มหกรรมรวมพลังสัญจรครั้งที่ 2 “รวมใจป้องกันโรคในช่วงอากาศเปลี่ยน ปลายฝนต้นหนาว” ว่า การสร้างเสริมสุขภาพและการป้องกันโรคถือเป็นกลยุทธ์สำคัญของงานพัฒนาสุขภาพชุมชน ที่ สธ.ให้ความสำคัญ ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือของประชาชนในการดูแลเพื่อการมีสุขภาวะที่ดี โดยเฉพาะในช่วงปลายฝนต้นหนาว ที่จะพบโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ 4 โรคสำคัญ อาทิ โรคไข้หวัดใหญ่ ปอดบวม หัด และอีกสุกอีใส

นายวิทยา กล่าวต่อว่า เพื่อป้องกันโรคติดต่อ และไม่ให้การระบาดในวงกว้างในช่วงอากาศเปลี่ยนนั้น จึงได้มอบหมายให้หน่วยงานต่างๆใน สธ. โดยเฉพาะกรมควบคุมโรค (คร.)คอยควบคุมดูแลในรื่องนี้ ทั้งนี้ยังได้กำชับให้ดูแลกลุ่มที่มีความเสี่ยงเจ็บป่วยง่ายและมีภูมิคุ้มกันต่ำซึ่งเมื่อป่วยแล้วจะมีอาการหนักกว่ารายอื่นอื่น ได้แก่ เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน หอบหืด ปอดเรื้อรัง ตับ ไต โลหิตจาง หัวใจและหลอดเลือด

ด้านนพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดี คร. กล่าวว่า จากข้อมูลของสำนักระบาดวิทยา พบว่า ในช่วงฤดูหนาวปี 2554-2555 มีผู้ป่วย 4 โรคสำคัญทั้งสิ้น 50,535ราย แยกเป็นปอดปวม 33,440 ราย อีสุกอีใส 11,562 ไข้หวัดใหญ่ 5,091ราย และหัด 442 ราย โดยในปีนี้ภาคเหนือและภาคอีสานคาดว่าปลายเดือนพ.ย. จะเริ่มหนาว ดังนั้นควรเตรียมความพร้อมรับมือกับสภาพอากาศที่หนาวได้แล้ว เนื่องจากจะหนาวก่อนภาคอื่น  ทั้งนี้ ตนยังห่วงโรคคอตีบ โดยเฉพาะคนที่เดินทางติดต่อกับแนวชายแดน เนื่องจากพบว่าหลายคนป่วยเพราะติดจากชาวเขาที่อาศัยตามแนวตะเข็บชายแดน ดังนั้นจึงอยากให้ประชาชนในจังหวัดที่พบการป่วยโรคคอตีบ ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน รีบไปฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการรุนแรงขึ้นกว่าเดิม ทั้งนี้สำหรับคนที่ฉีดวัคซีนแล้วก็ไม่ต้องตกใจ แต่ควรดูแลเรื่องความสะอาดและการกินที่ถูกสุขลักษณะ