รายงานจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันไทยสามารถส่งออกผลไม้สดไปตลาดสาธารณรัฐประชาชนจีนได้สูง โดยในปี 2554 ที่ผ่านมา ไทยส่งออกผลไม้ไปจีนได้รวม 505,606 ตัน คิดเป็นมูลค่าถึง 13,957 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปี 2553 ถึงร้อยละ 15.45 และ 29.20 ตามลำดับ ส่งผลให้เกษตรกรผู้ปลูกผลไม้ขายผลผลิตได้เพิ่มขึ้นทั้งราคาและปริมาณ
จากผลดังกล่าวกระทรวงเกษตรฯ จึงขยายฐานการส่งออกผลไม้ไปยังประเทศในภูมิภาคเอเชียเพิ่มขึ้น เนื่องจากประเทศในภูมิภาคเอเชียยังมีศักยภาพมากกว่าทวีปอื่น ๆ ทั้งในเรื่องสถานะทางเศรษฐกิจปัจจุบัน รสนิยมการบริโภค ระยะทาง โดยเฉพาะ ประเทศญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฮ่องกง ไต้หวัน และอินเดีย น่าจะเป็นตลาดส่งออกที่สำคัญของผลไม้ไทยในอนาคต
แต่อย่างไรก็ตาม เกษตรกรผู้ส่งออก และภาครัฐต้องร่วมมือกันยกระดับผลไม้ไทยให้เป็นที่ยอมรับในเรื่องคุณภาพมาตรฐาน รสชาติ และประโยชน์ต่อสุขภาพ เพื่อกระจายไปสู่ประเทศในภูมิภาคเอเชียเพิ่มขึ้น โดยในเบื้องต้น กระทรวงเกษตรฯ ได้กำหนดทิศทางในการดำเนินการในเรื่องนี้ไว้ 4 ประเด็นหลัก ได้แก่
1. สนับสนุนและส่งเสริมให้เกษตรกรผู้ผลิตทั่วทุกภาคของประเทศ ทำการเพาะปลูก เก็บเกี่ยว และคัดบรรจุผลผลิต ให้ได้ตามมาตรฐานสากล รวมทั้งให้ความสำคัญกับเรื่องการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย
2. สนับสนุนให้มีการวิจัยและพัฒนาผลไม้และผลิตภัณฑ์ให้มีรสชาติเหมาะสมตามความต้องการของตลาด ยืดอายุการเก็บรักษาให้มีระยะเวลานานขึ้น
3. พัฒนาและใช้ระบบการขนส่ง และบรรจุภัณฑ์ให้เหมาะสมกับการส่งออกผลไม้ไทย ทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ โดยให้มีต้นทุนค่าขนส่งต่ำที่สุด และ
4. ประชาสัมพันธ์และแนะนำผลไม้ไทยให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ในโอกาสและเทศกาลต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ.
เดลินิวส์ 5 ตุลาคม 2555