ผู้เขียน หัวข้อ: สธ.สั่งทุกหน่วยจับตา ไวรัสตัวใหม่คล้าย'ซาร์ส' หลังมีผู้ป่วยในอังกฤษ  (อ่าน 948 ครั้ง)

ABBA

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2105
    • ดูรายละเอียด
สธ.สั่งทั่วประเทศจับตาไวรัสตัวใหม่คล้ายโรคซาร์ส หลังมีผู้ป่วยชาวกาตาร์ในอังกฤษ แนะดูแลสุขภาพ หลีกเลี่ยงเข้าไปในที่แออัด ส่วนคนกลับจาก ตปท.หากมีไข้อาการไม่ดีขึ้้นให้พบแพทย์ เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด...

เมื่อวันที่ 25 ก.ย.2555 นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผย กรณีองค์การอนามัยโลกรับรายงานจากองค์การสาธารณสุขแห่งประเทศอังกฤษ ได้พบชายชาวกาตาร์อายุ 49 ปี ป่วยด้วยอาการโรคทางเดินหายใจเฉียบพลัน และไตวาย ซึ่งเป็นเชื้อโคโรนาไวรัสตระกูลเดียวกับโรคซาร์สว่า กระทรวงสาธารณสุขได้แจ้งเตือนหน่วยงานในสังกัดทั่วประเทศ และด่านควบคุมโรคระหว่างประเทศ ด่านควบคุมโรคตามแนวชายแดน ให้เฝ้าระวังผู้ป่วย โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจเฉียบพลัน เช่น โรคปอดบวม และประสานแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับไวรัสตัวใหม่แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เพื่อรับทราบ และให้สำนักระบาดวิทยา สำนักโรคติดต่ออุบัติใหม่ กรมควบคุมโรค ติดตามประสานความคืบหน้าข้อมูลของเชื้อชนิดนี้ กับองค์การอนามัยโลกอย่างใกล้ชิด

ขณะที่ นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า เชื้อโคโรนาไวรัสเป็นตระกูลใหญ่ของไวรัส ซึ่งรวมทั้งเชื้อไข้หวัดทั่วไป และโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง หรือโรคซาร์ส ซึ่งพบการระบาดใน พ.ศ.2546 ในประเทศไทยพบผู้ป่วยยืนยัน 1 ราย แต่เป็นผู้ป่วยที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และไม่มีการระบาดในประเทศ การตรวจพบเชื้อครั้งนี้ ถือว่าเป็นความรวดเร็วของระบบการเฝ้าระวัง จากการประสานงานองค์การอนามัยโลก เบื้องต้นขณะนี้ยังไม่มีการห้ามการเดินทางระหว่างประเทศแต่อย่างใด ยังสามารถเดินทางได้ตามปกติ แต่ขอให้ปฏิบัติตัวดูแลสุขอนามัยตนเอง โดยหมั่นล้างมือฟอกสบู่บ่อยๆ หลีกเลี่ยงการเข้าไปในที่ที่มีผู้คนแออัด ไม่คลุกคลีกับคนป่วยเป็นไข้หวัด หากมีอาการไอจาม เป็นหวัด ให้ใส่ผ้าปิดปากปิดจมูก เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อแพร่ไปติดคนอื่น ส่วนผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ หากมีอาการป่วยเหมือนไข้หวัด และหลังนอนพัก 2 วันแล้ว อาการยังไม่ดีขึ้น ไข้ไม่ลดลง ขอให้พบแพทย์และแจ้งประวัติการเดินทางแก่แพทย์

ทั้งนี้ จากการติดตามผู้ที่เกี่ยวข้องใกล้ชิดกับผู้ป่วยทั้ง 2 รายนั้น ทั้งญาติที่ใกล้ชิดและเจ้าหน้าที่ที่ดูแลผู้ป่วย ยังไม่มีใครติดเชื้อจากผู้ป่วย จึงไม่อยากให้คนไทยตื่นตระหนก อย่างไรก็ดีทางกรมควบคุมโรคจะประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมการแพทย์ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ศูนย์ความร่วมมือควบคุมโรคแห่งสหรัฐอเมริกา ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย เพื่อประเมินสถานการณ์ร่วมกัน ขณะนี้ยังไม่จำเป็นต้องตรวจคัดกรองโรคที่สนามบิน โดยจะติดตามประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด