ผู้เขียน หัวข้อ: “วิทยา” สั่งขยายผล “พริตตี้นิทรา” กวาดล้างยาฉีด-คลินิกเถื่อน  (อ่าน 824 ครั้ง)

ABBA

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2105
    • ดูรายละเอียด
 “วิทยา” สั่ง สบส.ประสานตำรวจสอบ “หมอป๊อป” ฉีดคอลลาเจนพริตตี้จนกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา เล็งขยายผลกวาดล้างที่มายาฉีด-คลินิกเถื่อน พร้อมคุมเข้มสถานความงาม จ่อเรียกคุยทำความเข้าใจกฎกติกา โดยเฉพาะการโฆษณาชวนเชื่อในเว็บไซต์ เผยเตรียมออกกฎหมายควบคุมแล้ว
       
       วันนี้ (21 ก.ย.) นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าของการดำเนินการกวาดล้างหมอเถื่อน หลังมีหมอเถื่อนฉีดสารคอลลาเจนให้ น.ส.อาทิตยา เอี่ยมแย้ม (กระแต) อายุ 33 ปี อาชีพพริตตี้ จนหมดสติ สมองขาดออกซิเจน กลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา เมื่อวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา ว่า คลินิกเสริมความงามมีจำนวนมากขึ้น เนื่องจากกระแสของคนรักสวยรักงาม ขณะนี้ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ติดตามเฝ้าระวังสถานความงามตามศูนย์การค้าต่างๆ หรือบริเวณย่านชุมชนหนาแน่นอย่างใกล้ชิดแล้ว ซึ่งการจะเปิดสถานความงามได้นั้น ต้องมีแพทย์ผู้ชำนาญการดำเนินการ นอกจากนี้ ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ติดตามกวาดล้างการโฆษณาชวนเชื่อทางเว็บไซต์ด้วย เพราะวัยรุ่นนิยมดูกันมาก และดูได้ตลอด 24 ชั่วโมง รวมไปถึงการปรับปรุงกฎหมายเพื่อควบคุมการโฆษณาบางอย่างผ่านทางสื่อที่มีผลกระทบสูง เช่น ทีวี หนังสือพิมพ์ โดยเฉพาะการโฆษณาเสริมความงาม จะต้องได้รับอนุญาตก่อนที่ออกเผยแพร่สู่ประชาชน
       
       นายวิทยา กล่าวอีกว่า ได้มอบนโยบายให้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) จัดประชุมผู้ประกอบการคลินิก เสริมความงามทั่วประเทศ ซึ่งในกรุงเทพมหานครมีประมาณ 500 แห่ง เพื่อชี้แจงสร้างความเข้าใจ ถึงแนวทางมาตรการต่างๆ กฎกติกา เช่น การโฆษณา การให้บริการ การดูแลเครื่องมือตามมาตรฐาน ให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้บริการ หลังจากนั้น จึงจะใช้มาตรการทางกฎหมาย ตรวจสอบและหากพบกระทำผิดจะดำเนินคดีโดยไม่ละเว้นใดๆ ซึ่งที่ผ่านมาพบว่าผู้ประกอบการให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
       
       นายวิทยา กล่าวต่อไปว่า สำหรับกรณีของหมอป๊อปที่ฉีดสารคอลลาเจนให้น้องกระแต วันนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่จากสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลป สบส.ประสานพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลดินแดง เพื่อดำเนินการตรวจสอบทั้งเรื่องยาที่ใช้ฉีดว่าเป็นยาอะไร สถานที่ฉีด และจะขยายผลถึงแหล่งที่มาของยาฉีด และคลินิกเถื่อนในลักษณะเดียวกันต่อไป ซึ่งสบส.จะมีข้อมูลเชิงลับที่มีคนร้องเรียนมาอยู่แล้ว
       
       ด้าน นพ.สุขุม กาญจนพิมาย รองอธิบดี สบส. กล่าวว่า สำหรับคลินิกเอกชนใน กทม.ที่ขึ้นทะเบียนถูกต้องไว้กับ สบส.มีทั้งหมด 4,000 แห่ง ในจำนวนนี้เป็นคลินิกประเภทเสริมความงาม ประมาณ 500 แห่ง ในปีที่ผ่านมาได้สุ่มตรวจและปรับปรุงไปแล้ว 350 แห่ง และปราบปรามดำเนินคดีคลินิกที่ไม่ถูกต้อง จำนวน 14 คดี ส่วนใหญ่เป็นคลินิกเสริมความงาม ลดน้ำหนัก ศัลยกรรมตกแต่ง ดูแลผิวพรรณ ทำแท้งเถื่อน และหมอเถื่อน ในปี 2555 ตั้งแต่เดือนสิงหาคม - กันยายน ได้ตรวจสอบเฝ้าระวังคลินิกต่างๆ จำนวน 200 แห่ง และดำเนินคดีแล้ว 20 คดี ประกอบด้วย คลินิกศัลยกรรมเถื่อน 4 คดี คลินิกทำแท้งเถื่อน 3 คดี และเป็นหมอเถื่อนอีก 13 คดี และพบคลินิกกระทำผิดกฎหมาย 20 แห่ง ประกอบด้วย คลินิกขอนุญาตถูกต้องตามกฎหมายสถานพยาบาล แต่ไม่มีแพทย์ประจำการ จำนวน 14 แห่ง ที่เหลืออีก 6 แห่ง เป็นคลินิกเถื่อน เนื่องจากไม่ได้ขออนุญาตเปิดดำเนินการ
       
       นพ.สุขุม กล่าวต่อว่า โทษของคดีศัลยกรรมเถื่อน และคลินิกเถื่อน ตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 มี 3 ข้อหา คือ 1.ประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาต มีอัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 2.หมอเถื่อนมีอัตราโทษตามพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 จำคุก ไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ3.ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาตพระราชบัญญัติยา พ.ศ.2510 จำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 10,000 บาท
       
       และโทษของหมอเถื่อน มีความผิด 3 ข้อหา คือ 1.ประกอบวิชาชีพโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุก ไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 2.ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 10,000 บาท และ 3.ปลอมแปลงใบรับรองแพทย์ ผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 269 โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือมาตรา 264 โทษจำคุก ไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


ผู้จัดการ