ผู้เขียน หัวข้อ: แพทย์ศาสตร์ มข.พร้อมรับผิดชอบเด็ก 2 ขวบถูกบันไดเลื่อนหนีบขาขาด  (อ่าน 1195 ครั้ง)

ABBA

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2105
    • ดูรายละเอียด
ศูนย์ข่าวขอนแก่น - คณบดีคณะแพทย์ศาสตร์ มข.พร้อมทีมแพทย์ เปิดแถลงข่าวแจงอุบัติเหตุบันไดเลื่อนโรงพยาบาลศรีนครินทร์หนีบตัดขาเด็กอายุ 2 ขวบ 10 เดือนขาด ย้ำเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมรับผิดชอบดูแลรักษาเด็กเต็มที่ ส่วนปมบันไดเลื่อนขัดข้องต้องรอวิศวกรผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ ด้านพ่อ-แม่เด็กต้องการให้ลูกชายเป็นรายแรกและรายสุดท้ายของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเกิดอุบัติเหตุเด็กชายอายุ 2 ขวบ 10 เดือนถูกบันไดเลื่อนอาคารสมเด็จพระศรีนครรินทราบรมราชชนนี (สว.2) ภายในโรงพยาบาลศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น หนีบตัดจนขาขาดขณะเดินลงจากชั้น 2 ลงมาชั้นล่างของอาคาร พร้อมกับคุณแม่และคุณป้า ซึ่งขณะนี้อยู่ในความดูแลรักษาของทีมแพทย์อย่างใกล้ชิด
       
       ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น.วันนี้ (12 ก.ย.) ที่ห้องประชุมหนองแวง สำนักงานคณะบดีชั้น 6 คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) ศ.นพ.ภิเศก ลุมพิกานนท์ คณบดีคณะแพทย์ศาสตร์ มข.พร้อมด้วยผู้บริหารโรงพยาบาลศรีนครินทร์ และหัวหน้าทีมแพทย์ผู้ให้การรักษาได้เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเพื่อชี้แจงถึงเหตุการณ์อุบัติเหตุที่เกิดขึ้น
       
       ศ.นพ.ภิเศก ลุมพิกานนท์ คณบดีคณะแพทย์ศาสตร์ มข.เปิดเผยถึงอุบัติเหตุดังกล่าวว่าเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 12.00 น.ของวันศุกร์ที่ 7 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยเด็กคือน้องพอตเตอร์ เดินทางไปรักษาอาการตาอักเสบ มีแม่และป้าอยู่ใกล้ชิดตลอด
       
       ทั้งนี้ระหว่างลงบันไดเลื่อน ผู้เป็นป้าได้เดินนำหน้า โดยเด็กกับแม่เดินตามในขั้นถัดไปและจับมือกันตลอด แต่เหตุการณ์เกิดขึ้นชั่วพริบตา พยาบาลและเจ้าหน้าที่ที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุรีบเข้าช่วยเหลือ พบว่าขาเด็กถูกตัดขาด บันไดเลื่อนหยุดทำงาน
       
       เจ้าหน้าที่จึงรีบงัดขั้นบันได พบขาที่ขาดของเด็กจึงรีบนำไปให้ทีมแพทย์ซึ่งทันทีที่เกิดเหตุ ยืนยันว่าโรงพยาบาลได้ระดมกำลังแพทย์ผู้เชี่ยวชาญผ่าตัดต่อขาเด็กทันทีหลังเกิดเหตุประมาณ 1 ชั่วโมง
       
       ศ.นพ.ภิเศกระบุว่า ส่วนของขาที่ขาด คือ บริเวณเหนือข้อเท้าซ้ายขึ้นมาประมาณ 4 นิ้ว แพทย์ได้แจ้งผู้ปกครองว่าจำเป็นต้องตัดส่วนกระดูกที่ไม่เรียบออกไป 1 นิ้วเศษ เพื่อต่อหลอดเลือดให้เลือดสามารถไหลไปเลี้ยงส่วนปลายเท้าได้อย่างปกติและดีที่สุดเพื่อรักษาชีวิต และรักษาอวัยวะซึ่งถือเป็นเรื่องวิกฤตที่สุด โดยเมื่อคืนที่ผ่านมาก็ได้ทำการผ่าตัดเป็นครั้งที่ 2 ใช้เวลานานถึง 10 ชั่วโมง ซึ่งจากนี้ต้องรอดูอาการอย่างใกล้ชิด
       
       “ทางเราจะดูแลรักษาเด็กอย่างเต็มที่ จนสุดความสามารถของทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแต่ละสาขา และพร้อมจะอำนวยความสะดวกให้กับพ่อแม่ผู้ปกครองเด็กทุกด้านที่ต้องการให้ทางเราดูแล”
       
       ทั้งนี้ คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นเข้าใจดีว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น เป็นเหตุการณ์ที่เป็นอุทาหรณ์กับทุกฝ่าย ซึ่งทางมหาวิทยาลัยเสียใจเป็นอย่างมาก ยืนยันไม่ได้เจตนาปิดข่าว หรือกีดกันสื่อมวลชน แต่เนื่องจากยังไม่สามารถหาสาเหตุที่บันไดเลื่อนตัดขาเด็กจนขาดครั้งนี้ได้
       
       ขณะนี้อธิการบดีได้สั่งให้ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร์ของมหาวิทยาลัย พร้อมทั้งวิศวกรของบบริษัทผู้ผลิตและติดตั้งบันไดเลื่อน ร่วมกันตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริง แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะตรวจสอบและทราบผลเมื่อใด
       
       ศ.นพ.วีระชัย โควสุวรรณ หัวหน้าภาควิชาออร์โธปิดิกส์ คณะแพทย์ศาสตร์ มข.กล่าวต่อว่า ทั้งนี้เด็กอายุเพียง 2 ขวบเศษ เชื่อมั่นว่าร่างกายจะซ่อมแซมตนเองได้ดี แต่แพทย์ได้แจ้งผู้ปกครองให้ทราบว่าหลังบรักษาอวัยวะได้ เบื้องต้นขาข้างซ้ายที่เกิดเหตุจะสั้นกว่าอีกข้าง ซึ่งแพทย์ขอให้ระยะเวลาผ่านไปสักระยะหนึ่ง ทางทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกจะทำการรักษาเชื่อมต่อให้เป็นปกติต่อไป
       
       อย่างไรก็ตาม พ่อและแม่ของน้องพอตเตอร์ได้เดินทางมาร่วมแถลงข่าวในครั้งนี้ด้วย ไม่ขอเปิดเผยชื่อเพราะสงสารลูก และทำใจไม่ได้ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
       
       โดย ผู้เป็นแม่เล่าถึงเหตุการณ์เกิดขึ้นว่าเกิดขึ้นเร็วมาก ช่วงเดินลงบันไดเลื่อนนั้นตนจับมือลูกตลอดเวลา โดยผู้เป็นป้ายืนอยู่ด้านหน้า ซึ่งขณะบันไดอยู่ในช่วงขั้นที่ 4 จะลงขั้นที่ 3 มีเสียงดังตุบๆ แล้วดังขึ้นเรื่อยๆ ตนก้มดูอีกครั้งเป็นจังหวะที่ตนกับลูกยกขาขวาขึ้นพร้อมกัน แต่มองไม่เห็นขาซ้ายของลูกแล้ว ขณะเดียวกันร่างของน้องพอตเตอร์ก็โผเข้าไปที่หาป้าที่ยืนตรงหน้าพอดี จึงรีบร้องขอความช่วยเหลือ
       
       ขณะที่ผู้เป็นพ่อเล่าเสริมอีกว่า ตนทราบข่าวก็รีบลางานจากจังหวัดฉะเชิงเทรามาดูลูกทันที เมื่อเห็นสภาพของลูกก็เสียใจอย่างมาก โดยเฉพาะเวลากลางคืนลูกจะมีอาการผวา ร้องไห้เสียงดัง พ่อและแม่ต้องเปิดวีซีดีการ์ตูนให้ดู น้องพอตเตอร์จึงมีอารมณ์ดีขึ้น แต่เป็นห่วงว่าน้องพอตเตอร์ไม่ค่อยได้นอน เพราะเจ็บแผลและยังผวา ส่วนในการรักษาของโรงพยาบาลตนไม่ติดใจเพราะเห็นว่าทีมแพทย์ดูแลลูกอย่างใกล้ชิด ก็หวังว่าจะสามารถรักษาให้น้องหายกลับไปเป็นปกติได้
       
       กระนั้นก็ตามตนก็อยากให้ทางโรงพยาบาลตรวจสอบหาสาเหตุความขัดข้องของบันไดเลื่อนให้ชัดเจนและต้องการให้กรณีของน้องพอตเตอร์เป็นกรณีแรกและกรณีสุดท้ายที่จะเป็นอุทาหรณ์ให้แก่ทุกคน ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับใครอีกเพราะเป็นความสูญเสียใหญ่หลวงของครอบครัว
       
       ขณะที่ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ได้นำแผงเหล็กกั้น และติดป้ายงดใช้บริการ ตรงบันไดเลื่อนบริเวณที่เกิดเหตุ โดยจะเร่งดำเนินการให้ผู้เชี่ยวชาญเข้าตรวจสอบจนกว่าจะทราบสาเหตุที่แท้จริง และมีการแก้ไขจนมั่นใจว่าปลอดภัยเต็มที่ จึงจะเปิดใช้งานอีกครั้ง