ผู้เขียน หัวข้อ: เด็กสุขภาพดี...จุดเริ่มต้นพัฒนาการเรียนรู้ที่ดี' - ชีวิตและสุขภาพ  (อ่าน 1038 ครั้ง)

ABBA

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2105
    • ดูรายละเอียด
เด็กเล็กในช่วงอายุ 1-3 ขวบ เป็นช่วงที่มีพัฒนาการ และการเรียนรู้ที่รวดเร็ว ซึ่งมีความสำคัญมาก ดังนั้นการดูแลลูกน้อยให้มีพัฒนาการต่อเนื่องและไม่ถูกรบกวนจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น ซึ่งองค์ประกอบในการสร้างการเรียนรู้ที่สมบูรณ์ของเด็กเล็กอีกองค์ประกอบหนึ่งที่สำคัญก็คือ “สุขภาพที่ดี” นั่นเอง
 
ปัจจุบันโรคภัยไข้เจ็บในเด็กยังคงทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ จนน่าวิตก นอกจากโรคไข้เลือดออก มือเท้าปากที่กำลังเป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้ ยังมีโรคติดต่อร้ายแรงอื่น ๆ ที่ต้องระวัง โดยจาก สถิติพบว่าอุบัติการณ์การเสียชีวิตของเด็กเล็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ขวบทั่วโลก นับล้านรายนั้นมีสาเหตุการตายที่สำคัญจากโรคติดเชื้อซึ่งถือว่าเป็นภัยร้ายที่คุกคามเด็กเล็กทั่วโลก เช่น โรคปอดบวม โรคท้องร่วง เป็นต้น โดยส่วนมากจะเป็นเด็ก ๆ ในประเทศที่กำลังพัฒนาในภูมิภาคเอเชียแฟซิฟิก และแอฟริกา เป็นต้น ซึ่งตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา องค์กรแพทย์ในประเทศและในระดับนานาชาติก็ได้มีการจัดประชุมและหารือเกี่ยวกับแนวทางการป้องกันและลดอุบัติการณ์เด็กเล็กเสียชีวิตจากโรคต่าง ๆ มาโดยตลอด

แต่เป็นที่น่าวิตกว่า สังคมปัจจุบัน คุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ส่วนใหญ่มักจะมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับเรื่องพัฒนาการด้านสติปัญญาและความฉลาดของเด็ก จนละเลยเรื่องการดูแลสุขภาพเด็ก อันที่จริงแล้วอยากให้คุณพ่อคุณแม่ตระหนักว่า “เด็กสุขภาพดี = จุดเริ่มต้นพัฒนาการเรียนรู้ที่ดีของเด็ก” เพราะการที่เด็กจะมีพัฒนาการที่ดีเป็นเด็กเรียนเก่งได้นั้น ต้องเริ่มจากการมีสุขภาพที่ดีก่อน ดังนั้น พ่อแม่ที่มีเด็กเล็กควรเอาใจใส่ดูแลอย่างใกล้ชิด และควรสร้างภูมิคุ้มกันเบื้องต้นให้ลูกตั้งแต่แรกคลอดด้วยการให้ทารกกินนมแม่ ดูแลสุขภาพและโภชนาการให้ได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน เลี้ยงดูให้เหมาะสมตามวัย สร้างสุขอนามัยที่ดีด้วยการล้างมือ ปิดปากและจมูกเมื่อไอหรือจามให้เด็กพักผ่อนนอนหลับอย่างเพียงพอ และทำร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอ หากเด็กไม่สบายควรสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด และรีบปรึกษากุมารแพทย์ทันที เพื่อช่วยลดโอกาสเสี่ยงในการเป็นโรคติดต่อร้ายแรง
 
นอกจากนี้ สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องให้ลูกน้อยได้รับวัคซีนพื้นฐานครบตามตารางวัคซีนแห่งชาติในทุกช่วงอายุ เพราะการป้องกันด้วยวัคซีน เป็นวิธีการป้องกันที่มีประสิทธิภาพมากในปัจจุบัน รวมถึงวัคซีนเสริมต่าง ๆ ที่ช่วยป้องกันโรคติดเชื้อรุนแรงได้ เช่น วัคซีนที่ช่วยป้องกันโรคติดเชื้อรุนแรงที่เกิดจากเชื้อเอ็นทีเอชไอ และเชื้อนิวโมคอคคัส ซึ่งสามารถทำให้เกิดโรคร้ายในเด็กเล็ก ที่อาจนำมาซึ่งความพิการและการสูญเสียชีวิตของเด็กได้ โดยเชื้อสองชนิดดังกล่าวเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดโรคหูชั้นกลางอักเสบในเด็กเล็ก และโรคติดเชื้อรุนแรงอื่น ๆ เช่น โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ โรคติดเชื้อในกระแสเลือด โรคปอดบวมหรือปอดอักเสบ เป็นต้น นอกจากนี้  ยังมีวัคซีนป้องกันโรคท้องร่วงในเด็กเล็กจากเชื้อไวรัสโรต้า และวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ เป็นต้น
     
พ่อแม่ควรให้ความสำคัญกับการป้องกันโรคติดต่อร้ายแรงในเด็กที่อาจส่งผลกระทบต่อสมอง เช่น โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ โรคไอพีดี รวมถึงโรคหูชั้นกลางอักเสบที่พ่อแม่มักมองข้าม ซึ่งพบในเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 3 ขวบ มากถึงร้อยละ 80  แม้จะเป็นโรคที่มีความรุนแรงไม่มากนัก แต่หากพ่อแม่ละเลย โดยคิดว่าอาการเจ็บหูและคันหูเป็นเพียงอาการข้างเคียงของโรคไข้หวัด อาจจะทำให้เกิดการติดเชื้อและอักเสบ ทำให้แก้วหูบวมแดง มีน้ำและหนองคั่งในเยื่อแก้วหู และทำให้เยื่อแก้วหูขาดในที่สุด ที่สำคัญเชื้ออาจจะแพร่กระจายผ่านท่อยูสเตเชี่ยนที่เชื้อระหว่างหูชั้นกลางกับฐานสมอง ทำให้เป็นโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบและฝีในสมองได้ นอกจากนี้ ยังอาจลุกลามเสี่ยงเป็นโรคติดเชื้อรุนแรงอื่น ๆ อีกด้วย เช่น หากเชื้อร้ายกระจายไปสู่ปอด ก็จะทำลายเนื้อปอดจนไม่สามารถนำออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย หากเป็นรุนแรงอาจจะทำให้ระบบหายใจล้มเหลวฉับพลัน และเชื้อยังสามารถกระจายเข้าสู่กระแสเลือด และแพร่ไปยังอวัยวะต่าง ๆ ทั่วร่างกายได้อย่างรวดเร็ว ก็จะทำให้ลูกน้อยเป็นโรคติดเชื้อในกระแสเลือดได้อีกด้วย

วิธีการสังเกตหากลูกน้อยเป็นโรคหูชั้นกลางอักเสบจะร้องไห้งอแงเพราะปวดหู คันหู หูอื้อ ในเด็กเล็กที่ยังพูดไม่ได้อาจจะจับหูบ่อย ๆ เพราะเจ็บ อาจจะมีอาการอักเสบ มีน้ำและหนองไหลออกจากรูหูร่วมด้วย ให้รีบพาไปพบแพทย์โดยด่วน แต่หากปล่อยไว้นาน ๆ จนเชื้อเอ็นทีเอชไอ และเชื้อนิวโมคอคคัสกระจายไปยังอวัยวะต่างๆ จนก่อให้เกิดโรคติดเชื้อรุนแรง เช่น โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ โรคติดเชื้อในกระแสเลือด และโรคปอดบวมแล้ว ลูกน้อยจะมีไข้สูงติดต่อกันเป็นเวลานาน ซึมสลับกับงอแง อาจจะมีอาการชัก หายใจมีเสียงดังวี้ด ๆ หรือหายใจถี่และแรงจนซี่โครงบุ๋ม ให้รีบพาไปพบแพทย์โดยด่วน

อย่างไรก็ดี สิ่งที่สำคัญที่สุดในการป้องกันลูกน้อยให้พ้นจากโรคร้ายต่าง ๆ คือการที่พ่อแม่ต้องรู้ให้ทันโรคร้ายเหล่านั้น และสร้างภูมิคุ้มกันที่มีประสิทธิภาพให้ลูกน้อยอย่างทันท่วงที ดังนั้น ในโอกาสนี้เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการดูแลสุขภาพและป้องกันลูกน้อยของเราอย่างจริงจัง จากโรคต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะในช่วงนี้ที่โรคต่าง ๆ กำลังระบาดในเด็กเล็ก ดังนั้นสมาคมกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย ได้ร่วมกับสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย ได้ร่วมรณรงค์ “เติมรัก สร้างภูมิ เสริมวัคซีน” เพื่อมุ่งเน้นให้พ่อแม่ตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพและเสริมภูมิคุ้มกันปกป้องลูกรักพ้นภัยจากโรคร้ายต่าง ๆ เพราะเด็กสุขภาพดีคือ จุดเริ่มต้นของพัฒนาการเรียนรู้ที่ดี

ข้อมูลจาก ศ.นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขาประธานราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย และนายกสมาคมกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย.