ผู้เขียน หัวข้อ: ปลัด สธ-นายกสภาพยาบาล เห็นตรงตรวจเลือดแต่ไม่ควรตัดสิทธิ์ให้ นศ.ออก  (อ่าน 2338 ครั้ง)

seeat

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 470
    • ดูรายละเอียด
“หมอไพจิตร์” ชี้ การตรวจเลือด นศ.ทำได้แต่ต้องไม่ตัดสิทธิ์การเรียน ขณะที่ สภาการพยาบาล ชี้ นโยบายระดับชาติไม่ได้แนะให้ตรวจเลือด นศ.พยาบาล หรือแพทย์ เป็นเรื่องของสถาบันกำหนดเอง และไม่มีบทลงโทษสถาบันด้วย พร้อมแนะสถาบันควรทำความเข้าใจกัน ระบุการทำงานใกล้ชิดคนป่วยโอกาสเสี่ยงรับเชื้อฉวยโอกาสสูง
       
       นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยถึงกรณีการตรวจเลือดนักศึกษาพยาบาลหรือนักศึกษาแพทย์ เพื่อตรวจหาเชื้อเอชไอวี ว่า โดยหลักการหากจะตรวจก็สามารถทำได้ แต่ต้องบอกกล่าว และหากพบนักศึกษามีการติดเชื้อก็ไม่ควรให้ออก เนื่องจากเป็นสิทธิที่พวกเขายังคงศึกษาต่อได้ เพราะไม่ได้มีผลต่อการเรียน หากดูแลตัวเองดี อย่างไรก็ตาม ความจริงแล้วในวงการทุกสาขาวิชาชีพ ไม่ว่าอาชีพใดก็ตาม ล้วนมีคนที่ติดเชื้อเอชไอวี เพียงแต่ไม่ทราบกันเท่านั้น อย่างแพทย์พยาบาลก็คงมี ซึ่งตรงนี้ต้องทำความเข้าใจว่า หากพวกเขามีการติดเชื้อจริง ก็ต้องดูแลตัวเองไม่ให้อาการทรุดหนัก ที่สำคัญต้องไม่เป็นตัวแพร่เชื้อ แต่การที่จะไปตัดสิทธิ์ไม่ให้เรียนหรือทำงานเลย ย่อมทำไม่ได้
       
       ด้าน ศ.เกียรติคุณ ดร.วิจิตร ศรีสุพรรณ นายกสภาการพยาบาล กล่าวว่า แนวนโยบายระดับชาติไม่มีการแนะนำให้ตรวจเลือดนักศึกษาพยาบาลหรือแพทย์ แต่เป็นเรื่องของสถานบันการศึกษาเองว่า จะให้นักศึกษาตรวจหรือไม่ และไม่มีบทลงโทษสำหรับสถาบันการศึกษาที่บังคับให้นักศึกษาตรวจเลือดแต่อย่างใด ซึ่งเป็นประเด็นที่ต้องทำความเข้าใจในระดับวงกว้างต่อไป ว่าจะวางแนวทางปฏิบัติอย่างไร ซึ่งเรื่องดังกล่าว สถาบันการศึกษาจำเป็นต้องทำความเข้าใจกับนักศึกษาเอง
       
       อย่างไรก็ตาม สำหรับบุคลากรทั้งแพทย์และพยาบาลในปัจจุบันก็มีผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวี แต่ทางการแพทย์จะมีวิธีปฏิบัติต่อคนไข้ และวิธีป้องกันตนเองและคนไข้อยู่ ซึ่งโดยทั่วไปบุคลากรที่รู้ตัวว่าติดเชื้อเอชไอวี ก็จะไม่ให้บริการที่จะทำให้เกิดความเสี่ยงต่อตนเองและคนไข้ ซึ่งในส่วนการป้องกัน สถาบันการศึกษาน่าจะมีความเป็นห่วงตัวนักศึกษาเอง เพราะผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวี โดยปกติจะมีภูมิคุ้มกันต่ำ และมีโอกาสเสี่ยงที่ติดเชื้อฉวยโอกาสจากคนไข้ การหลีกเลี่ยงสัมผัสคนไข้จึงเป็นผลดีต่อตัวผู้ติดเชื้อไม่ให้ได้รับเชื้อฉวยโอกาสด้วยส่วนหนึ่ง ทั้งนี้ บุคลากรทางการแพทย์ในปัจจุบันนั้นมีความเสี่ยงในการได้รับเชื้อเอชไอวีจากผู้ป่วยอยู่เสมอ เช่น โดนเข็มตำและได้รับเชื้อจากผู้ป่วย ซึ่งอุปกรณ์การป้องกันในปัจจุบัน เช่น แว่นตากันสารคัดหลั่ง ถุงมือ ที่จะป้องกันเข็มแทงก็ยังมีไม่เพียงพอนัก ฉะนั้น กรณีดังกล่าว สถาบันการศึกษาจำเป็นจะต้องให้คำปรึกษาและให้นักศึกษาเป็นผู้ตัดสินใจเลือกว่าจะเรียนต่อในสาขาเดิมหรือย้ายสาขา

ASTVผู้จัดการออนไลน์    28 สิงหาคม 2555

mildkoid

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 9
    • ดูรายละเอียด
ประวัติบาคาร่าในฝรั่งเศส
แม้ว่าต้นกำเนิดที่แท้จริงของบาคาร่าจะยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่แต่เป็นที่ แน่ชัดแล้วว่ารูปแบบและลักษณะของเกมบาคาร่าที่ใช้เล่นในปัจจุบันมีต้นกำเนิด มาจากประเทศฝรั่งเศส บาคาร่านั้นเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่ชนชั้นสูงของฝรั่งเศสในช่วงศตวรรษที่ 16 – 17 จากนั้นก็เริ่มแพร่กระจายอย่างรวดเร็วมีการเล่น บาคาร่า ทั้งในบ้านและราชวัง ในช่วงการปกครองของพระเจ้านโปเลียน (Napoleon) มีการเล่นบาคาร่าในคลับการพนันนอกกฎหมายหลายแห่ง แต่ในปัจจุบันการเล่นบาคาร่าในบ่อน คาสิโน กลายเป็นเรื่องที่ถูกกฎหมายไปแล้วที่ประเทศกัมพูชา มีเกมต่างๆที่ได้รับความนิยมแนะนำให้ผู้เล่นได้เลือกเล่นมากมายและด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยผู้เล่นสามารถเล่นผ่านออนไลน์หรือผ่านทาง GclubIphone ได้ที่ Gclub iphone มีเกม คาสิโนออนไลน์ ที่พร้อมให้เล่นได้ตลอด 24 ชม. มีทั้งเกม บาคาร่าออนไลน์แบ่งเป็น Baccarat และ Baccarat Online ที่มีกติกาการเล่นคล้ายกับเกม ป๊อกเด้งออนไลน์ เกม Gclub Online แม้ว่าผู้เล่นจะพิมพ์คำว่า Gclub  ,G club, G club Online ก็สามารถเล่นGclub ได้เพราะเป็นเกมเดียวกัน แต่อาจจะมีเป็นบางครั้งที่ เล่นสล็อตไม่ได้ผู้เล่นก็สามารถเปลี่ยนมาเล่น เกม คาสิโนออนไลน์ แบบอื่นๆแทนได้ ในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 บาคาร่าเป็นเกม G club ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในคาสิโนเมืองริเวียร่า (Riviera) ของฝรั่งเศส ในตอนนั้นมีเกมบาคาร่าด้วยกันสองรูปแบบ คือ เชอแมงเดอเฟร์ (ChemindeFer) และ บาคาร่าอันบาค (En-Banque) ข้อแตกต่างของบาคาร่าทั้งสองรูปแบบอยู่ที่ผู้แจกไพ่และจำนวนผู้เล่นในเกม ในบาคาร่าแบบ เชอแมงเดอเฟร์ ผู้เล่นที่วางเดิมพันสูงสุดจะเป็นผู้แจกไพ่และเป็นเจ้ามือ ผู้เล่นที่วางเดิมพันสูงสุดรองลงมาจะเป็นตัวแทนของผู้เล่นที่เหลือในการเล่น แข่งขันกับเจ้ามือ ส่วนในบาคาร่าอันบาค บ่อนจะเป็นเจ้ามือเองและมีดีลเลอร์ทำหน้าที่แจกไพ่ให้ผู้เล่น ลักษณะของโต๊ะเล่นบาคาร่าจะเป็นโต๊ะคู่ที่ออกแบบให้มีที่นั่งสำหรับผู้เล่น ด้านซ้ายและด้านขวาของเจ้ามือฝั่งละห้าคน ผู้เล่นหนึ่งคนจากฝั่งซ้ายและอีกหนึ่งคนจากฝั่งขวาจะเป็นตัวแทนผู้เล่นแต่ละ ฝั่งที่จะเล่นแข่งกับเจ้ามือ  กฎการเรียกไพ่และการอยู่ แต้มทั้งฝ่ายเจ้ามือและผู้เล่นจะเหมือนกันในเกมบาคาร่าทั้งสองแบบ
ขอขอบคุณ http://www.thaihospital.org ที่ให้ความกรุณาในการเผยแพร่