ศ.นพ. สมบูรณ์ คุณาธิคม ประธานราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย กล่าวถึงกรณีมีข่าวพบเด็กหญิงวัย 9 ขวบตั้งครรภ์ ว่า ตนไม่ทราบรายละเอียด แต่โดยหลักแล้วการที่เพศหญิงจะตั้งครรภ์ได้นั้น จะต้องเป็นวัยเจริญพันธุ์ คือ ตั้งแต่มีประจำเดือนจนกระทั่งหมดประจำเดือน และต้องอยู่ในช่วงตกไข่ จึงจะตั้งครรภ์ได้ โดยอายุที่เริ่มมีประจำเดือนครั้งแรกนั้น ปัจจุบันพบน้อยลงเรื่อยๆ คือ เฉลี่ยอายุประมาณ 12-13 ปี จากเมื่ออดีตจะเริ่มมีประจำเดือนต้องอายุ 15 ปีขึ้นไป ซึ่งสาเหตุที่มีประจำเดือนเร็วขึ้นอาจมาจากอาหารการกิน ความเป็นอยู่ อย่างไรก็ตาม แม้จะมีประจำเดือนแล้ว โดยปกติช่วงปีแรกจะไม่เกิดภาวะตกไข่ การตั้งครรภ์ก็จะไม่เกิดขึ้น แต่ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคลด้วย
ศ.นพ.สมบูรณ์ กล่าวต่อว่า โอกาสที่เด็กอายุ 9 ขวบตั้งครรภ์นั้น น้อยมาก เนื่องจากไม่ใช่แค่อยู่ในช่วงวัยเจริญพันธุ์เท่านั้น แต่ด้วยสภาพร่างกายของเด็กเล็กย่อมไม่เหมาะสมกับการตั้งครรภ์ โดยเฉพาะบริเวณอุ้งเชิงกราน อาจเล็กเกินไป แม้ร่างกายจะปรับให้ตามธรรมชาติ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายในการคลอดบุตรของช่วงวัยดังกล่าว ยิ่งในอายุน้อยๆ เมื่อตั้งครรภ์จะเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนมาก ทั้งอาจเกิดภาวะครรภ์เป็นพิษ หรือมารดาที่ตั้งครรภ์เองก็อาจมีภาวะโลหิตจาง เนื่องจากขาดสารอาหารก็เป็นได้ ตรงนี้อันตรายมาก ที่สำคัญในการตั้งครรภ์ตั้งแต่อายุน้อย ยังมีโอกาสคลอดก่อนกำหนด และอาจเสี่ยงแท้งบุตรอีกด้วย
ศ.นพ.สมบูรณ์ กล่าวด้วยว่า การที่ตั้งครรภ์ตั้งแต่อายุน้อยเกินไป หรือแม้กระทั่งวัยรุ่นที่ตั้งครรภ์เมื่อไม่พร้อม ช่วงอายุก่อน 18 ปี กลุ่มนี้มีมากขึ้นประมาณร้อยละ 15 ซึ่งเดิมพบร้อยละ 10-12 แต่ด้วยปัญหาท้องก่อนวัยอันควรทำให้พบวัยรุ่นท้องเพิ่มขึ้น ตรงนี้ไม่เพียงเป็นปัญหาสังคม แต่ยังเป็นปัญหาสุขภาพของผู้เป็นแม่ที่มีอายุน้อยอีกด้วย
"อยากฝากให้สังคม โดยเฉพาะครอบครัว โรงเรียน ควรให้ความรู้ในการระมัดระวังตัวเอง อย่าอยากรู้อยากลอง เพราะยังไม่ใช่วัยที่เหมาะสม ขณะเดียวกันรัฐบาลก็ต้องมีนโยบายรองรับให้คำปรึกษาทันท่วงที เนื่องจากวัยรุ่นที่ท้องไม่พร้อมนั้น ไม่ใช่แค่อยากรู้อยากลองเท่านั้น แต่ปัญหาสำคัญคือ การถูกล้วงละเมิดทางเพศ ยิ่งในวัยเด็กอายุ 12-13 ปีมีโอกาสมาก หากถูกละเลย จะเห็นได้จากข่าวถูกล่วงละเมิดทางเพศทั้งจากญาติ เพื่อน เพื่อนบ้าน ตรงนี้ต้องช่วยกันเฝ้าระวัง เพราะสุดท้ายหากพวกเขาไม่ได้รับการช่วยเหลือทันท่วงที อาจนำไปสู่การทำแท้ง จนกลายเป็นทำแท้งเถื่อน เป็นปัญหาไม่จบสิ้น ประธานราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์ฯ กล่าว
