ผู้เขียน หัวข้อ: นายช่างเมืองพัทยาร้อง รพ.เอกชนทำนิ้วด้วน  (อ่าน 842 ครั้ง)

ABBA

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2105
    • ดูรายละเอียด
วันนี้ ( 16 ส.ค.)  นายเบนต์ วรรณสีทอง อายุ 33 ปี  อาชีพรับราชการ ตำแหน่งนายช่างโยธา ระดับ 4 ศาลาว่าการเมืองพัทยา อยู่บ้านเลขที่ 468/26 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้เข้าร้องเรียนผู้สื่อข่าวประจำกระทรวงสาธารณสุขว่า  รพ.เอกชนแห่งหนึ่งให้การรักษาไม่เป็นไปตามมาตรฐานทำให้นิ้วกลางข้างขวาพิการ โดยเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 21 ก.พ. 2554 ได้ปีนรั้วบ้านเพราะว่ากุญแจหน้าบ้านไม่สามารถเปิดได้ บังเอิญแหวนที่สวมอยู่นิ้วกลางมือขวาไปเกี่ยวกับรั้วเหล็ก ทำให้แหวนครูดเอาหนังหุ้มนิ้วกลางหลุดออก เมื่อตั้งสติได้จึงได้รีบขับรถไป รพ. เอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง โดยนำปลอกนิ้วที่หลุดออกมาไปด้วย พอไปถึง รพ.แพทย์ศัลยกรรมทั่วไปคนหนึ่งได้มาดูแลและให้การรักษา โดยนำปลอกนิ้วที่หลุดออกสวมกลับเข้าไปและทำการเย็บแผลแล้วใช้พันแผลพันบริเวณนิ้วจากนั้นให้กลับไปพักผ่อนที่บ้าน พร้อมนัดให้ไปล้างแผลวันรุ่งขึ้น

“ต่อมาได้ไปล้างแผลโดยแพทย์คนเดิมได้กรีดผิวหนังบริเวณโดยรอบเพื่อระบายเลือดออก หลังจากนั้นก็นัดให้ไปล้างแผลทุกวันเป็นเวลาประมาณ 24 วัน ปรากฏว่า นิ้วเริ่มขาดเลือด ชิ้นเนื้อที่เย็บติดมีสีดำคล้ำ แห้งตาย  แพทย์จึงได้เปลี่ยนแปลงการรักษา โดยฉีดยาชาที่พุงด้านซ้ายพร้อมเปิดหน้าท้องประมาณ  10 ซม.พร้อมตัดนิ้วกลางข้างขวาออกไป 1 ข้อ โดยให้เหตุผลว่า นิ้วมันแห้งตาย จากนั้นได้ทำการฝังนิ้วเข้าไปที่หน้าท้องและเย็บนิ้วติดกับหน้าท้องประมาณ 13 วัน หลังจากนั้นได้ตัดนิ้วพร้อมหนังบริเวณหน้าท้องออกมา”นายเบนต์ กล่าว

นายเบนต์ กล่าวด้วยว่า ได้รักษากับทาง รพ.ดังกล่าวไปจนแผลหายสนิทรวมทั้งสิ้น  96 วัน เมื่อแผลหายแล้วจึงได้มาศึกษาข้อมูลการทำศัลยธรรมนิ้วใหม่ ขณะเดียวกันได้ปรึกษาแพทย์ออโธปิดิกส์ถึงการรักษาที่ผ่านมา ได้ให้คำแนะนำว่า แผลในลักษณะนี้การรักษาค่อนข้างยุ่งยากและมีราคาสูง  เริ่มแรกจะต้องสวมปลอกนิ้วกลับเข้าไปแล้วใช้กล้องจุลทรรศน์ต่อเส้นเอ็น เส้นประสาท เส้นเลือดดำ เส้นเลือดแดงและปิดบาดแผลรอดูอาการประมาณ 7 วันค่าใช้จ่ายตรงนี้ประมาณ 2 แสนบาท หากเนื้อเยื่อไม่ผสานกันจะต้องเลาะปลดนิ้วเดิมออกและไปน้ำนิ้วที่บาดเจ็บไปฝังไว้ที่ขาหนีบ ดังนั้นจึงมองว่า การรักษาที่ผ่านมาไม่น่าจะถูกต้อง เพราะไม่มีแพทย์ออโธปิดิกส์ ซึ่งเป็นแพทย์เฉพาะทางมาดูแลเลย  จึงติดสินใจฟ้องเรียกค่าเสียหายต่อศาลจังหวัดพัทยาเป็นเงิน 13 ล้าน พร้อมกันนี้ได้เข้าร้องเรียนต่อแพทยสภา และสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ เมื่อวันที่ 16 มี.ค. 2555  โดยทางแพทยสภาได้นัดมาให้ปากคำในวันที่ 24 ส.ค.นี้เวลา 13.30 น.