ผู้เขียน หัวข้อ: เครื่องราง ศรัทธา และยาใจ-สารคดี(เนชั่นแนลจีโอกราฟฟิก)  (อ่าน 2479 ครั้ง)

pani

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 756
    • ดูรายละเอียด
อ้าว เฮ้ย...เอ็ง...ลองของ...มันก็เข้าสิวะ เขาให้บอกบูชาครู บอกใหม่... บูชาครู” เสียงลูกศิษย์หลวงพ่อสั่งให้เด็กหนุ่มเปลี่ยนคำพูด ซึ่งเขาก็รีบกุลีกุจอทำตามอย่างว่าง่าย แม้จะดูตื่นเต้นอยู่ไม่น้อย “ครับขอบูชาครูครับ” กลุ่มคนจำนวนหลายสิบที่เข้ามาขอบูชาตะกรุดชุดแรกของช่วงบ่ายและกำลังทยอยออกจากห้องต่างหันหลังกลับในทันทีที่ได้ยินเสียงยืนยันชัดเจน แล้วการเบียดตัวหาที่ว่างภายในกุฏิก็เกิดขึ้น คำพูดตะกุกตะกักสั้นๆแต่หนักแน่นของหนุ่มร่างสูง หน้าจืด แต่แววตาดูเอาเรื่องคนนี้ ได้เปลี่ยนบรรยากาศอบอ้าวของช่วงบ่ายกลางเดือนมิถุนายน ที่สมานกับพลังศรัทธาในตัวหลวงพ่อจำลองแห่งวัดเจดีย์แดง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เกี่ยวกับอิทธิปาฏิหาริย์ด้านคงกระพันชาตรีจากตะกรุดลงอาคมของหลวงพ่อให้ทวีร้อนแรงมากยิ่งขึ้น

        สำหรับสุขสันต์ กลบกลิ่น หนุ่มชาวนครสวรรค์วัย 27 ปี การลองของคงถือเป็นวิธีการเรียกศรัทธาได้ดีที่สุดของเขา แม้จะดูบ้าบิ่นและไร้เหตุผลสำหรับคนทั้งกุฏิในวันนั้น นี่ไม่ใช่การลองของครั้งแรก ย้อนหลังไปราวสิบปี สุขสันต์ผู้บ้าบิ่นเคยเดินทางไปรับการสักน้ำมันกับหลวงพ่อเปิ่นแห่งวัดบางพระที่เมืองนครชัยศรี และปิดฉากด้วยการทดสอบความขลังโดยให้หลวงพ่อใช้ดาบเล่มยาวคมกริบฟันที่กลางหลัง แต่ไม่ระคายผิวของเขาแม้แต่น้อย และเช่นเดียวกันสำหรับหลวงพ่อจำลองการบูชาครูครั้งนี้หาได้เป็นการพยายามค้นคำตอบและเรียกศรัทธาครั้งแรกและครั้งสุดท้ายของผู้คน ทั้งชาวบ้านและพระลูกวัดที่ตั้งโต๊ะให้บริการสวมปลอกตะกรุดอยู่ข้างกุฏิเก่าโทรมของหลวงพ่อ ยืนยันว่าการปลุกเสกพร้อมเปิดให้บูชาตะกรุดมีขึ้นทุกวัน วันละหลายร้อยดอก และการบูชาครูเช่นนี้เกิดขึ้นแทบทุกอาทิตย์

        ที่ข้างอาสนะ มีดหมอวาววับเสียบแช่อยู่ในขวดแอลกอฮอล์ล้างแผล โค้งคมของมันทำให้รู้สึกเสียววาบถึงสันหลัง “กำไว้แน่นๆ” เสียงหลวงพ่อกำชับ ก่อน ตามมาด้วยเสียงร่ายคาถาสะกดคนดูให้เงียบงัน นักลองของใจหาญถอดเสื้อหมอบลงกับพื้นให้หลวงพ่อประพรมน้ำมนต์จนเปียกโชก เขากำดอกตะกรุดหุ้มยางรักสีดำมะเมื่อมปิดส่วนกลางด้วยแผ่นทองคำเปลวไว้ในมือ และทันทีที่เสียงร่ายอาคมจบลง หลวงพ่อก็ลุกพรวดขึ้นพร้อมฉวยมีดหมอข้างกายปักปลายแหลมลงที่สะบักไหล่ซ้ายแล้วกรีดยาวลงไปจนถึงบั้นเอวอย่างรวดเร็วและหนักหน่วง เสียงออกแรงกดของหลวงพ่อดังผสานเสียงมีดโลหะกรีดผิวเนื้อดังก้องไปทั่วทั้งกุฏิอย่างต่อเนื่อง กลุ่มคนดูยืนจ้องตัวเกร็งราวกับจะลืมหายใจ หลายคนครางด้วยความเสียวไส้ ไม่กี่อึดใจเสียงมีดกรีดเนื้อก็หยุดลง รอยสีแดงเรื่อเป็นทางยาวนับ 30 รอยก็ประทับบนแผ่นหลังของเจ้าหนุ่ม เลือดสีแดงสดเริ่มซึมออกมาเหมือนยางมะตูม “นี่...ของแท้”หลวงพ่อพูดพลางหายใจหอบ ก่อนทรุดนั่งและหย่อนมีดหมอลงในแอลกอฮอล์ล้างแผลขวดเดิม

        เรื่องราวของตะกรุดรวมทั้งเครื่องรางของขลังที่คนไทยรู้จักดีหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเสื้อยันต์ ผ้ายันต์ ผ้าประเจียด รวมทั้งว่านยา มีหลักฐานกล่าวถึงสรรพคุณต่างๆ ทั้งความคงกระพันหนังเหนียวและเมตตามหานิยม ตั้งแต่ช่วงปลายสมัยอยุธยา จากเสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน หากความเชื่อดังกล่าวปรากฏขึ้นก่อนหน้านั้น จารึกในพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาในแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราชเมื่อปลายพุทธศตวรรษที่ยี่สิบสาม กล่าวถึงเหตุการณ์เมื่อครั้งเจ้าพระยาโกษา-ปานเป็นทูตไปเจริญสัมพันธไมตรีกับมหาอำนาจฝรั่งเศส และได้จัดแสดงความคงกระพันชาตรีของหน่วยทหารกองอาทมาตจำนวน 100 นาย ผู้ขึ้นชื่อว่าเชี่ยวชาญวิชชาชาตรี เจนจบในตำรับพิชัยสงคราม แต่อ้างเพียงว่าเป็นกะลาสีเรือทั่วไปเท่านั้น ครั้งนั้นเจ้าพระยาโกษาปานจัดให้บรรดากะลาสีเข้าไปนั่งรวมกลุ่มในวงล้อมสายสิญจน์ โดยมีปะขาวเป็นผู้ทำพิธีปักธงธวัชและตั้งศาลเพียงตา ก่อนให้สัญญาณแก่บรรดานายทหารจำนวน 200 นายของพระเจ้าหลุยส์ที่สิบสี่ ซึ่งยืนถือปืนห่างออกไปราวยี่สิบวา ระดมยิง จารึกกล่าวว่า “เสียงปืน 200 กระบอกดังสนั่นหน้าพระที่นั่ง ควันปืนอบอวลคลุ้งกระจาย ลูกกระสุนปืนทั้ง 200 นัดมิได้ระคายแม้ชายเสื้อทหารสยามทั้งหลาย เป็นที่อัศจรรย์”


     สิงหาคม 2550