ผู้เขียน หัวข้อ: สัมผัสมรณะ-สารคดี(เนชั่นแนลจีโอกราฟฟิก)  (อ่าน 2147 ครั้ง)

pani

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 756
    • ดูรายละเอียด
เมื่อเดือนกันยายน ปี 1994 เกิดโรคร้ายในคอกม้าแข่งชานเมืองบริสเบนของออสเตรเลีย ในย่านที่พักอันเก่าแก่และเงียบสงบชื่อเฮนดรา ซึ่งมีทั้งสนามม้า คอกม้า แผงขายโพยม้าแข่ง ร้านกาแฟมุมถนนมีชื่ออย่างเดอะฟีดบิน และคนในวงการแข่งม้า เหยื่อรายแรกเป็นม้าท้องชื่อดรามาซีรีส์  มันเริ่มมีอาการในทุ่งหญ้านอกเขตชุมชนและถูกนำตัวมารักษาที่คอก แต่กลับทรุดลง แม้คนฝึกม้า หัวหน้าคนงานของคอกม้า และสัตวแพทย์ จะพยายามอย่างไร มันก็ตายในอีกสองวันถัดมา ทิ้งปริศนาการตายไว้ จะเป็นเพราะถูกงูกัดหรือกินพืชที่มีพิษในทุ่งหญ้าหรือเปล่า สองสัปดาห์ต่อมา สมมติฐานเหล่านั้นก็ตกไปเมื่อม้าอีกหลายตัวในคอกเริ่มป่วย นี่ไม่ใช่งูกัดหรืออาหารเป็นพิษ แต่เป็นโรคติดต่อแน่นอน
     ม้าตัวอื่นๆมีไข้ หายใจติดขัด หน้าบวม และเชื่องช้า บางตัวมีเลือดออกจากปากและจมูกเป็นฟองฟอด ทั้งที่สัตวแพทย์พยายามอย่างเต็มที่ แต่ม้าอีก 12 ตัวก็ตายในไม่กี่วัน ระหว่างนั้นคนฝึกม้าและหัวหน้าคนงานก็เริ่มป่วย แต่สัตวแพทย์ที่ทำงานอย่างระมัดระวังกลับสบายดี ไม่กี่วันต่อมาคนฝึกม้าก็เสียชีวิตที่โรงพยาบาลเพราะไตวายและหายใจไม่ออก ส่วนเรย์ อันวิน หัวหน้าคนงานใจอารีที่กลับไปรักษาตัวตามลำพังที่บ้านรอดชีวิต เขากับสัตวแพทย์เล่าเหตุการณ์ให้ฟังตอนที่ผมไปเฮนดราเมื่อปีที่แล้ว เรย์ อันวิน ชายวัยกลางคนผู้มีผมหางม้าสีทองแดงและนัยน์ตาหมองเศร้า บอกว่าเขาไม่ได้ "สำออย" แต่สุขภาพของเขา "ผิดปกติ" ตั้งแต่เกิดเรื่อง
     ผลวิเคราะห์จากห้องปฏิบัติการเผยว่า ทั้งม้าและคนติดเชื้อไวรัสที่ไม่รู้จักมาก่อน ตอนแรกเจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการเรียกไวรัสนี้ว่า อีไควน์มอร์บิลลิไวรัส หมายถึงไวรัสของม้าที่มีลักษณะใกล้เคียงไวรัสโรคหัด ต่อมาเมื่อเข้าใจลักษณะเฉพาะของไวรัสมากขึ้น พวกเขาก็เรียกมันว่าเฮนดราตามที่เกิดเหตุ ปีเตอร์ รีด สัตวแพทย์รูปร่างสูง ท่าทางสุภาพ บอกว่า "การติดต่อระหว่างม้านั้นเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ" ในช่วงวิกฤติของเหตุการณ์ มีม้า 7 ตัวตายอย่างทุกข์ทรมานหรือต้องทำการุณยฆาตในช่วงเวลาแค่ 12 ชั่วโมง ม้าตัวหนึ่งดิ้นทุรนทุรายและหอบหนักจนไม่อาจเข้าไปฉีดยาให้ตายได้ "ผมไม่เคยเห็นไวรัสทำอะไรแบบนี้มาก่อนครับ" เขาบอก ชายที่พูดน้อยกว่าความเป็นจริงเรียกเหตุการณ์นั้นว่า "ช่วงเวลาที่ค่อนข้างสยดสยอง"
     การชี้ตัวไวรัสชนิดใหม่เป็นเพียงขั้นแรกในการไขความลับของเฮนดราเท่านั้น ยังมีเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจอีกมากในภาพรวม ขั้นที่สองคือการแกะรอยว่าไวรัสซ่อนตัวที่ไหนยามไม่ได้ฆ่าม้าและคน ขั้นที่สามคือการระดมคำถามเป็นชุด นั่นคือ มันออกจากที่ซ่อนได้อย่างไร ทำไมจึงเป็นที่นี่ และตอนนี้   
     หลังจากคุยกันครั้งแรก ปีเตอร์ รีด ได้ขับรถพาผมไปดูจุดที่ (ม้า) ดรามาซีรีส์เริ่มป่วย บ้านชานเมืองที่เป็นระเบียบสร้างขึ้นบนทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์เก่า มองไม่เห็นภูมิประเทศดั้งเดิมเท่าใดนัก กลางวงเวียนคัลลีออปเซอร์กิตสุดถนนสายหนึ่งมีต้นมะเดื่อพื้นเมืองต้นใหญ่ยืน ตระหง่านอย่างโดดเดี่ยว นางม้าคงอาศัยร่มเงาต้นไม้นี้หลบแสงอาทิตย์อันแผดเผาของออสเตรเลียตะวันออก

     รีดบอกว่า "นั่นไงครับต้นไม้ตัวการ" เขาหมายถึงต้นไม้ที่ค้างคาวมารวมกัน

     โรคติดเชื้อมีอยู่รอบตัวเรา เป็นเหมือนปูนขาวธรรมชาติที่เชื่อมสิ่งมีชีวิตต่างชนิดเข้าด้วยกันภายในโครง ข่ายอันประณีตที่ชื่อระบบนิเวศ โรคติดเชื้อเป็นกระบวนการพื้นฐานหนึ่งที่นักนิเวศวิทยาศึกษา ควบคู่กับการล่า การแข่งขัน และการสังเคราะห์แสง สัตว์นักล่ามักเป็นสัตว์ขนาดใหญ่ที่กินเหยื่อจากภายนอก ส่วนจุลชีพก่อโรค (สิ่งที่ทำให้เกิดโรค เช่นไวรัส) เป็นสัตว์ขนาดเล็กที่กินเหยื่อจากภายใน แม้โรคติดเชื้อจะดูน่ากลัวและร้ายกาจ แต่ในสถานการณ์ปกติ นี่เป็นกระบวนการธรรมชาติ เหมือนสิงโตล่าวิลเดอบีสต์ ม้าลาย และกาเซลล์ ทว่าสถานการณ์ไม่ปกติเสมอไป
      สัตว์นักล่ามีเหยื่อชนิดโปรดที่ล่าเป็นประจำ จุลชีพก็เช่นกัน และเมื่อบางครั้งสิงโตอาจมีพฤติกรรมผิดปกติ เช่น ฆ่าวัวแทนวิลเดอบีสต์ ฆ่าคนแทนม้าลาย จุลชีพก็เปลี่ยนเป้าหมายใหม่ได้เช่นกัน อุบัติเหตุและความคลาดเคลื่อนเกิดขึ้นได้เสมอ เมื่อสถานการณ์เปลี่ยน โอกาสและความต้องการก็เปลี่ยนไป เมื่อจุลชีพแพร่กระจายจากสัตว์ไปสู่มนุษย์และก่อโรคได้สำเร็จ ผลที่ตามมารู้จักกันในชื่อ โรครับจากสัตว์
     คนส่วนใหญ่ไม่คุ้นกับคำว่าโรครับจากสัตว์ แต่คำนี้ช่วยอธิบายข้อเท็จจริงทางชีววิทยาเบื้องหลังข่าวพาดหัวที่น่ากลัว อย่างไข้หวัดนก ซาร์ส และโรคร้ายชนิดใหม่อื่นๆ รวมถึงอันตรายของการระบาดไปทั่วโลก คำนี้ชี้นัยสำคัญเกี่ยวกับกำเนิดเอชไอวี และเป็นคำแห่งอนาคตที่จะใช้กันมากในศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ด
     โรครับจากสัตว์ได้แก่อีโบลา กาฬโรคต่อมน้ำเหลืองไข้เหลือง ไข้ทรพิษลิง วัณโรควัว โรคไลม์ ไข้เวสต์ไนล์ โรคมาร์บวร์ก ไข้หวัดใหญ่หลายชนิด โรคพิษสุนัขบ้า กลุ่มอาการทางปอดจากไวรัสฮันตา และโรคร้ายชนิดใหม่ชื่อนิปาห์ที่ฆ่าหมูและเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูในมาเลเซีย หลายคน แต่ละโรคแสดงการแพร่กระจายของจุลชีพก่อโรคจากสัตว์สู่มนุษย์ การกระโดดข้ามสายพันธุ์เช่นนี้พบบ่อย ไม่ถือว่าเกิดขึ้นยาก โดยโรคติดเชื้อที่พบทั้งในมนุษย์และสัตว์คิดเป็นร้อยละ 60 ของโรคติดเชื้อในมนุษย์ที่รู้จักกันในปัจจุบัน บางโรคซึ่งเป็นที่รู้จักดีและมีอันตรายถึงตาย เช่น พิษสุนัขบ้า ยังคงคร่าชีวิตผู้คนหลายพันคน ทั้งที่เราหาวิธีรักษามาหลายร้อยปีและมีการร่วมมือระหว่างประเทศในการกำจัด หรือควบคุมโรค ทั้งยังเข้าใจการทำงานของโรคในเชิงวิทยาศาสตร์อย่างถ่องแท้แล้ว ส่วนโรคอื่นๆนั้นยังใหม่และเกิดขึ้นไม่บ่อย มีเหยื่อไม่กี่ราย (เช่นไวรัสเฮนดรา) หรือมีไม่กี่ร้อยรายในบางจุด ก่อนจะเงียบหายไปหลายปี
       ไข้ทรพิษเป็นตัวอย่างหนึ่งของโรคที่ไม่ได้รับจากสัตว์ แต่เกิดจากไวรัสที่ติดต่อในมนุษย์หรือ โฮโมเซเปียน  และในบางกรณีที่พิเศษมากๆ อาจติดต่อไปถึงไพรเมตบางชนิดได้ แต่จะไม่ติดต่อไปยังม้า หนู หรือสัตว์อื่นๆ จึงทำให้การรณรงค์กำจัดโรคนี้ทั่วโลกขององค์การอนามัยโลกสำเร็จลงได้ในปี 1979 เรากำจัดไข้ทรพิษได้เพราะไวรัสก่อโรคนี้ไม่อาจอาศัยอยู่ที่อื่นได้นอกจากใน มนุษย์ และไม่อาจหลบซ่อนได้ ในขณะที่จุลชีพของโรครับจากสัตว์นั้นซ่อนตัวได้

 ตุลาคม 2550