ผู้เขียน หัวข้อ: สถานการณ์โรคผิวหนังน่าห่วง ผู้ป่วยติดเชื้อมากขึ้น เหตุแพทย์เฉพาะทางน้อย  (อ่าน 1364 ครั้ง)

ABBA

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2105
    • ดูรายละเอียด
       รก.ผอ.สถาบันโรคผิวหนัง ชี้ การมีแพทย์เฉพาะทางน้อย อาจเป็นส่วนหนึ่งทำให้ผู้ป่วยติดเชื้อทางผิวหนังมากขึ้น ชี้แพทย์ส่วนใหญ่ประจำโรงพยาบาล 2-3 ปี ก็แยกตัวเปิดคลินิก
       
       นพ.จินดา โรจรเมธินทร์ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กล่าวว่า สถานการณ์ปัญหาโรคผิวหนังของคนไทยค่อนข้างน่าเป็นห่วง เนื่องจากบุคลากรทางการแพทย์มีน้อย โดยพบว่า แพทย์โรคผิวหนังจะประจำอยู่ตามโรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศได้ไม่นานนัก เฉลี่ยประมาณ 2-3 ปี ส่วนใหญ่มักออกไปเปิดคลินิกเป็นของตัวเอง ขณะที่ปัญหาโรคผิวหนังทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะโรคผิวหนังที่เกิดจากการติดเชื้อ ซึ่งต้องอาศัยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการดูอาการทางคลินิก อาทิ โรคมือเท้าปาก ซึ่งกำลังเป็นข่าวครึกโครมอยู่ในขณะนี้ ก็เกิดจากการติดเชื้อทางผิวหนังผ่านการสัมผัส แพทย์จะต้องสังเกตอาการจากตุ่มที่มือ เท้า และแผลในปาก รวมไปถึงยังต้องอาศัยผลการตรวจจากห้องปฏิบัติการประกอบกัน เพื่อวินิจฉัยโรค ซึ่งจะช่วยให้ทำการรักษาได้อย่างถูกต้อง และควบคุมไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดออกไปในวงกว้าง นอกจากนี้ ปัญหาโรคผิวหนังที่สำคัญอีกประการหนึ่งที่คนไทยมักมองข้ามคือ โรคมะเร็งผิวหนัง เพราะบางครั้งมะเร็งอาจมีลักษณะคล้ายไฝ ทำให้ไม่ได้ใส่ใจในการไปพบแพทย์เพื่อรักษา
       
       “การมีแพทย์โรคผิวหนังน้อย อาจมีส่วนให้จำนวนผู้ป่วยติดเชื้อทางผิวหนังเพิ่มมากขึ้น อย่างโรคมือเท้าปากที่มีผู้ป่วยเป็นจำนวนมากนั้น ก็เนื่องจากมีบุคลากรในการตรวจวินิจฉัยน้อย ซึ่งขณะนี้ต้องอาศัยแพทย์ กุมารแพทย์ พยาบาลในการช่วยตรวจดูอาการ เพื่อควบคุมการกระจายของโรค” นพ.จินดา กล่าว
       
       นพ.จินดา กล่าวด้วยว่า สาเหตุอันดับหนึ่งที่คนไทยเข้ามารับการรักษากับแพทย์โรคผิวหนัง ไม่ใช่ปัญหาผิวพรรณและความงาม แต่เป็นปัญหาอาการผื่นแพ้อันเนื่องมาจากปูนซีเมนต์ ผงซักฟอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากเครื่องสำอาง ซึ่งพบว่า มักเกิดจากการใช้เครื่องสำอางที่มีกระบวนการผลิตไม่ถูกต้อง มีการผสมของสารไฮโดรควิโนน ทำให้เกิดอาการแพ้แดงคัน นอกจากนี้ ยังพบอีกว่า มีผู้เข้ารับการรักษา ที่มีปัญหาจากการเข้ารักษาตามคลินิกต่างๆ เพิ่มมากขึ้นด้วย เนื่องจากปัจจุบันสังคมมีค่านิยมในเรื่องของความสวยงามมากขึ้น ทำให้มีคลินิกสถานความงามเปิดแข่งขันกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งประชาชนอาจไปเจอเครื่องมือ หรืออุปกรณ์ที่ไม่ผ่าน อย. ละการรักษาอาจทำโดยบุคลากรที่ไม่ได้รับการอบรม เป็นต้น