ผู้เขียน หัวข้อ: หมอสุรวิทย์ ยัน ไม่ปกปิดข้อมูล"ผู้ป่วยโรคมือเท้าปาก" เด็ดขาด  (อ่าน 1040 ครั้ง)

ABBA

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2105
    • ดูรายละเอียด
         
 นายแพทย์สุรวิทย์  คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยเกี่ยวกับความคืบหน้ากรณีเด็กวัย 2 ขวบเสียชีวิตที่โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2555 ที่ผ่านมาว่า ผลการตรวจอุจจาระของผู้เสียชีวิตรายนี้ แม้ไม่พบเชื้อไวรัสโรคมือเท้าปากก็ตาม ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้ขึ้นบัญชีไว้ เป็นผู้ป่วยที่มีอาการอยู่ในข่ายสงสัยโรคมือเท้าปาก โดยกระทรวงสาธารณสุขจะไม่มีการปิดบังข้อมูลอย่างเด็ดขาด จะรายงานผู้ป่วยอย่างตรงไปตรงมา โดยจะนำข้อมูลการเสียชีวิตของเด็กรายนี้ เข้าที่ประชุมของผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยาและระบาดวิทยา ที่กระทรวงสาธารณสุขตั้งขึ้น ประกอบด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จากหน่วยงานทั้งในและนอกกระทรวงสาธารณสุข เช่น คณะแพทยศาสตร์จากมหาวิทยาลัยต่างๆ ผู้แทนองค์การอนามัยโลก ในสัปดาห์หน้านี้
 
  
ทั้งนี้ในการที่ผู้ป่วยเสียชีวิตจากโรคมือเท้าปากหรือไม่นั้น จะต้องพิจารณาประกอบกัน 3 ด้าน ได้แก่ 1.ระบาดวิทยาของเชื้อโรคมือเท้าปาก 2.อาการของผู้ป่วยที่ปรากฎตั้งแต่เริ่มป่วยจนถึงก่อนเสียชีวิต และ 3.ผลการตรวจเชื้อขั้นยืนยันทางห้องปฏิบัติการของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ดังนั้นผู้เสียชีวิตรายนี้ ยังจัดอยู่ในข่ายของผู้ป่วยสงสัยเท่านั้น จะต้องรอผลการประชุมของคณะผู้เชี่ยวชาญ เพื่อยืนยันสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง ในสัปดาห์หน้านี้
 
  
นายแพทย์สุรวิทย์ กล่าวต่อว่า สถานการณ์ของโรคมือเท้าปาก ในขณะนี้จัดว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ควบคุมได้ ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆเป็นอย่างดี และประชาชนมีการตื่นตัวในเรื่องนี้ดีมาก ซึ่งโรคมือเท้าปากจัดเป็นโรคประจำถิ่นในไทยอยู่แล้ว การเกิดโรคในปีนี้ไม่ได้มากกว่าปีที่แล้ว ในปี 2554 พบผู้ป่วยประมาณ 18,000 ราย โดยในรอบ 7 เดือนปีนี้ พบผู้ป่วยสะสมทั้งหมด 13,200 ราย เชื่อว่าเชื้อจะระบาดต่อไปอีกประมาณ 1 เดือน ก็จะเบาบางลง เนื่องจากสภาพสิ่งแวดล้อมจะไม่เหมาะสมกับเชื้อไวรัสชนิดนี้ ซึ่งชอบความชื้น และประการสำคัญ ยังไม่พบการแพร่ระบาดของเชื้อโรคมือเท้าปาก จากกัมพูชาเข้ามาในไทย โดยกระทรวงสาธารณสุขได้จัดทีมแพทย์ เจ้าหน้าที่ไปตรวจคัดกรองให้กับชาวกัมพูชาที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง ตามจังหวัดที่ติดชายแดน หากพบว่าเด็กกัมพูชาที่เข้ามาในไทยมีอาการป่วยโรคมือเท้าปาก จะให้การรักษาอย่างดีตามหลักมนุษยธรรม และแนะนำให้กลับไปพักรักษาตัว ที่ประเทศกัมพูชาจนหายเป็นปกติ จะไม่อนุญาตให้เข้ามาในประเทศไทย
 
  
อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนทุกคนช่วยกันดูแลสุขภาพของลูกหลาน ให้หลีกเลี่ยงการพาเด็กไปในที่แออัด ให้ยึดหลัก กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ โดยทั้งผู้ปกครองและเด็ก ต้องล้างมือฟอกสบู่บ่อยๆ หลังสัมผัสสิ่งของต่างๆ หรือก่อนรับประทานอาหาร และภายหลังเข้าห้องน้ำห้องส้วมทุกครั้ง เปิดประตูหน้าต่างให้แสงแดดส่องเข้าถึง เพื่อลดความอับชื้นในบ้าน และให้สังเกตุอาการเด็กทุกวัน หากเด็กป่วยเป็นโรคมือเท้าปากสัญญาณของโรคนี้คือ มีไข้ต่ำๆ ต่อมาประมาณ 2-3 วันจะมีตุ่มใสขึ้นตามมือ เท้า และในปากที่ใดที่หนึ่ง หากพบเด็กมีอาการที่กล่าวมา ขอให้รีบพาไปพบแพทย์ทันที เพื่อการดูแลรักษาที่ถูกต้อง และการควบคุมป้องกันไม่ให้เชื้อแพร่ระบาดในวงกว้าง