ผู้เขียน หัวข้อ: เลขาฯ แสบ ศัลยกรรมคล้ายเจ้านายสาว ตุ๋นแบงก์เชิดบัตรเครดิต 5 ล้าน  (อ่าน 1090 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9745
    • ดูรายละเอียด
เลขาฯ บริษัทอสังหาริมทรัพย์ แอบอ้างใช้ชื่อผู้บริหารสาวเปิดบัตรเครดิต ปลอมแปลงเอกสาร พร้อมทั้งศัลยกรรมตกแต่งใบหน้า-เหลาคางให้แหลม ทำให้มีรูปใบหน้าคล้ายกับผู้บริหารสาวเพื่อใช้ในการหลอกลวงธนาคารพาณิชย์ และสถาบันการเงิน 9 แห่ง รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 5.3 ล้านบาท
       
       วันนี้ (19 ก.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 11.30 น. สมาคมธนาคารไทยได้นำตัวแทนธนาคารธนชาต, กรุงเทพ, กรุงศรีอยุธยา, กสิกรไทย, ไทยพาณิชย์, ยูโอบี, ซิตี้แบงก์, เอชเอสบีซี และบริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีต่อ น.ส.น้อง (ขอสงวนนาม) อายุ 34 ปี เลขานุการส่วนตัวของผู้บริหารสาว ฝ่ายการตลาดของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังแห่งหนึ่ง ในความผิดเกี่ยวกับบัตรเครดิต และปลอมและใช้เอกสารสิทธิของผู้อื่น
       
       สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า เมื่อประมาณปี 2554 น.ส.น้อง ซึ่งเป็นเลขานุการส่วนตัวที่ทำงานให้กับผู้บริหารสาวคนนี้มานานหลายปี และเก็บรักษาเอกสารสำคัญของผู้บริหารรายนี้เอาไว้ได้นำบัตรประชาชน และสำเนาเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการเงินไปขอเปิดใช้บัตรเครดิต 9 ใบจากธนาคารพาณิชย์ และสถาบันการเงิน 9 แห่ง ซึ่งสถาบันการเงินแต่ละแห่งก็อนุมัติบัตรเครดิตให้
       
       ต่อมาเมื่อสถาบันการเงินแต่ละแห่งทวงหนี้บัตรเครดิตไปยังผู้บริหารสาวรายนี้ก็ถูกปฏิเสธการชำระหนี้ โดยอ้างว่าไม่เคยขอใช้บัตรเครดิตแต่อย่างใด ทำให้มีการตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่างๆ กระทั่งพบว่าเลขานุการสาวรายนี้เป็นผู้ดำเนินการยื่นเอกสารและปลอมลายมือชื่อผู้บริหารสาวเพื่อขอมีบัตรเครดิตทั้งหมด และกระทำลักษณะเดียวกันนี้กับธนาคารและสถาบันการเงินที่เหลืออีก 8 แห่งด้วย สมาคมธนาคารไทยจึงประสานรวบรวมข้อมูลทั้งหมดก่อนจะพากันมาแจ้งความในครั้งนี้
       
       ตัวแทนธนาคารแห่งหนึ่งเปิดเผยว่า ผู้ต้องสงสัยรายนี้นำบัตรเครดิตทั้ง 9 ใบไปสลับกันรูดซื้อสินค้าและบริการนับร้อยครั้งมีทั้งซื้อสินค้าทั่วไป กดเงินสดจากตู้เอทีเอ็ม จองห้องพักโรงแรม รูดใช้บริการเสริมความงาม และศัลยกรรมตกแต่งใบหน้า โดยเหลาคางให้แหลม และทำให้มีรูปใบหน้าคล้ายกับผู้บริหารสาวคนนี้ทำให้บางครั้งเวลาเดินทางไปทำธุรกรรมที่ธนาคารก็ทำให้พนักงานธนาคารคิดว่าเป็นตัวผู้บริหารสาวมาเองจึงอำนวยความสะดวกให้ เหตุเกิดตั้งแต่ปี 2554 ถึงเดือนเมษายนที่ผ่านมา รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 5.3 ล้านบาท ส่วนตัวผู้บริหารสาว หลังทราบว่าถูกเลขานุการคนสนิทนำชื่อและเอกสารส่วนตัวไปขอมีบัตรเครดิตจนได้รับความเสียหายก็ได้เข้าแจ้งความที่ สน.ห้วยขวาง ให้ดำเนินคดีต่อเลขานุการสาวคนนี้แล้วอีกทางหนึ่ง
       
       หลังรับเรื่อง พ.ต.อ.ประสพโชคได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.สุวัฒน์ แสงนุ่ม พงส.(สบ 4) บก.ป. และพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. รับเรื่องสอบปากคำตัวแทนธนาคารทั้งหมดไว้เป็นหลักฐานเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป


ทีมข่าวอาชญากรรม    19 กรกฎาคม 2555