ภก.วินิต อัศวกิจวิรี ผู้อำนวยการสำนักยา สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวถึงกรณีมีผู้ร้องเรียนไปยังสื่อบางฉบับเกี่ยวกับการใช้ยา "ฟิแนสเทอไรด์" (Finasteride) ซึ่งเป็นยากลุ่มที่ใช้รักษาภาวะผมร่วง โดยบางคนมีผลข้างเคียง ทำให้ทานอาหารได้น้อย และความรู้สึกทางเพศลดลง ว่า ปัจจุบันในวงการเภสัชกรรมไทย ทราบดีว่ายาฟิแนสเทอไรด์ เป็นยารักษาต่อมลูกหมากโตในเพศชาย เพื่อยับยั้งฮอร์โมนเพศชายที่มีมากเกินไป แต่ก็มีการปรับใช้เพื่อลดอาการผมร่วงได้เฉพาะในเพศชายเท่านั้น แต่ในเพศหญิงห้ามใช้โดยเฉพาะหญิงตั้งครรภ์ เพราะอาจเสี่ยงต่อการแท้งลูกมากยาดังกล่าวเมื่อรับประทานไปแล้วจะมีผลช่วยลดผมร่วงที่เกิดจากฮอร์โมนเพศชายสูงซึ่งลดได้เต็มที่เพียงร้อยละ 20-30 เท่านั้น แต่กรณีผมร่วงที่เกิดจากกรรมพันธุ์หรือเกิดในผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปี ก็ถือเป็นการเสื่อมสภาพของเส้นผมและรากผม ซึ่งส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะขาดวิตามิน บี 6 โดยจะออกฤทธิ์ที่เห็นผลชัดเจนหลังจากทานไปแล้ว 3-4 เดือน
"กรณีของการได้รับผลข้างเคียงจากการใช้ยานั้นเป็นเรื่องปกติที่ผู้บริโภค ซึ่งซื้อยารับประทานเองมักได้รับผลกระทบคือจำนวนสเปิร์มลดลง แต่ก็ไม่ถึงขั้นสมรรถภาพทางเพศเสื่อมแค่รู้สึกน้อยลงเท่านั้น สิ่งสำคัญในการใช้ยา ฟิแนสเทอไรด์ ควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ในการใช้จะดีที่สุดผู้ที่ได้รับผลข้างเคียงจากยาดังกล่าวแนะนำว่าควรหยุดยา โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 40 ปี แล้วหันไปรับประทานอาหารที่เน้นผักให้มากหรือทานเนื้อสัตว์ในปริมาณที่เพียงพอ เพื่อให้เส้นผมได้รับวิตามิน บี 6 จะได้มีสภาพเส้นผมที่แข็งแรงและไร้ปัญหาสุขภาพจากผลข้างเคียง" ภก.วินิตกล่าว
