ผู้เขียน หัวข้อ: พระเล่าให้ฟัง-ก็คลายเครียดได้  (อ่าน 1837 ครั้ง)

rabb

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 157
    • ดูรายละเอียด
พระเล่าให้ฟัง-ก็คลายเครียดได้
« เมื่อ: 24 สิงหาคม 2010, 00:46:43 »
อย่างวันหนึ่งระหว่างที่อาตมากำลังฉันเพลอยู่ก็มีโยมท่านหนึ่งโทร.มา
  "พระอาจารย์เหรอคะ นี่อาตมาเองนะคะ"
  "หา อะไรนะ"
  "พระอาจารย์เหรอคะ นี่อาตมาเองค่ะ"
  "ถ้าโยมแทนตัวว่าอาตมา แล้วอาตมาจะแทนตัวอาตมาว่าอะไร"
  "อ๋อ ขอโทษค่ะ"
  หลังจากนั้นก็คุยธุระกันจนจบ อาตมาก็กล่าวว่า "เจริญพร"
  "ค่ะ เจริญพรเช่นกัน"
  แน่ะ มีอวยพรให้พระด้วย
 
  ข้างต้นก็คือ สิ่งที่มักจะเกิดขึ้นบ่อยๆระหว่างพูดคุยกับเหล่าญาติโยม จนถือว่าเป็นเรื่องปกติสำหรับอาตมาไปแล้ว หรืออย่างก่อนหน้านี้มีโยมผู้หญิงคนหนึ่ง เดินถือสังฆทานมาอย่างมาดมั่น พอเข้ามาในกุฏิแล้ว เธอก็มุ่งตรงไปที่พระบวชใหม่รูปหนึ่งทันที
  "ถวายสังฆทานค่ะ"
  พระบวชใหม่ด้วยความที่ยังจำบทสวดต่างๆ ไม่ค่อยคล่องนัก จึงหยิบหนังสือขึ้นมาดู
  "ไม่ต้องค่ะ " โยมผู้หญิงคนนั้นกล่าวอย่างหนักแน่นตามสไตล์สาวมั่น
  "ดิฉันท่องได้ค่ะ เพราะคุณยายพาเข้าวัดตั้งแต่เด็กๆ" เธอพนมมือขึ้น ก่อนกล่าวว่า
  "อิมานิ มะยัง ภันเต สะปะริวารานิ คิกขุ สังโฆ" (ที่ถูกต้องจะต้องเป็น ภิกขุ สังโฆ)
  พระบวชใหม่มีสีหน้างุนงง ก่อนหันมาถามอาตมา "คิกขุสังโฆ นี่มันฟังทะแม่งๆ นะหลวงพี่"
  อาตมาเกรงว่าโยมผู้นั้นจะหน้าแตก ก็เลยตอบไปว่า "คิกขุ แปลว่า น่ารัก
  สังโฆ แปลว่า สงฆ์ คิกขุสังโฆ ก็คือ แด่พระสงฆ์ผู้น่ารัก" เท่านั้นแหละ
  พระใหม่รูปนั้นนั่งยืดทั้งวันเลย

  แต่ก็มีบางกรณีที่การพูดผิดของคุณโยมทำให้อาตมาแทบจะสำลัก อย่างเมื่อเร็วๆนี้ มีโยมท่านหนึ่งโทรศัพท์มา
 
  "หลวงพี่ขา ขอเรียนเชิญนิมนต์ค่ะ"
  "ไปไหนล่ะโยม"
  "ไปมรณภาพที่บ้านน่ะค่ะ"
  โห นิมนต์พระไปตายถึงที่บ้านเลย อาตมาจึงบอกไปว่า ถ้านิมนต์ไปงานศพไปให้ได้ แต่ถ้าเชิญไปมรณภาพนี่ ช่วงนี้อาตมาไม่ว่างจริงๆ ขอตัวเถอะนะโยม
 
  จากตัวอย่างข้างต้น คุณโยมอาจจะเห็นเป็นเรื่องขบขัน แต่มันก็สะท้อนให้เห็นความห่างเหินระหว่างคนกับวัดได้ในระดับหนึ่ง ปัจจุบันนี้คนจะนึกถึงวัดในกรณีพิเศษ เท่านั้น เช่นงานบวช งานศพ
 
  ต่างกับสมัยก่อนที่วัดเป็นศูนย์กลางของชุมชน ฆราวาสกับพระจึงสนทนากันไหลลื่น ไม่มีคำแปลกๆ หรือผิดที่ผิดทางออกมาให้พระสะดุ้งแต่อย่างใด ซึ่งถ้าพูดถึงศัพท์แสงที่แสลงใจแล้ว ตอนไปบิณฑบาตอาตมาจะเจอบ่อยมาก เช่นมีอยู่ครั้งหนึ่งระหว่างที่กำลังเดินๆอยู่ ก็ได้ยินเสียงใสๆ แว่วขึ้นมา
  "แม่ๆ พระมาขอข้าว"
  "มาเยอะไหมลูก"
  "มา 2 อัน"
  โห เรียกอย่างกับชิ้นส่วนรถยนต์ นี่ถ้ามาเยอะๆไม่เรียกเป็นฝูงเลยเหรอ
 
  ดังนั้นเวลาไปบรรยายธรรมให้นักเรียนฟัง อาตมาจะนำเรื่องนี้ไปสอดแทรกเพื่อสอนเด็กๆด้วย
  "ถ้าพระกิน เรียก ฉัน"
  " พระนอน เรียก จำวัด" (บางคนเรียก ขี้เกียจเป็นพระนอนไปได้)
  " พระป่วย เรียก อาพาธ"
  " พระตาย เรียก มรณภาพ" (ไม่ใช่เรียกป่อเต็กตึ๊งนะ)
  " แล้วพระอาบน้ำล่ะ เรียกอะไรเอ่ย" คราวนี้อาตมาถามให้เด็กๆ ตอบบ้าง
  " เรียกคนมาดู"