นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขกล่าวในรายการ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ พบประชาชน วันที่ 23 มิถุนายนพ.ศ.2555 ในเรื่องการดูแลสุขภาพของประชาชนว่า นายกรัฐมนตรีได้ประสานงานให้กระทรวงแรงงาน กระทรวงการคลัง และกระทรวงสาธารณสุข พัฒนากองทุน 3 กองทุนคือ กองทุนประกันสังคมสวัสดิการกองทุนข้าราชการ และกองทุนหลักประกันสุขภาพเพื่อให้ทุกโรงพยาบาลของรัฐสามารถรับผู้ป่วยฉุกเฉินเข้ารักษาที่ใดก็ได้ที่ใกล้ที่สุดโดยใช้บัตรประชาชนเพียงใบเดียว และได้รับบริการและคุณภาพของยาในมาตรฐานที่เท่าเทียมกันทั้ง3 กองทุน
นายวิทยา ยังกล่าวต่อว่า การรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อHIV ซึ่งมียอดผู้ป่วยที่รับยาต้านเอดส์บนกองทุนที่เป็นหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าถึง148,357 จะดูแลให้เต็มที่ ขณะเดียวกันจะทำงานเชิงรุกป้องกันไม่ให้มีผู้ป่วยรายใหม่โดยอาจจะร่วมมือกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.)ในการรณรงค์
ขณะเดียวกันรัฐบาลก็ให้ความสำคัญกับระบบ Telemedicine ที่ให้แพทย์สามารถให้คำปรึกษากับคนไข้ผ่านระบบออนไลน์ซึ่งจะใช้โปรแกรม skype ทำให้แพทย์และคนไข้สามารถติดต่อกันผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ได้ทันทีแม้จะอยู่คนละสถานที่กันก็ตามซึ่งปัจจุบันใช้แล้วกว่า 1,000 แห่ง
นอกจากนี้จะนำการรักษาแบบ 30 บาทรักษาทุกโรคกลับมาใช้อีก แต่ในครั้งนี้ผู้ป่วยสามารถใช้สิทธิ์การรักษาตามโครงการดังกล่าวได้ทุกโรงพยาบาลของรัฐทั่วประเทศ โดยตอนนี้อยู่ในขั้น ทำความเข้าใจกับประชาชนด้านคุณภาพ