ผู้เขียน หัวข้อ: สาธารณสุขคลัง-แรงงานถกแก้กองทุนให้เสมอภาค  (อ่าน 1172 ครั้ง)

ABBA

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2105
    • ดูรายละเอียด
"วิทยา" ผุดไอเดียไข่แลกยาเก่า พร้อมเตรียมนัดกระทรวงแรงงาน การคลัง และสาธารณสุข มาถกหาทางแก้กฎระเบียบ แต่ละกองทุนให้มีความเสมอภาคกัน ในเรื่องสิทธิ์ในการรักษาพยาบาล ต้องไม่มีความเหลื่อมล้ำ หรือเลือกปฏิบัติ ประกอบด้วย 3 กองทุนยักษ์ โดยกรณีป่วยฉุกเฉินใช้บัตรประชาชนใบเดียวก็พอ และเข้าไปรักษาพยาบาลได้ทุกโรงพยาบาล

สาธารณสุขคลัง-แรงงานถกแก้กองทุนให้เสมอภาค

 
ข่าวทั่วไป หนังสือพิมพ์บ้านเมือง -- อาทิตย์ที่ 24 มิถุนายน 2555 00:00:57 น.
"วิทยา" ผุดไอเดียไข่แลกยาเก่า พร้อมเตรียมนัดกระทรวงแรงงาน การคลัง และสาธารณสุข มาถกหาทางแก้กฎระเบียบ แต่ละกองทุนให้มีความเสมอภาคกัน ในเรื่องสิทธิ์ในการรักษาพยาบาล ต้องไม่มีความเหลื่อมล้ำ หรือเลือกปฏิบัติ ประกอบด้วย 3 กองทุนยักษ์ โดยกรณีป่วยฉุกเฉินใช้บัตรประชาชนใบเดียวก็พอ และเข้าไปรักษาพยาบาลได้ทุกโรงพยาบาล


 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี งดจัดรายการ "รัฐบาลยิ่งลักษณ์ พบประชาชน" แต่ได้มอบหมาย ให้นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แจงรายละเอียดหลักประกันสุขภาพ ดำเนินรายการโดย นายธีรัตถ์ รัตนเสวี

นายวิทยา กล่าวว่า นโยบายเรื่องการดูแลเรื่องสุขภาพของพี่น้องประชาชนนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ดูแลข้อเท็จจริงว่า ทำอย่างไรให้ใช้สิทธิ์จาก 3 กองทุน ได้แก่ กองทุนข้าราชการพลเรือน, กองทุนหลักประกันสุขภาพ และกองทุนประกันสังคม ให้เกิดความเท่าเทียมกัน ไม่เหลื่อมล้ำกัน โดยมีกระทรวงแรงงาน กระทรวงการคลัง และกระทรวงสาธารณสุข มาบูรณาการเพื่อทำงานร่วมกัน โดยใช้ทั้ง 3 สิทธิ์ ได้อย่างเสมอภาค อย่างกรณีผู้ป่วยฉุกเฉิน ซึ่งสามารถใช้สิทธิ์ได้ทันที เพียงแค่มีบัตรประชาชนก็สามารถเข้ารับการรักษาได้ทุกโรงพยาบาลแล้ว

"นายกรัฐมนตรียังมอบหมายในส่วนเรื่องโรคเอดส์ที่ต้องดูแลเรื่องการรักษาให้มีความเสมอภาค เอดส์ที่ต้องดูแลเรื่องการรักษาให้มีความเสมอภาค โดยต้องทำให้ 3 กองทุนมีมาตรฐานเดียวกัน เมื่อประชาชนเข้ารับการรักษาและเมื่อดูแลการรักษาแล้ว จะต้องดูแลเรื่องการป้องการเพื่อไม่ให้เกิดผู้ป่วยโรคเอดส์รายใหม่ ซึ่งตรงนี้ทางกระทรวงก็จะนำมาสรุปเพื่อหาข้อมูลที่ชัดเจนในการดำเนินการไปในทิศทางเดียวกัน หาข้อที่ดีที่สุดเพื่อดูแลสุขภาพของคนไทย ส่วนการรักษาโรคไต ไตวาย ซึ่งมีผู้ป่วยจำนวนมาก และขั้นตอนการรักษาค่อนข้างยุ่งยากไม่ว่าจะเป็นการล้างไต การดูแลก็ดี การพบหมอ การล้างช่องท้อง การล้างผ่านเส้นเลือด ตรงนี้นายกรัฐมนตรีย้ำว่า ขอให้ดูแลผู้ป่วยโรคนี้โดยใช้ทั้ง 3 สิทธิ์ได้อย่างครอบคลุม" นายวิทยา กล่าว

ส่วนกรณียาที่ใช้ในการรักษาที่ประชาชนเข้ารับการรักษาและมีการเปลี่ยนสิทธิ์ หรือเปลี่ยนโรงพยาบาลรักษาและกลัวว่าจะไม่ได้ยาเดิมนั้น ทางกระทรวงเล็งเห็นถึงความสำคัญและได้มีการตั้งคณะกรรมการดูแลเรื่องยาโดยรวมทั้ง 3 กองทุน หาข้อสรุปว่า ควรซื้อยาลักษณะแบบไหน อย่างไร เพื่อให้เกิดบรรทัดฐานเดียวกัน

"ในบัญชียาหลักจะมีการพูดคุยกัน เพื่อแสวงหายาที่เหมาะสมและราคาที่เหมาะสม เพื่อเป็นประโยชน์แก่พี่น้องประชาชน อีกทั้งจะมีการกระตุ้นให้ประชาชนนำยาเก่าหมดอายุแล้วมาแลกกับไข่ เนื่องจากยาที่ได้ไปใช้ไม่หมด และมีจำนวนมาก ต้องแก้ปัญหาโดยไม่นำยาเก่าที่หมดอายุมาใช้อีกและส่งผลให้สุขภาพเสื่อมลง ซึ่งช่วยลดงบประมาณ แต่ยืนยันไม่ลดคุณภาพของยาแน่นอน" นายวิทยา

หนังสือพิมพ์บ้านเมือง